สุดท้ายอีกฝ่ายก็ไม่ยอม
จึงเปลี่ยนข้อเสนอ แบบเบาๆลงอีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับปาก
สุดท้ายผมเปลี่ยนข้อเสนอลดแลกแจกแถม คือไม่เอาอะไรแล้ว ขอแค่ยอมรับปากแบบง่ายๆที่ไม่มีผลอะไรกับเรื่องที่ทะเลาะกัน
แรกๆเขาก็ยอมนะครับ เพราะเป็นเงื่อนไขที่เขาไม่เสียอะไรเลย ผมก็สบายใจที่เขายอมตกลง
จนระยะหลังเขาเริ่มจับได้ว่า เราต้องการให้เขาแค่พูดรับปากเพื่อเราให้สบายใจ
เขาจึงเปลี่ยนเป็นไม่รับปากอะไรกับผมทั้งนั้น
ครั้งสุดท้ายผมถึงขั้นยอมขั้นสุดยอด ถึงขนาดว่าถามคำถามปัญญาอ่อนเพื่อให้เขาตอบตกลง แล้วค่อยมาหลอกตัวเองว่าเขารับปากแล้วเราสบายใจได้
เช่น1+1เท่ากับเท่าไหร่ 5+5เท่ากับเท่าไหร่ ผมเขาตอบผมก็มโนหลอกตัวเองว่ารับปากแล้ว
พอเขารู้จุดประสงค์ผมเขาเงียบรูดปิดปากไม่ตอบใดๆทั้งสิ้น สร้างความโมโหไม่สบายใจผมมากขึ้น
เขาสารภาพกับผมบอกว่าถ้าเราทะเลาะกันแล้วไม่ยอมกัน ก็อย่าคาดหวังว่าจะมาหลอกหรือพูดตรงๆให้อีกฝ่ายสบายใจเด็ดขาด เขาจะเจ็บใจมากและไม่อยากทำ
ต่อให้ผมหลอกตัวเองโดยการให้พูดอะไรปัญญาอ่อนแล้วผมจะสบายใจ ก็อย่าหวังว่าเขาจะทำให้ ถ้าทำให้เขาจะร้องไห้ทันที
ถ้าการทำให้คู่กรณีที่ทะเลาะกันสบายใจหายโกรธด้วยคำพูดที่ไม่ต้องลงทุนอะไร มันทำให้ร้องไห่ได้
อุตส่าห์เปลี่ยนเป็นคำพูดที่ปัญญาอ่อนให้มันดูซอร์ฟแล้ว
เขาเสนอมาว่าถ้าอยากดีกันอย่าให้เขาทำอะไรแบบนี้ และอย่าพยายามหลอกให้เขาทำอะไรที่ทำให้ตัวเองเอาไปใช้หลอกสมองตัวเองว่าชนะแล้ว
ถ้ามารู้ทีหลังก็จะไม่ยอมเด็ดขาดและจะเสียใจหนักมาก
ถือแม้กระทั่งเรื่องปัญญาอ่อน
คิดยังไงกับคนที่มีความคิดแบบนี้ครับ
ผมมีนิสัยเวลาทะเลาะกับคนในครอบครัวแล้ว จะพยายามคุยเจรจาให้อีกฝ่ายรับปาก
จึงเปลี่ยนข้อเสนอ แบบเบาๆลงอีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับปาก
สุดท้ายผมเปลี่ยนข้อเสนอลดแลกแจกแถม คือไม่เอาอะไรแล้ว ขอแค่ยอมรับปากแบบง่ายๆที่ไม่มีผลอะไรกับเรื่องที่ทะเลาะกัน
แรกๆเขาก็ยอมนะครับ เพราะเป็นเงื่อนไขที่เขาไม่เสียอะไรเลย ผมก็สบายใจที่เขายอมตกลง
จนระยะหลังเขาเริ่มจับได้ว่า เราต้องการให้เขาแค่พูดรับปากเพื่อเราให้สบายใจ
เขาจึงเปลี่ยนเป็นไม่รับปากอะไรกับผมทั้งนั้น
ครั้งสุดท้ายผมถึงขั้นยอมขั้นสุดยอด ถึงขนาดว่าถามคำถามปัญญาอ่อนเพื่อให้เขาตอบตกลง แล้วค่อยมาหลอกตัวเองว่าเขารับปากแล้วเราสบายใจได้
เช่น1+1เท่ากับเท่าไหร่ 5+5เท่ากับเท่าไหร่ ผมเขาตอบผมก็มโนหลอกตัวเองว่ารับปากแล้ว
พอเขารู้จุดประสงค์ผมเขาเงียบรูดปิดปากไม่ตอบใดๆทั้งสิ้น สร้างความโมโหไม่สบายใจผมมากขึ้น
เขาสารภาพกับผมบอกว่าถ้าเราทะเลาะกันแล้วไม่ยอมกัน ก็อย่าคาดหวังว่าจะมาหลอกหรือพูดตรงๆให้อีกฝ่ายสบายใจเด็ดขาด เขาจะเจ็บใจมากและไม่อยากทำ
ต่อให้ผมหลอกตัวเองโดยการให้พูดอะไรปัญญาอ่อนแล้วผมจะสบายใจ ก็อย่าหวังว่าเขาจะทำให้ ถ้าทำให้เขาจะร้องไห้ทันที
ถ้าการทำให้คู่กรณีที่ทะเลาะกันสบายใจหายโกรธด้วยคำพูดที่ไม่ต้องลงทุนอะไร มันทำให้ร้องไห่ได้
อุตส่าห์เปลี่ยนเป็นคำพูดที่ปัญญาอ่อนให้มันดูซอร์ฟแล้ว
เขาเสนอมาว่าถ้าอยากดีกันอย่าให้เขาทำอะไรแบบนี้ และอย่าพยายามหลอกให้เขาทำอะไรที่ทำให้ตัวเองเอาไปใช้หลอกสมองตัวเองว่าชนะแล้ว
ถ้ามารู้ทีหลังก็จะไม่ยอมเด็ดขาดและจะเสียใจหนักมาก
ถือแม้กระทั่งเรื่องปัญญาอ่อน
คิดยังไงกับคนที่มีความคิดแบบนี้ครับ