ในปี 20XX โลกเข้าสู่ภาวะปัญหา ทั้งการแย่งชิงและโรคระบาด โลกยังดำเนินไปยังแนวทางแห่งความพินาศ สัตว์โลก และพืชพันธุ์ เริ่มทรุดโทรมเป็นอย่างมาก และยังไม่สามารถมีทางแก้ได้
ณ.แหล่งรวมเทพต่าง
              เทพธิดาแห่งโลก สาวหน้าคม รูปร่างอวบอิ่ม ผิวสีเปลือกไม้ ผมสีเขียว ยาวสลวยถึงเอว
 ประตู มิติสีฟ้า เปิดออก จากนั้น เทพธิดาแห่งโลก ได้เดินออกมาก โดยเอามือทั้งสองปกปิดใบหน้า มือที่เคยอวบอิ่มมีน้ำมีนวลกลับเหี่ยวเฉา และดูแห้ง มือทั้งสองข้าง เปิดง่ามนิ้ว ให้เห็นเพียงลูกตาสีฟ้า และได้ตะโกนด้วยน้ำเสียงที่โกรธเกรียว
เทพธิดาแห่งโลก “ไหนเจ้าพวก เทพแห่งภัยพิบัติ ไหนเจ้าบอกจะลด เจ้าพวกมนุษย์ เป็นจำนวนมากเพื่อให้ข้าได้ฟื้นฟู ทำไมมันยังคงเหมือนเดิม”
              ชายหนุ่มผิวสีขาวผมสีทองยาวสลวยประบ่า ขี่ม้า สีขาวใส่เกราะทั้งตัว สวมมงกุฎสีทองอยู่บนศีรษะ ขี่ม้าออกมาจากเงามืดด้านหนึ่ง พร้อมพูดเสียงละห้อย
ชายหนุ่ม “ข้าได้ทำตามที่ท่านบอก ส่งคนเสียงกระซิบไป เพื่อยุยงเหล่ามนุษย์ ให้สร้างเชื้อโรค เพื่อให้คนตาย เพื่อให้เกิดโกลาหล  จนเทพแห่งสงคราม ทำลายโลก”
              เทพธิดาแห่งโลก หันไปทางชายหนุ่ม ด้วยสายตาที่โกรธเกลี้ยวผ่านช่องนิ้วของตน พร้อมตะโกนด่า
เทพธิดาแห่งโลก “แต่เจ้าก็ทำมันได้เพียง สามถึงสี่ปี จากที่มันต้องระบาดวนไปมาเป็นสิบๆปีแบบแต่ก่อนเพื่อให้มนุษย์จำนวนมากต้องเสียไปจน เกิดความไม่สมดุลและแย่งชิง”
              ชายผมสีทอง ทำหน้าเจื่อนและหลบสายตาลงอย่างรู้สึกผิด
              ชายหนุ่มผิวสีแดง รูปร่าสูงใหญ่กำยำ ผมยาวดำมัน หนวดเคราสั้น ใส่เสื้อคลุมหนังหมี สวมหมวกเกราะเขาสัตว์ หน้ากากปิดครึ่งหน้า เดินจูงมาสีแดง สวมเกราะหนักออกมา จากด้านหลัง ชายผมสีทอง
ชายผมดำ “อย่าไปว่า จ้าวแห่งการหลงระเริงไปเลย เทพแห่งความรู้ ที่ท่านเคยให้มนุษย์ไป มัน ทำงานได้ดีเกินไปต่างหาก”
              ชายผมดำ เปิดกระเป๋าหนังพาดท้ายม้าออก แล้วค้นเข้าไปในกระเป๋า หยิบ หน้ากากไม้สีเขียว ที่มีสายเป็น หนังสัตว์ให้ แก่เทพธิดา
              เทพธิดาก็ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปรับ ทำให้เห็นใบหน้าที่แห้ง และเริ่มมีฝุ่นผงหลุดออกจากใบหน้า ดวงตาที่ เคย เป็นสีฟ้าทั้งหมดกลับมีสีเทาเจือปนจางๆ หลังจากรับไป เทพธิดาก็เบือนหน้าลง แล้วสวมใส่มัน เทพธิดาแห่งโลกพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นลง
เทพธิดาแห่งโลก “ใช่ ข้าเคยรักพวกมัน ข้าทดลองให้ความรู้มัน แต่มันกลับทำร้ายข้าถึงเพียงนี้ “
เทพธิดา แห่งโลกยื่นแขนที่แห้งทั้งสองออกมาข้างหน้า ทำให้เห็นคอที่เหี่ยวแห้งอย่างหนักเหมือนหญิงแก่
มีตาชั่ง ยื่นมาจากเงามืด หลังจากนั้นก็มีชาย ผิวซีดผมสีขาว ผอมเห็นกระดุก ใส่ผ้าสีเปื้อนฝุ่น ขี่ม้าสีดำออกมา
ชายร่างผอม “ตอนนี้ ข้าได้เตรียมการไว้หมดแล้ว โดยร่วมมือกับ จ้าวแห่งความหลงระเริง ยังคงยุงแยง ให้เจ้าพวกละโมภหลงผิดก่อสงครามกันต่อ”
              ชายผมสีทองกลับเงยหน้าขึ้น พร้อมเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงเข้มแข็ง
ชายผมสีทอง “ ใช่ข้ายังคงให้มันหลงระเริง ว่ายังคงมีอำนาจ หลอกลวงโดยผ่าน ความสามรถของ สาวกข้า ฝังหัวในหลายศาสนา ว่าเจ้าเทพแห่งความรู้ แท้จริงเป็นเทพ ตก สวรรค์ไปแล้วเพื่อให้การมีสติ และความนึก คิดอย่างมีเหตุผลลดลง เพียงแต่”
              เทพทุกองค์เงียบ เพื่อรอให้ชายหนุ่มเอย
              โครงกระดูกขี่ม้าสีกะเลียว ใส่ชุดคลุมดำในมือถือเคียวเกี่ยวข้าว เอ่ยแทรกต่อ
โครงกระดูก “ เพียงแค่ เคียวแห่งการเก็บเกี่ยวของข้า มันยังคงเก็บมาได้ เพียงแค่กลุ่ม เล็กๆ เพราะ สาวกของจ้าวแห่งความหลงระเริง มันไปไม่ถึง ทำให้ สาวกเทพแห่งสงคราม พ่ายแพ้ และ อ่อนกำลัง จ้าวแห่งความอดอยาก ก็ทำร้ายอีกฝั่งไม่ได้เพราะ พื้นที่เพาะปลูกเพิ่มจากการเปลี่ยนแปลงของท่าน”
ชายร่างผอม  “ก็เจ้าหัวทอง มันมัวแต่ ไปหลอกให้ รวมที่ดิน แถมมันยัง ให้ฝั่งมันไม่ต้องทำงาน พวกมนุษย์ มันเลยใช้กระดาษ ออกมาเป็นสัญญาลม โดยไม่ให้ พัฒนา จนฝั่งที่เทพแห่งสงครามอาวุธถดถอย”
              ชายผมดำ ยกมือทั้งสองขึ้น พร้อมกล่าวห้ามทั้งสาม ที่เริ่มทำท่าจะทะเลาะกัน
ชายผมดำ “พอได้แล้วตอนนี้ เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว นอกจากให้เกิดสงครามใหญ่”
ชายผมสีทอง “ข้าก็ยุให้แล้วเพียงแต่ เจ้าพวกขี้ขลาดนั่นมันจะไม่รบถ้ามันไม่ชนะ”
ชายผมดำ “เจ้าไม่ต้องต่อข้า ข้ากำลังเสนออยู่นี้ไง”
              พื้นที่ ก็แปรเปลี่ยน เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ เหมือนโคลอสเซียม โดยมีเหล่าเทพจำนวนมากนั่งอยู่ บนที่นั่ง ชายผมสีดำ แสยะยิ้มออกมา พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันดังก้อง
ชายผมสีดำ “ในเมื่อ การรบกันระหว่างสองกลุ่มใหญ่มันไม่ปะทุ เพราะ เจ้าพวกขี้ขลาดนั้น เราก็สร้างกลุ่มใหม่โดยให้พวกมันเลือกกันแบบ แฟร์ๆ”
เทพธิดาแห่งโลก “แล้วเจ้าคิดจะทำเช่นไร”
ชายผมสีดำ “ตอนนี้ เทพแห่งธรรมชาติ ทั้ง สัตว์และ พืช ต่างรู้สึกคับข้องใจเพียงแค่ท่านสั่ง ก็คงจะพร้อมเปลี่ยนเหล่าสัตว์และพืช ให้กลายเป็นสิ่งที่ไล่ล่ามนุษย์”
เทพธิดาแห่งโลก “ถ้าเจ้าพวกนั้น เอาเข้าจริงๆ มนุษย์ก็ไม่เหลือสิ”
ชายผมสีดำ “ข้ารู้จัก เทพจากอีกมิติ ที่ออกกฎให้มนุษย์ แต่ละคนมีความพิเศษ”
เทพธิดาแห่งโลก “แต่ในการกระทำเหล่านั้น ไม่ว่าจะแปลเปลี่ยนสัตวหรือ มนุษย์ ต้องใช้พลังงานแห่งวิญญาณจำนวนมาก แล้วถ้าเริ่มจากฝ่ายสัตว์ มนุษย์คงหมดโลก ในไม่กี่วัน”
ชายผมสีดำ “ท่านก็เริ่มจากฝั่งมนุษย์ โดยให้เทพมนุษย์ แต่ละ ถิ่นที่ดูแล”
 เทพธิดาแห่งโลก “งั้นพวกสัตว์ก็เหมือนเดิมสิ โลกก็ไม่ได้เปลี่ยน”
ชายผมสีดำ “เชื่อเทพแห่งสงครามอย่างข้าเหอะ จากนี้ เราะจะมาพนันกัน ว่าจิตใจของมนุษย์ จะเป็นเช่นไร”
เทพธิดาแห่งโลก “เจ้าหมายความว่า”
ชายผมสีดำ “เราจะเริ่มการพนัน ของเราเหล่าทวยเทพ ว่าสุดท้าย โลกจะกลายเป็นนรกสำหรับมนุษย์ หรือว่า จะเป็น แดนแห่งสันติสุข ของเหล่า มนุษย์ไปตลอดกาล โดยให้พวกมันตัดสินกันเอง ซึ่งไม่ว่า แบบไหน เราก็จะได้วิญญาณจำนวนมาก และท่านก็จะได้พัก”
              เทพธิดาแห่งโลก ยื่นมือข้างหนึ่งออกมา แล้วทำให้พื้นสว่างมีภาพของโลกอยู่บนพื้น มีเหล่าเทพ จำนวนมากที่นั่งอยู่ตากลุกขึ้นยืน จากนั้นก็มีคทาไม้ ลอยลงมายังมือเทพธิดาแห่งโลก
เมื่อนั้น เทพธิดาแห่งโลก ก็ทำการยกคทาขึ้น มีดวงแสงเล็กๆ จำนวนมาก ลอยออกจากคทา ไปยังที่นั่ง ของผู้ชม  
เทพธิดาแห่งโลก “จากนี้ เราเหล่าทวยเทพจะมา พนันกัน มันเกมพนันของเราเหล่าเทพ ว่า เหล่ามนุษย์ มันจะเลือก ไปทางไหนกัน ข้าขอให้อำนาจกับเจ้า เหล่าเทพท้องถิ่น จงวิวัฒนาเหล่ามนุษย์ ให้ไปอีกขั้นแล้วเราจะเริ่มเกมกัน”
เหล่าเทพบนอัณฑะจันท์ ต่างส่งเสียงร้องดีใจ แต่กลับมี เทพเห่งการรักษา และ เทพแห่งความรู้ ทำหน้าปั้นยากอยู่บนนั้น