ตัวผมน่ะครับ พึ่งเรียนจบ ได้ 1 ปี เกณฑ์ ทหารต่อ ผมหางานในพื้นที่ จังหวัด หนึ่ง ภาคอีสาน Udontani บริษัทนี้เป็น บริษัท รับทำโฆษณา ทั้งในไทยและต่างประเทศ ผมคิดว่ามันตรงสายผมดี ผมจบการตลาดมา เลยคิดว่า ลองยื่น สมัคร ดู แต่ สิ่งสำคัญ คือ ผม สมัครงานผ่าน App Jop สีส้ม ซึ่งประเด็นตรงนี้มันทำให้หน้าเชื่อถือ มากขึ้น ผมอ่านรายละเอียดงานไป ไม่จำเป้นต้องมีประสบการณ์ และ ว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง 1.สำเนาบัตรประชาชน 2.สำเนาทะเบียนบ้าน 3.วุฒการศึกษาปวส.ขึ้นไป ภาพถ่าย 1 รูป (อันนี้คือเขียนในที่สมัครงาน)
ผมส่ง Resume แต่ยังไม่ส่งเอกสารไป ไปวันที่ 29 เขาโทรมาวันที่ 5 ให้ไปสัมภาษณ์งานที่ บริษัท พรุ่งนี้ ผมไป เขานัด 9.30 ผมมา 9 โมงกว่าๆ มีคนอยู่ ก่อนแล้ว 3 คน หญิง 2 ชาย 1 ผู้หญิงกำลังนั่งกรอกเอกสารสมัครงานอยู่ เขาก็เรียกให้ผมไปกรอก แล้วจะมีอีกคนอยู่หน้า บริษัท เป็นโต๊ะต้อนรับคน คอยเรียกไป สัมภาษณ์ ต่อมามีอีกคนตามผมมา รวมเป็น 5 คน ผมเริ่มคิดแล้วว่า บริษัทนี้ทำไมถึงมีคนหน้าตาดีมาสมัครงานเยอะจัง ซึ่งตัดกลับมาที่ตัวผมไม่ได้ดูดีไปกว่า ผู้ชาย 2 คนนั้นเลยเรื่อง หน้าตา แต่เรื่องการแต่งกายผมแต่งแบบสุภาพไป จะมีอีกคนที่แต่งเหมือนผม อีกคนที่มาแต่งเหมือนแฟชั่นเลยอ่ะ ซึ่งผมก็คิด และหลังจากผมกรอกเสร็จในเอกสารก็จะมีการถามประวัติซ้ำอีกรอบถามชื่อที่อยู่ การศึกษา ซึ่งผมไม่รู้จะให้เขียนอีกทำไม เพราะเขาเรียกให้ผม เอาเอกสารที่ต้องไปสมัคร ยื่นให้เขา 1.สำเนาทะเบียนบ้านโชคดีผมถ่ายแค่ข้างหน้า 2.สำเนาทะเบียนบ้านเป็นอันเก่าก่อนผมย้ายไปเกณฑ์ทหารซึ่งยังไม่ได้ย้ายกลับมา 3.วุฒการศึกษา 4.รูป ซึ่งผมก็ทำเองภาพ 1 นิ้ว ใส่สูท 1 ผมก็อ่าน ทำเสร็จส่ง แต่ประเด็นที่ผมกำลังกรอกเอกสาร ผมฟังไปด้วย แล้วมันดันเปิดเพลงเสียงดังอีก พนักงานต้อนรับข้างหน้าบริษัทมันรบกวนคนทำเอกสารซึ่งก็เริ่มคิดอีกผู้หญิงคุยกัน 2 คน เรื่องงาน ที่มาสมัคร อีกคน โดนเรียกไป สัมภาษณ์ก่อน ผมจับเวลาได้ ประมาณ 15-20 นาที คนที่ 2 ผู้หญิงเขาเรียกไป ว่า หนูพร้อมเริ่มงานไหมลูก ซึ่งเขาจะถามทุกคน เหมือนกดดันเราทางอ้อม หน่อยเพราะทุกคนตอบว่า พร้อมครับ/ค่ะ ซึ่ง ผู้หญิงคนนี้มีเอนเนอจี้และความมั่นใจเกินไป ในการเรียกสัมภาษณ์งานซึ่งเราไม่รู้จักเขามาก่อนแล้วน้ำเสียงเหมือนรู้จักกับคนที่ถามมาก่อนแล้ว การสัมภาษณ์ผมคิดว่า 15-20 นาทีเหมือนกัน เพราะรู้สึกนาน คนที่ 3 ผู้ชาย แต่ตัวเหมือนผม เสื้อแขนยาวใส่ไปสัมภาษณ์งาน ผมก็คิดว่า นานเหมือนกัน กับ 2 คนก่อนหน้า ต่อไปนี้คือรอบของผม (พนักงานพาผมเดินขึ้นบันไดไป ชั้น 3 ซึ่งห้องมันโล่งมาก ไม่มีแอร์ มีแค่ ที่นั่ง โซฟา เอาไว้รับแขก อีกห้องเป็นที่สัมภาษณ์ เขาเอาเอกสารของผมเดินเข้าไปบอกให้ผมรอ ผมยืนรอด้วยความตื่นเต้นเพราะจะได้สัมภาษณ์งานครั้งแรก เขาเรียกผมไปสัมภาษณ์ เป็นผู้หญิงคน 1 นั่งรอ สวัสดีพูดคุย ซึ่งเขาแนะนำตัว ว่าพี่เป็นผู้จัดการ สาขา อุดรธานี ซึ่งผมคิดเอ้า ไม่ใช่ HR หรอ ทุกที่ผมได้ยินมันต้องสัมภาษณ์ผ่าน HR ก่อน มาถึงผู้จัดการสาขาเลยหรอมันใช่หรอ ซึ่งก็พูดไปเขาบอกว่า บริษัทเราเป็น บริษัทรับทำโฆษณาให้กับ แบรนด์ชั้นนำมากกว่า 5000 แบรนด์ ซึ่งน้องเนี่ยมีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงานในอนาคตได้และไปได้ถึงต่างประเทศ บลาๆ และเราก็พูดคุยกัน ซึ่งสิ่งที่ผมสังเกตุได้ คนนี้ที่สัมภาษณ์ จัดฟัน แบบมีสีซึ่งส่วนตัวผมมองว่าคุณเป็นถึงผู้บริหาร จัดฟันแบบนี้ได้หรอ มีคังก็น่าจะจัดแบบใส หรือไม่ก็จัด แบบไม่ใส่ยางสีได้ ซึ่งมันคัดจากบุคลิกของหัวหน้างาน ผมไม่รู้น่ะอาจจะเป้นเรื่องปกติก้ได้ หลังพูดคุยเสร็จหวังว่าเราจะได้ทำงานร่วมกัน ซึ่งที่เราคุยกัน ผมว่ามัน ประมาณ 10 นาที ได้ซึ่งก่อนไปผมก็ดูเวลาอยู่ แล้วตัวผมเองก็รู้สึกอย่างนั้นแน่นอน ผมคิดว่า กูไม่ไม่หน้าได้งานแล้ว ซึ่งก็กลับไปหางานที่อื่น ต่อ
วันต่อมา เขาโทรมา ว่า น้อง ได้ผ่านการสัมภาษณ์งานรอบแรกแล้ว พี่อยากให้น้อง เตรียมตัวมา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย เตรียมปากกา มา เพราะว่าจะเป็นการ เทสงานและลงดูพื้นที่เพื่อประเมิน และทำข้อสอบด้วย ผมก้ตื่นเต้นเห้ยกูผ่าน สัมภาษณ์งาน รอบแรกแล้วได้ทดลองงาน ในวันพรุ่งนี้ ผมไป ได้ไปกรอกเอกสารเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้จะเป็นแนว คำถามแบบ กา ถามคำถามเกี่ยวกับงาน ที่ผมอ่าน คุณคิดว่า มีคนกำลังหางานมากกี่คนในปี นี้ และกำลังตกงาน ในปี นี้ แต่คือ ก่อนผมมามีผู้หญิงอีกคน อายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม ซึ่งต่างจากผู้หญิง 2 คนก่อน คือไม่ได้ดูดีจนเกินไป ซึ่งมันทำให้ผมคิดว่า OK คงไม่คิดมากเกินไป แต่ เอ๊ะ ผมเห็น ผู้หญิงคนนั้นกำลังกรอกเอกสาร แบบที่ผมกรอเมื่อ 2 วันแรกที่ผมมาสัมภาษณ์ แล้วเอกสารที่ผมกรอกขึ้นไปไม่นาน ซึ่ง พนักงานก็ลงมา หน้าตาคนพามาเหมือนวันที่ผมสัมภาษณ์เลยจัดฟันเหมือนกันแต่ลุคเปลี่ยนไปชื่อก็เปลี่ยนผมก็เอ๊ะในใจ พามาแนะนำรู้จัก กับพี่ที่เป็น พาทเนอร์และจะดูแลเราในวันนี้ระหว่างดูงาน 2 คน ชาย 1 หญิง 1 ผมก็ลุกขึ้นมาสวัสดี อย่างเร็ว แต่น้องผู้หญิงอีกคน ก็เหมือนไม่รู้ก็เหมือนจะทำตามผม ซึ่งเขาก็คุยว่าพวกน้องเนี่ยผ่านแล้วเราจะลงไปดูพื้นที่จริงในการทำงาน ผมไปกับผู้หญิงส่วน ผู้หญิงอีกคนไปกับผู้ชาย ซึ่งไม่ต้องรอเหมือนกับผม ระหว่างนั้นก็เดินออกมาคุยกับพี่ผู้หญิง แบบเป็นกันเองคุยกันเหมือนลดระยะห่าง ถามนุ่นนี้นั้น สักพัก อีก 2 คน เดินออกมา เป็น ผู้ชาย 2 คน เป็นทีมงาน ทั้ง3คนจะไปกับผมวันนี้ ซึ่งยังเป็นวัยรุ่นกันทุกคน อายุเป็นเกิน 30 ผมทำความรู้จักซึ่ง กลุ่มนี้พยายามสร้างบรรยากาศ ให้เป็นกันอยู่เสมอ แบบไม่เครียดในการทำงาน เราก็ขึ้นรถไป ผมถามเราจะไปไหนครับพี่ แล้วตรงนี้ก็เป็นจุดที่ผมสวัสดี คนขับรถเพราะคิดว่า พนักงานบริษัท แต่เอาไปเอามาพี่แกพูดออกมาพอดีคุยกันสนุกในรถ แกก็บอกว่า พี่มีส่งของตอนเช้า ดีน่ะพี่เอารถกระบะมา น้องเลยนั่งได้กันทุกคน อันนี้พึ่งเคยเรื่องใช้งาน บริการรถ Maxim ใช่ไหม ผมก็เอ๊ะ ไม่ใช่คนของบริษัท เรียกรถกันเองผมคิดจะลงพื้นที่กัน แต่ ไม่มีรถของบริษัท ผมถามเราจะไปไหนกันครับพี่ เป็นความลับเดี๋ยวไม่เซอไพรท์ ผมก็ไม่คิดอะไร มาลงที่หมู่บ้าน นั่งกินกาแฟกันถามว่าผมจะเอาอะไรสั่งได้เลยน่ะ แล้วผมก็นั่งดูของ แต่ของที่เขาเอามาด้วยเป็นแบบใส่สินค้า แบบ ที่ใส่ของเป็นนาฬิกา ใส่กระเป๋าสระพายลายการ์ตูน เก่าๆแล้ว ซึ่งมันไม่เข้ากับสิ่งที่จะไปขายเลย สินค้าเป็นแบรนด์ พินนาเคิล แบรนด์ญี่ปุ่น เขาขายจาก 1490 เหลือ 499 บาท ประกัน 6 เดือน เขามีใบโปรชัวร์ให้ผมมาดู เขาบอกว่าวันนี้น้องให้ดูพี่ทำงานก่อน ซึ่งผู้หญิงคนนี้ มี Skill ในการขายที่เก่ง ซึ่งเขาจะไปทางหมู่บ้าน ที่ผมก็ไม่รู้จักสักเท่าไหร่ ผมเดินไปเขาเรียกน้องยังไม่ได้จ่ายค่ากาฟแฟใช่ไหม อ๋อผมนึกในใจเห้ย ไม่เลี้ยงกูรอเนี่ย นึกว่าจะแบบ ถึงว่าเลี้ยงน้องใหม่ แต่ผมก็พูดแล้วอ๋อผมลืมครับพี่ สักพักเดินไปส่งของนัด ให้ ลุงคนนึง กำลังเตรียมงานบุญ เหงื่อ ท่วมตัว ผมคิดว่าใช้หน้ามาป่ะว่ะ แต่ป่าวเลย คนทั่วไปนี่และ เพราะแกก็พูดคุยตามประสา คนแก่นี่และ แล้วก็เดินขายไปเรื่อยๆ แต่ขายไม่ได้ ได้แค่นำเสนอ พาผมไปในพื้นที่ ก่อสร้าง ซึ่งผมมากับ ผู้หญิง อีก 2 คน เหมือนแยกกันไป ขายที่อื่น แต่เขาบอกผมว่าเรามาเพื่อประชาสัมพันธ์ สินค้า แต่ทำไมถึงอยู่ดีๆ เราก็ไปเป็นคนขายตรงสะได้ ซึ่งคนงานแถวนั้น ก็แบบดูแต่เขาทำงานอยู่เหมือนจะสนใจแต่ก็บอกว่า เงินยังไม่ออก ยังไม่เอาแล้วกันแต่ก็พยายามหว่านล่อมด้วยคำพูด นี่นั้นเพื่อให้สบายใจเหมือนคุยกับผม แต่ไม่ได้ก็เดินออกมา ซึ่งอากาศมันร้อนมากดีที่มีร่มให้ แต่ผมก็คิดอีกแล้ว มันลงพื้นที่กันยังไง ว่ะ บริษัท ให้พนักงานมาเดินขายตามบ้านแบบนี้ เดินไปสักพักในพื้นที่ ที่ทำงานก่อสร้างอีกแล้ว ซึ่งตัวเองเองก็สังเกตุว่า ทำไมถึง มาขายให้กับ คนพวกนี้ ซึ่ง ผมไม่ได้จะเหยียดในอาชีพอะไร แต่สินค้าที่จะมาขาย ดูดีเลย แต่มันไม่เข้ากับพวกเขาเลย ทำไมถึงไมขายให้กับคนที่มีกำลังซื้อมากว่าล่ะ เพราะเขา ทำงานลงแรง หาเช้า กินค่ำ วันล่ะเท่าไหร่ เงินรายวันยังไม่ถึงนาฬิกาเรือนนึงเลย นาฬิกาเรื่อนนึง ก็ 499- แล้ว เหมือนว่ากลุ่มคนที่เขาพาผมไปจะเป็นคนทำงาน กรรมกร คนแก่ สักพักเราก็พักเที่ยงกินข้าว ผมก็สั่ง สักพักกินเสร็จ เดี๋ยวพี่มีแนวข้อสอบให้น่ะ เขาก็บอกผม ตอนผมอ่านก็ไม่อะไรหรอก แต่เขาบอกว่าต้องจำให้ได้น่ะ เพราะคะแนนประเมิน 70% ดูงานนอกพื้นที่ อีก 30% สัมภาษณ์
แต่ผมว่าจุดนี้ นี้และจะเริ่มเป็นการล้างสมองแล้ว เพราะมันจะมีบางข้อที่ผมต้องจำเช่น บอกว่า บริษัทก่อตั้งครังแรกที่ แคนาดา โดย นาย .... ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ อเมริกา รัฐ แคริฟอเนีย บริษัทมี 5000 office ใน 113 ประเทศทั่วโลก ประเทศไทยมี 48 Office ตั้งใจจะขยาย 50 ในสิ้นปีนี้ ประชาสัมพันธ์ ให้กับแบรนด์สินค้า ชั้นนำมากกว่า 5000 แบรนด์ เช่น Ais Dtac Aque+ vitrapush fw1 เป็นต้น
คำถามแต่ล่ะอัน ผมคิดว่ามันดครตแปลกตอนนั้น ผมตั้งใจจะจำมันให้ได้ซึ่ง ผมไม่รู้ตัว แล้วว่ากำลังเริ่มถูกล้างสมองไปเรื่อยๆ มาถึงอีกคำถามนึงที่ผมเริ่มมา ได้สติก็คือ 3ขั้นต้อนสู่การเป็นผู้บริหาร 1.เป็นคนใหม่ 2. ซุปเปอร์ไวเซอร์ 3.เป็นผู้ช่วยผู้จัดการ
8.ขั้นตอนการทำงานที่ดี ผมว่าข้อนี้และคือข้อที่ ฝังแนวความคิดให้กับผม
1.มีทัศนคติที่ 2.ตรงต่อเวลา 3.เตรียมตัวล่วงหน้า 4.ทำงานเต็มวัน 5.ทำงานในพื้นที่ถูกต้อง 6.ยึดมั่นในทัศนคติที่ดีอย่างต่อเนื่อง
7.รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่และอยู่ที่นี้เพื่ออะไร 8.รู้จักควบคุม
ที่ผมกล่าวมาข้างต้น ทุกคนคิดว่ายังไง ผมคิดว่าถ้าใครอยู่ในจุดที่แบบอยากได้งาน อยากมีเงิน ผมว่าเราต้องทำต้องจำ ให้ได้ผมก็ตั้งใจเลยตอนนั้น
ตกเย็นเสร็จ ช่วง 17.00 ผมต้องทำข้อสอบผมคิดว่า จะทำในห้องเงียบๆ ในในบริษัทนั้น คนอย่างเยอะมาที่ไหนก็ไม่รู้ ผมก็สวัสดี ผมคิดว่าเป็นทีมงานของเขา เพราะบางคนก่อนผมจะเข้ามาทำงานที่นี้ ผมคุ้นหน้าแต่ล่ะคนมากเพราะแอบดูส่อง ผ่าน เฟสบุ๊ค เพจของเขา แถมเปิดเสียงดังอีกเพลง แล้วให้นั่งทำข้อสอบข้างนอกและเปิดเพลงไปด้วยเนี่ยน่ะ ซึ่งผมก็รีบทำเดี๊ยวลืมที่จำมา ทำเสร็จโดนเรียกขึ้นไป ชั้น 3 เหมือนเดิม รอบนี้ รอนานเพราะพาทเนอร์ที่ไปกับผมอยู่กับทั้งวัน เป็นคนเอาเอกสารไปให้ แต่ตอนทำเขาขอดู ว่าผมเขียนยังไงบ้าง ซึ่งผมเขียนคิดผิดไปบางข้อ และบอกให้ผมแก้ใหม่ซึ่งผมก็ เอ๊ะอีกแล้ว มันทำได้หรอ ไม่ใช่สอบเพื่อทำงาน เข้าไปสัมภาษณ์เจอคนนั้นที่ลง มาส่งพาทเนอร์ในช่วงเช้า เขาก็ถามเกี่ยวกับงานวันนี้ว่าผมเป็นยังไงบ้าง คุยๆ บอกว่าผมพร้อมเริ่มงานเลยไหม ผมบอกพร้อมครับ ก็วันนี้นะคะน้องได้ผ่านการเมิน พี่ยินด้วยนะคะ น้องผ่านการประเมิน ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ ซึ่งเขาเน้นเสียง น้องผ่าน ซึ่งผมก็แอบขำในใจว่า มันขนาดนั้นเลยหรอว่ะ อีก 4 คน ที่มา สัมภาษณ์งานกับผมวันนั้น เขาเหมาะกับผมอีกน่ะ ได้แต่คิดแต่หายเงียบไปเลย ซึ่งอัตราที่เขาต้องการคน คือ พนักงานวางแผนการตลาด 3 พนักงานจัดแสดงสินค้า 3 ผู้ช่วยผู้จัดการ 2 รวมเป็น 8 แต่ทำไมผมเห็นตัวผมแค่คนเดียว ผู้หญิงอีกคนที่สัมภาษณ์ไปไหน แต่ผมคิดว่า น่าจะโดนเหมือนกับ ผม ก่อนกับบ้านเขาขอแลก contact กับผม พาทเนอร์ เบอร์ ผมเอง เขาโทรเข้ามาแต่ผมยังไม่รับกดวางสายและ เพิ่มเพื่อนใน Line
กลับถึงบ้าน แม่ผมถามว่าเป็นยังไงบ้าง ผมก็เล่าตั้งแต่ แรกๆเลย ว่าเป็นยังไงแต่โครตสุด ที่แม่แม่ผมเป็นดูคนออกแบบ ชัดๆเลย แกมีประสบการณ์มากกว่าผม ตอนนั้นผมเถียงแม่ว่าไม่ใช่ บริษัทเขาเนี่ย เป็น บริษัท รอง ลงมาของบริษัท Otm ผมใช้ชื่อเพราะกลัวโดนเล่น ซึ่งมีแฟนเพจจริง แต่คนติดตามน้อยเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ที่เขาทำ ตอนแรกผมคิดว่าแม่คิดมากจนเกินไป เพราะผมเองก็หางานได้แล้วมาตัดความหวังผม แต่นั้นและผมทะเลาะกับแม่เล็กน้อยก็เดินออกมา แม่ผมบอกว่า ไม่เชื่อแม่แล้วจะไปเชื่อใคร ผมเลยลองหาข้อมูล ทุกอย่าง สินค้าที่เราขายวันนี้ ก็ไม่มี แบรนด์ชัดเจน ซึ่งมีกระทู้พันทิปตั้งไว้อยู่ ช่วยผมได้เยอะเลย และ reddit ก็ช่วยผมได้ อยากให้เพื่อนๆไปหาดู
(
https://www.reddit.com/r/recruitinghell/comments/1d5eoqg/optimo_scam/?tl=th&rdt=52086)
(
https://ppantip.com/topic/37796532)
(
https://www.facebook.com/groups/jobthaiofficial/posts/115756107178
!เตือนจริงๆสำหรับคนที่กำลังหางาน 2025
ผมส่ง Resume แต่ยังไม่ส่งเอกสารไป ไปวันที่ 29 เขาโทรมาวันที่ 5 ให้ไปสัมภาษณ์งานที่ บริษัท พรุ่งนี้ ผมไป เขานัด 9.30 ผมมา 9 โมงกว่าๆ มีคนอยู่ ก่อนแล้ว 3 คน หญิง 2 ชาย 1 ผู้หญิงกำลังนั่งกรอกเอกสารสมัครงานอยู่ เขาก็เรียกให้ผมไปกรอก แล้วจะมีอีกคนอยู่หน้า บริษัท เป็นโต๊ะต้อนรับคน คอยเรียกไป สัมภาษณ์ ต่อมามีอีกคนตามผมมา รวมเป็น 5 คน ผมเริ่มคิดแล้วว่า บริษัทนี้ทำไมถึงมีคนหน้าตาดีมาสมัครงานเยอะจัง ซึ่งตัดกลับมาที่ตัวผมไม่ได้ดูดีไปกว่า ผู้ชาย 2 คนนั้นเลยเรื่อง หน้าตา แต่เรื่องการแต่งกายผมแต่งแบบสุภาพไป จะมีอีกคนที่แต่งเหมือนผม อีกคนที่มาแต่งเหมือนแฟชั่นเลยอ่ะ ซึ่งผมก็คิด และหลังจากผมกรอกเสร็จในเอกสารก็จะมีการถามประวัติซ้ำอีกรอบถามชื่อที่อยู่ การศึกษา ซึ่งผมไม่รู้จะให้เขียนอีกทำไม เพราะเขาเรียกให้ผม เอาเอกสารที่ต้องไปสมัคร ยื่นให้เขา 1.สำเนาทะเบียนบ้านโชคดีผมถ่ายแค่ข้างหน้า 2.สำเนาทะเบียนบ้านเป็นอันเก่าก่อนผมย้ายไปเกณฑ์ทหารซึ่งยังไม่ได้ย้ายกลับมา 3.วุฒการศึกษา 4.รูป ซึ่งผมก็ทำเองภาพ 1 นิ้ว ใส่สูท 1 ผมก็อ่าน ทำเสร็จส่ง แต่ประเด็นที่ผมกำลังกรอกเอกสาร ผมฟังไปด้วย แล้วมันดันเปิดเพลงเสียงดังอีก พนักงานต้อนรับข้างหน้าบริษัทมันรบกวนคนทำเอกสารซึ่งก็เริ่มคิดอีกผู้หญิงคุยกัน 2 คน เรื่องงาน ที่มาสมัคร อีกคน โดนเรียกไป สัมภาษณ์ก่อน ผมจับเวลาได้ ประมาณ 15-20 นาที คนที่ 2 ผู้หญิงเขาเรียกไป ว่า หนูพร้อมเริ่มงานไหมลูก ซึ่งเขาจะถามทุกคน เหมือนกดดันเราทางอ้อม หน่อยเพราะทุกคนตอบว่า พร้อมครับ/ค่ะ ซึ่ง ผู้หญิงคนนี้มีเอนเนอจี้และความมั่นใจเกินไป ในการเรียกสัมภาษณ์งานซึ่งเราไม่รู้จักเขามาก่อนแล้วน้ำเสียงเหมือนรู้จักกับคนที่ถามมาก่อนแล้ว การสัมภาษณ์ผมคิดว่า 15-20 นาทีเหมือนกัน เพราะรู้สึกนาน คนที่ 3 ผู้ชาย แต่ตัวเหมือนผม เสื้อแขนยาวใส่ไปสัมภาษณ์งาน ผมก็คิดว่า นานเหมือนกัน กับ 2 คนก่อนหน้า ต่อไปนี้คือรอบของผม (พนักงานพาผมเดินขึ้นบันไดไป ชั้น 3 ซึ่งห้องมันโล่งมาก ไม่มีแอร์ มีแค่ ที่นั่ง โซฟา เอาไว้รับแขก อีกห้องเป็นที่สัมภาษณ์ เขาเอาเอกสารของผมเดินเข้าไปบอกให้ผมรอ ผมยืนรอด้วยความตื่นเต้นเพราะจะได้สัมภาษณ์งานครั้งแรก เขาเรียกผมไปสัมภาษณ์ เป็นผู้หญิงคน 1 นั่งรอ สวัสดีพูดคุย ซึ่งเขาแนะนำตัว ว่าพี่เป็นผู้จัดการ สาขา อุดรธานี ซึ่งผมคิดเอ้า ไม่ใช่ HR หรอ ทุกที่ผมได้ยินมันต้องสัมภาษณ์ผ่าน HR ก่อน มาถึงผู้จัดการสาขาเลยหรอมันใช่หรอ ซึ่งก็พูดไปเขาบอกว่า บริษัทเราเป็น บริษัทรับทำโฆษณาให้กับ แบรนด์ชั้นนำมากกว่า 5000 แบรนด์ ซึ่งน้องเนี่ยมีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงานในอนาคตได้และไปได้ถึงต่างประเทศ บลาๆ และเราก็พูดคุยกัน ซึ่งสิ่งที่ผมสังเกตุได้ คนนี้ที่สัมภาษณ์ จัดฟัน แบบมีสีซึ่งส่วนตัวผมมองว่าคุณเป็นถึงผู้บริหาร จัดฟันแบบนี้ได้หรอ มีคังก็น่าจะจัดแบบใส หรือไม่ก็จัด แบบไม่ใส่ยางสีได้ ซึ่งมันคัดจากบุคลิกของหัวหน้างาน ผมไม่รู้น่ะอาจจะเป้นเรื่องปกติก้ได้ หลังพูดคุยเสร็จหวังว่าเราจะได้ทำงานร่วมกัน ซึ่งที่เราคุยกัน ผมว่ามัน ประมาณ 10 นาที ได้ซึ่งก่อนไปผมก็ดูเวลาอยู่ แล้วตัวผมเองก็รู้สึกอย่างนั้นแน่นอน ผมคิดว่า กูไม่ไม่หน้าได้งานแล้ว ซึ่งก็กลับไปหางานที่อื่น ต่อ
วันต่อมา เขาโทรมา ว่า น้อง ได้ผ่านการสัมภาษณ์งานรอบแรกแล้ว พี่อยากให้น้อง เตรียมตัวมา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย เตรียมปากกา มา เพราะว่าจะเป็นการ เทสงานและลงดูพื้นที่เพื่อประเมิน และทำข้อสอบด้วย ผมก้ตื่นเต้นเห้ยกูผ่าน สัมภาษณ์งาน รอบแรกแล้วได้ทดลองงาน ในวันพรุ่งนี้ ผมไป ได้ไปกรอกเอกสารเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้จะเป็นแนว คำถามแบบ กา ถามคำถามเกี่ยวกับงาน ที่ผมอ่าน คุณคิดว่า มีคนกำลังหางานมากกี่คนในปี นี้ และกำลังตกงาน ในปี นี้ แต่คือ ก่อนผมมามีผู้หญิงอีกคน อายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม ซึ่งต่างจากผู้หญิง 2 คนก่อน คือไม่ได้ดูดีจนเกินไป ซึ่งมันทำให้ผมคิดว่า OK คงไม่คิดมากเกินไป แต่ เอ๊ะ ผมเห็น ผู้หญิงคนนั้นกำลังกรอกเอกสาร แบบที่ผมกรอเมื่อ 2 วันแรกที่ผมมาสัมภาษณ์ แล้วเอกสารที่ผมกรอกขึ้นไปไม่นาน ซึ่ง พนักงานก็ลงมา หน้าตาคนพามาเหมือนวันที่ผมสัมภาษณ์เลยจัดฟันเหมือนกันแต่ลุคเปลี่ยนไปชื่อก็เปลี่ยนผมก็เอ๊ะในใจ พามาแนะนำรู้จัก กับพี่ที่เป็น พาทเนอร์และจะดูแลเราในวันนี้ระหว่างดูงาน 2 คน ชาย 1 หญิง 1 ผมก็ลุกขึ้นมาสวัสดี อย่างเร็ว แต่น้องผู้หญิงอีกคน ก็เหมือนไม่รู้ก็เหมือนจะทำตามผม ซึ่งเขาก็คุยว่าพวกน้องเนี่ยผ่านแล้วเราจะลงไปดูพื้นที่จริงในการทำงาน ผมไปกับผู้หญิงส่วน ผู้หญิงอีกคนไปกับผู้ชาย ซึ่งไม่ต้องรอเหมือนกับผม ระหว่างนั้นก็เดินออกมาคุยกับพี่ผู้หญิง แบบเป็นกันเองคุยกันเหมือนลดระยะห่าง ถามนุ่นนี้นั้น สักพัก อีก 2 คน เดินออกมา เป็น ผู้ชาย 2 คน เป็นทีมงาน ทั้ง3คนจะไปกับผมวันนี้ ซึ่งยังเป็นวัยรุ่นกันทุกคน อายุเป็นเกิน 30 ผมทำความรู้จักซึ่ง กลุ่มนี้พยายามสร้างบรรยากาศ ให้เป็นกันอยู่เสมอ แบบไม่เครียดในการทำงาน เราก็ขึ้นรถไป ผมถามเราจะไปไหนครับพี่ แล้วตรงนี้ก็เป็นจุดที่ผมสวัสดี คนขับรถเพราะคิดว่า พนักงานบริษัท แต่เอาไปเอามาพี่แกพูดออกมาพอดีคุยกันสนุกในรถ แกก็บอกว่า พี่มีส่งของตอนเช้า ดีน่ะพี่เอารถกระบะมา น้องเลยนั่งได้กันทุกคน อันนี้พึ่งเคยเรื่องใช้งาน บริการรถ Maxim ใช่ไหม ผมก็เอ๊ะ ไม่ใช่คนของบริษัท เรียกรถกันเองผมคิดจะลงพื้นที่กัน แต่ ไม่มีรถของบริษัท ผมถามเราจะไปไหนกันครับพี่ เป็นความลับเดี๋ยวไม่เซอไพรท์ ผมก็ไม่คิดอะไร มาลงที่หมู่บ้าน นั่งกินกาแฟกันถามว่าผมจะเอาอะไรสั่งได้เลยน่ะ แล้วผมก็นั่งดูของ แต่ของที่เขาเอามาด้วยเป็นแบบใส่สินค้า แบบ ที่ใส่ของเป็นนาฬิกา ใส่กระเป๋าสระพายลายการ์ตูน เก่าๆแล้ว ซึ่งมันไม่เข้ากับสิ่งที่จะไปขายเลย สินค้าเป็นแบรนด์ พินนาเคิล แบรนด์ญี่ปุ่น เขาขายจาก 1490 เหลือ 499 บาท ประกัน 6 เดือน เขามีใบโปรชัวร์ให้ผมมาดู เขาบอกว่าวันนี้น้องให้ดูพี่ทำงานก่อน ซึ่งผู้หญิงคนนี้ มี Skill ในการขายที่เก่ง ซึ่งเขาจะไปทางหมู่บ้าน ที่ผมก็ไม่รู้จักสักเท่าไหร่ ผมเดินไปเขาเรียกน้องยังไม่ได้จ่ายค่ากาฟแฟใช่ไหม อ๋อผมนึกในใจเห้ย ไม่เลี้ยงกูรอเนี่ย นึกว่าจะแบบ ถึงว่าเลี้ยงน้องใหม่ แต่ผมก็พูดแล้วอ๋อผมลืมครับพี่ สักพักเดินไปส่งของนัด ให้ ลุงคนนึง กำลังเตรียมงานบุญ เหงื่อ ท่วมตัว ผมคิดว่าใช้หน้ามาป่ะว่ะ แต่ป่าวเลย คนทั่วไปนี่และ เพราะแกก็พูดคุยตามประสา คนแก่นี่และ แล้วก็เดินขายไปเรื่อยๆ แต่ขายไม่ได้ ได้แค่นำเสนอ พาผมไปในพื้นที่ ก่อสร้าง ซึ่งผมมากับ ผู้หญิง อีก 2 คน เหมือนแยกกันไป ขายที่อื่น แต่เขาบอกผมว่าเรามาเพื่อประชาสัมพันธ์ สินค้า แต่ทำไมถึงอยู่ดีๆ เราก็ไปเป็นคนขายตรงสะได้ ซึ่งคนงานแถวนั้น ก็แบบดูแต่เขาทำงานอยู่เหมือนจะสนใจแต่ก็บอกว่า เงินยังไม่ออก ยังไม่เอาแล้วกันแต่ก็พยายามหว่านล่อมด้วยคำพูด นี่นั้นเพื่อให้สบายใจเหมือนคุยกับผม แต่ไม่ได้ก็เดินออกมา ซึ่งอากาศมันร้อนมากดีที่มีร่มให้ แต่ผมก็คิดอีกแล้ว มันลงพื้นที่กันยังไง ว่ะ บริษัท ให้พนักงานมาเดินขายตามบ้านแบบนี้ เดินไปสักพักในพื้นที่ ที่ทำงานก่อสร้างอีกแล้ว ซึ่งตัวเองเองก็สังเกตุว่า ทำไมถึง มาขายให้กับ คนพวกนี้ ซึ่ง ผมไม่ได้จะเหยียดในอาชีพอะไร แต่สินค้าที่จะมาขาย ดูดีเลย แต่มันไม่เข้ากับพวกเขาเลย ทำไมถึงไมขายให้กับคนที่มีกำลังซื้อมากว่าล่ะ เพราะเขา ทำงานลงแรง หาเช้า กินค่ำ วันล่ะเท่าไหร่ เงินรายวันยังไม่ถึงนาฬิกาเรือนนึงเลย นาฬิกาเรื่อนนึง ก็ 499- แล้ว เหมือนว่ากลุ่มคนที่เขาพาผมไปจะเป็นคนทำงาน กรรมกร คนแก่ สักพักเราก็พักเที่ยงกินข้าว ผมก็สั่ง สักพักกินเสร็จ เดี๋ยวพี่มีแนวข้อสอบให้น่ะ เขาก็บอกผม ตอนผมอ่านก็ไม่อะไรหรอก แต่เขาบอกว่าต้องจำให้ได้น่ะ เพราะคะแนนประเมิน 70% ดูงานนอกพื้นที่ อีก 30% สัมภาษณ์
แต่ผมว่าจุดนี้ นี้และจะเริ่มเป็นการล้างสมองแล้ว เพราะมันจะมีบางข้อที่ผมต้องจำเช่น บอกว่า บริษัทก่อตั้งครังแรกที่ แคนาดา โดย นาย .... ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ อเมริกา รัฐ แคริฟอเนีย บริษัทมี 5000 office ใน 113 ประเทศทั่วโลก ประเทศไทยมี 48 Office ตั้งใจจะขยาย 50 ในสิ้นปีนี้ ประชาสัมพันธ์ ให้กับแบรนด์สินค้า ชั้นนำมากกว่า 5000 แบรนด์ เช่น Ais Dtac Aque+ vitrapush fw1 เป็นต้น
คำถามแต่ล่ะอัน ผมคิดว่ามันดครตแปลกตอนนั้น ผมตั้งใจจะจำมันให้ได้ซึ่ง ผมไม่รู้ตัว แล้วว่ากำลังเริ่มถูกล้างสมองไปเรื่อยๆ มาถึงอีกคำถามนึงที่ผมเริ่มมา ได้สติก็คือ 3ขั้นต้อนสู่การเป็นผู้บริหาร 1.เป็นคนใหม่ 2. ซุปเปอร์ไวเซอร์ 3.เป็นผู้ช่วยผู้จัดการ
8.ขั้นตอนการทำงานที่ดี ผมว่าข้อนี้และคือข้อที่ ฝังแนวความคิดให้กับผม
1.มีทัศนคติที่ 2.ตรงต่อเวลา 3.เตรียมตัวล่วงหน้า 4.ทำงานเต็มวัน 5.ทำงานในพื้นที่ถูกต้อง 6.ยึดมั่นในทัศนคติที่ดีอย่างต่อเนื่อง
7.รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่และอยู่ที่นี้เพื่ออะไร 8.รู้จักควบคุม
ที่ผมกล่าวมาข้างต้น ทุกคนคิดว่ายังไง ผมคิดว่าถ้าใครอยู่ในจุดที่แบบอยากได้งาน อยากมีเงิน ผมว่าเราต้องทำต้องจำ ให้ได้ผมก็ตั้งใจเลยตอนนั้น
ตกเย็นเสร็จ ช่วง 17.00 ผมต้องทำข้อสอบผมคิดว่า จะทำในห้องเงียบๆ ในในบริษัทนั้น คนอย่างเยอะมาที่ไหนก็ไม่รู้ ผมก็สวัสดี ผมคิดว่าเป็นทีมงานของเขา เพราะบางคนก่อนผมจะเข้ามาทำงานที่นี้ ผมคุ้นหน้าแต่ล่ะคนมากเพราะแอบดูส่อง ผ่าน เฟสบุ๊ค เพจของเขา แถมเปิดเสียงดังอีกเพลง แล้วให้นั่งทำข้อสอบข้างนอกและเปิดเพลงไปด้วยเนี่ยน่ะ ซึ่งผมก็รีบทำเดี๊ยวลืมที่จำมา ทำเสร็จโดนเรียกขึ้นไป ชั้น 3 เหมือนเดิม รอบนี้ รอนานเพราะพาทเนอร์ที่ไปกับผมอยู่กับทั้งวัน เป็นคนเอาเอกสารไปให้ แต่ตอนทำเขาขอดู ว่าผมเขียนยังไงบ้าง ซึ่งผมเขียนคิดผิดไปบางข้อ และบอกให้ผมแก้ใหม่ซึ่งผมก็ เอ๊ะอีกแล้ว มันทำได้หรอ ไม่ใช่สอบเพื่อทำงาน เข้าไปสัมภาษณ์เจอคนนั้นที่ลง มาส่งพาทเนอร์ในช่วงเช้า เขาก็ถามเกี่ยวกับงานวันนี้ว่าผมเป็นยังไงบ้าง คุยๆ บอกว่าผมพร้อมเริ่มงานเลยไหม ผมบอกพร้อมครับ ก็วันนี้นะคะน้องได้ผ่านการเมิน พี่ยินด้วยนะคะ น้องผ่านการประเมิน ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ ซึ่งเขาเน้นเสียง น้องผ่าน ซึ่งผมก็แอบขำในใจว่า มันขนาดนั้นเลยหรอว่ะ อีก 4 คน ที่มา สัมภาษณ์งานกับผมวันนั้น เขาเหมาะกับผมอีกน่ะ ได้แต่คิดแต่หายเงียบไปเลย ซึ่งอัตราที่เขาต้องการคน คือ พนักงานวางแผนการตลาด 3 พนักงานจัดแสดงสินค้า 3 ผู้ช่วยผู้จัดการ 2 รวมเป็น 8 แต่ทำไมผมเห็นตัวผมแค่คนเดียว ผู้หญิงอีกคนที่สัมภาษณ์ไปไหน แต่ผมคิดว่า น่าจะโดนเหมือนกับ ผม ก่อนกับบ้านเขาขอแลก contact กับผม พาทเนอร์ เบอร์ ผมเอง เขาโทรเข้ามาแต่ผมยังไม่รับกดวางสายและ เพิ่มเพื่อนใน Line
กลับถึงบ้าน แม่ผมถามว่าเป็นยังไงบ้าง ผมก็เล่าตั้งแต่ แรกๆเลย ว่าเป็นยังไงแต่โครตสุด ที่แม่แม่ผมเป็นดูคนออกแบบ ชัดๆเลย แกมีประสบการณ์มากกว่าผม ตอนนั้นผมเถียงแม่ว่าไม่ใช่ บริษัทเขาเนี่ย เป็น บริษัท รอง ลงมาของบริษัท Otm ผมใช้ชื่อเพราะกลัวโดนเล่น ซึ่งมีแฟนเพจจริง แต่คนติดตามน้อยเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ที่เขาทำ ตอนแรกผมคิดว่าแม่คิดมากจนเกินไป เพราะผมเองก็หางานได้แล้วมาตัดความหวังผม แต่นั้นและผมทะเลาะกับแม่เล็กน้อยก็เดินออกมา แม่ผมบอกว่า ไม่เชื่อแม่แล้วจะไปเชื่อใคร ผมเลยลองหาข้อมูล ทุกอย่าง สินค้าที่เราขายวันนี้ ก็ไม่มี แบรนด์ชัดเจน ซึ่งมีกระทู้พันทิปตั้งไว้อยู่ ช่วยผมได้เยอะเลย และ reddit ก็ช่วยผมได้ อยากให้เพื่อนๆไปหาดู
(https://www.reddit.com/r/recruitinghell/comments/1d5eoqg/optimo_scam/?tl=th&rdt=52086)
(https://ppantip.com/topic/37796532)
(https://www.facebook.com/groups/jobthaiofficial/posts/115756107178