มาเล่าประสบการณ์ชีวิตคู่ที่ต้องจบลงเพราะเรื่องการเงินของครอบครัวอีกฝ่ายค่ะ
ต่อจากกระทู้นี้ เมื่อปีที่แล้วนะคะ
https://m.ppantip.com/topic/42498051?
หลังตัดสินใจจบความสัมพันธ์กับพี่ป. (นามสมมติ) คืนถัดมาเราเก็บข้าวของและกำลังจะออกมาค่ะ แต่พี่ป. เขามาขอให้เราอยู่ โดยยืนข้อเสนอว่า เอาตามที่เราต้องการและเราสบายใจ ก็คือ กำหนดจำนวนเงินที่จะส่งให้แม่อย่างชัดเจน และไม่มีการขอเพิ่มทุกกรณี (ยกเว้น เจ็บป่วย เรายินดีดูแลค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว เพราะคิดว่าแม่เขาก็เหมือนแม่เรา) เราก็ตกลง และอยู่ด้วยต่อไปจนมาถึงวันนี้
เท้าความก่อนว่า พ่อเลี้ยงกับแม่(แท้ๆของพี่ป.) ทำงานบ้านนายค่ะ ซึ่งเขาให้เงินเดือน 11,000 บาท/2คน ตกคนละ 5,500 บาท แต่ไม่ได้ทำงานตลอด แค่เฝ้าบ้าน ทำความสะอาด พอเวลาว่าง 2 คน ก็จะพากันไปบ่อนค่ะ คืออยู่บ่อนแทบจะตลอดถ้าไม่ได้อยู่บ้านนาย (ส่วนตัวเราไม่รู้นะคะว่าได้เงินจากบ่อนมากน้อยแค่ไหน ที่รู้ๆคือ หนี้สินเขาประมาณ 300,000 เมื่อปี 67 นะคะ)
ถ้าตีกลมๆ รายรับพ่อกับแม่พี่ป. คือ 11,000+3000ที่เราส่งให้+3000ที่น้องสาวพี่ป.ส่งให้ รวมแล้ว ต่ำๆประมาณ 17k ซึ่งเราก็พอรู้ภาระเขานะคะ ก็จะมีน้าของพี่ป. ที่เขาไม่ได้ทำงานอะไร แม่ของพี่ป.เลยต้องหาเลี้ยง แล้วก็มีพี่สาวพี่ป. มีลูกติด 1 คน ที่ชอบมาขอเงินแม่ตลอด
ปัญหาเริ่มมาจากที่ เมื่อปี ธ.ค.67 ที่ผ่านมา แม่พี่ป. มาขอให้ไปกู้เงินให้ค่ะ โดยเอารถแม่พี่ป.ไปเข้าไฟแนนซ์ให้ (รถแม่พี่ป. เป็นชื่อพี่ป.นะคะ) ตอนแรกแม่พี่ป.บอกว่าจะเป็นคนค้ำ แล้วให้พี่ป.เป็นคนกู้ แต่เงินเดือนแม่ต่ำกว่าที่กำหนดเลยค้ำไม่ได้ค่ะ พี่ป.เลยมาขอให้เราค้ำให้ เราก็ตกลง
***เหตุผลที่กู้ คือต้องการให้แม่เอาเงินไปปิดหนี้นอกระบบนะคะ ได้เงินมา 250k ซึ่งยังไม่พอใช้หนี้แต่ก็ลดดอกเบี้ยนอกระบบได้เยอะค่ะ แม่พี่ป.ก็บอกว่าไหว (ส่งเดือนละ 6,300บาท ทุกวันที่10)
เกิดอะไรขึ้นรู้มั้ยคะ
งวดแรก (ม.ค.68) แม่พี่ป.โทรมาบอกให้จ่ายให้ก่อน เราก็โอเค ไม่มีปัญหาเพราะยังพอมีเงินสดอยู่นิดหน่อย (ที่เหลือเงินสดไม่เยอะเพราะปีก่อนซื้อทองดองไว้ค่ะ) แล้วแม่พี่ป.ก็พึ่งโอนมาให้วันที่ 20 ม.ค. ค่ะ
งวดสอง (ก.พ.68) แม่พี่ป.ก็บอกให้จ่ายก่อนอีก แต่ตอนนั้นเงินสดเราไม่พอค่ะ เพราะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปธุระที่ตจว. เราเลยขอยืมแม่เรา 2000 บาท (เรื่องนี้พี่ป.ไม่รู้นะคะ) แล้วแม่พี่ป.ก็โอนมาให้อีกทีวันที่ 19
งวดสาม (มี.ค.68) เหมือนเคยค่ะ แต่รอบนี้เราบอกว่าไม่มี เพราะไม่อยากไปยืมแม่ค่ะ แล้วเรามารู้ที่หลังว่าแม่ไปกู้นอกระบบมาจ่ายค่ารถงวดนี้ เมื่อต้นเมษา68นี้เอง
งวดปัจจุบัน (เม.ย.68) เหมือนเดิมเลยค่ะ รอบนี้เราก็จ่ายให้ก่อน เรารู้ว่าแม่พี่ป. คืนให้แน่ๆค่ะ แต่บังเอิญได้มีโอกาสคุยกับน้องสาวพี่ป.เลยได้รู้ว่า
น้องสาวพี่ป.ก็โดนเหมือนกันกับเราคือโทรมาขอเงินตลอด แต่น้องเขาโดนหนักกว่า คือ ถ้าไม่มีให้เขาก็จะด่า(ด่าแรงมาก น้องโทรมาร้องไห้เลย)และให้ไปกู้นอกระบบมาให้ค่ะ เราเลยบอกน้องไปว่าตั้งแต่กู้เงินไปปิดหนี้ให้ แม่พี่ป.ก็โทรมายืมตลอด 5000-10k และตอนที่โทรมาก็คืออยู่บ่อน ถ้าเราให้ แล้วเขาเล่นเสีย เขาก็จะกู้มาคืน แต่ถ้าเล่นได้ก็โชคดีไป แต่ถ้าเราไม่ให้ยืม เขาก็จะกู้มาเล่นค่ะ มีครั้งนึงเขาโทรมาบอกว่าแม่ไม่มีเงินกินข้าวแล้ว เราเลยโอนให้เพิ่ม2000 (ต้นเดือนให้ไปแล้ว3000นะคะ) น้องสาวพี่ป.บอกว่าค่าแชร์ของแม่ เดือนละ7000 น้องก็เป็นคนหาทยอยส่งให้ค่ะ เพราะเมื่อก่อนพี่ป.เป็นคนส่ง(ก่อนมีเรา) เดือนละ10k+
จุดแตกหักอยู่ตรงนี้ค่ะ เราจะพิมให้อ่านเข้าใจง่ายๆนะคะ
เรา : ถ้าแม่ยังส่งไม่ตรงเวลาแบบนี้ เกิดวันไหนเราไม่มีเงินสำรองจะทำยังไง สิ้นเดือนอยากซื้อทองก้อนสุดท้าย (เพราะเรากำลังจะไปเรียนต่อค่ะ รับเงินเดือนสิ้นเดือนนี้เดือนสุดท้าย ค่ากินค่าใช้หลังจากนี้ เราตกลงกันไว้ว่าพี่ป.จะทำงานคนเดียว และส่งเสียให้เราจนเรียนจบค่ะ)
พี่ป. : ก็ค่อยซื้อ
เรา : แลัวถ้ามันขึ้นราคาละ
พี่ป. : จะซื้อก็ซื้อ
เรา : ได้ติดแบล็คลิสละมั้งเนี่ย
พี่ป. : เราแยกกันใช้เงินมั้ย ต่างคนต่างใช้ เงินใครเงินมัน จะได้ไม่ต้องมีปัญหา
เรา : สรุปพี่เลือกเราหรือเลือกแม่ ถ้าเลือกแม่ก็แยกกันไป
พี่ป. : ได้ เดี๋ยวเก็บของวันนี้เลย
เรา : จะเอาอย่างนี้ใช่มั้ย ไม่เลือกเราใช่มั้ย
พี่ป. : ทำไมต้องเลือกด้วยวะ
เรา : ไม่คิดจะไปคุยกับแม่หน่อยเหรอว่าทำแบบนี้เราต้องเดือดร้อน
พี่ป. : นี่จะไปเปลี่ยนอะไรแม่ได้ แม่ก็เล่นเป็นอาชีพไปแล้ว
เรา : อาชีพเหรอ ถ้ามันได้มันก็รวยแล้วดิ นี่ยิ่งเล่นยิ่งเป็นหนี้
พี่ป. : เออ แม่นี่ไม่เก่งเหมือนแม่เธอ
เรา : แล้วเกี่ยวอะไร กู้ก็กู้ไปแล้ว ก็แค่ไปคุยกับแม่ว่าเปลี่ยนจากส่งแชร์เป็นส่งรถไม่ดีเหรอ ขนาดกู้ไปปิดหนี้การเงินยังแย่กว่าเดิมอีก (แม่พี่ป. เหมือนคนเล่นแชร์หวังใช้หนี้อะค่ะ จากที่น้องสาวเล่าให้ฟัง คือ แม่พี่ป. ส่งแชร์ หวังได้เงินแสน แต่ส่งยังไม่ทันครบกำหนดค่ะ พอไปบ่อนแล้วเล่นไม่ได้ ก็เอาจากแชร์ออกมาก่อน กลายเป็นส่งวนไป ห่างไกลจากเงินแสนมากขึ้น)
พี่ป. : พอละ ท้อละ ปวดหัวเรื่องงานยังต้องมาปวดหัวเรื่องนี้อีก
เรา : แล้วจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป?
พี่ป. : ขอพูดอะไรหน่อยเหอะ เวลาครอบครัวเธอมากินมาเที่ยว หมดกี่หมื่นนี่ไม่เคยว่าเลยนะ แต่กับครอบครัวนี่ใจเธอมันไม่ได้ว่ะ
เรา : ไม่ได้ยังไง หลานเธอไม่สบายนี่เคยไม่ให้เงินไหม เวลาเข้าไปที่บ้านก็มีของติดมือไปฝากตลอด หลานอยากได้อยากกินอะไรก็ซื้อให้ (หลานคือลูกพี่สาว กับลูกน้องสาว)
พี่ป. : ถ้าคนมันอยากให้จริงมันไม่มาพูดทวงบุณคุญแบบนี้หรอก กูรู้นิสัย(คำนี้เจ็บมาก ฮ่าๆ จริงอยากจะพูดว่า เวลาวันเกิดใครในบ้านเขา เช่น แม่ ยาย น้องสาว พี่สาว หลาน2คน เราเป็นคนออกเงินค่ากับข้าว(ทำกินที่บ้าน)ค่าเหล้าตลอดนะคะ พี่ป.ก็รู้ แต่คงไม่คิดว่าจะมากมายมั้งคะ ปีก่อนที่ไปจัดงานวันเกิดบ้านเขา ก็หมดไปรวมๆ 7,000 ค่ะ ส่วนงานคนอื่นไม่เยอะ ประมาณ3,000-4,000 แล้ววันเกิดแม่พี่ป.เราก็ซื้อทองให้แม่พี่ป.นะคะ ครึ่งสลึง)
เรา : เข้าใจแล้ว ว่าพี่ไม่เคยเลือกเราเลย พูดตรงๆนะ ต่อให้เป็นพ่อแม่เราเราก็จะช่วยแค่เท่าที่ไหว แต่พ่อแม่เราไม่มีทางสร้างหนี้สินแน่ๆ ก็เห็นอยู่ว่าการเงินครอบครัวเรามั่นคงแค่ไหน ไม่เคยมารบกวนเรา และมีแต่ถามว่าพอใช้ไหม (บ้านเราไม่ได้รวยนะคะ ไม่ถึงขัเนมีฐานะด้วย แต่เคยล้มมาก่อนและจะไม่กลับไปล้มอีก)
ในใจอยากจะถามเขานะคะ ว่าระหว่างอนาคตที่มีเรา กับกลับไปช่วยแม่ใช้หนี้ไปวันๆ จะเอาแบบไหน แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป
พี่ป. : ก็ตามนั้น ต่างคนต่างใช้ชีวิตเถอะ แล้วก็ไปเรียนให้จบ แยกกัน อะไรๆอาจจะดีขึ้น นี่คงมีใครไม่ได้หรอก อยู่คนเดียวดีกว่า
เราตัดสินใจไม่พูดอะไรต่อ แล้วเขาก็เก็บข้าวของของเขาออกไป
มีครั้งนึงเราเคยนอนคุยกันเล่นๆว่า ถ้าถูกหวย6ล้าน จะเขาไปทำอะไร ถ้าเป็นคนทั่วไปคงจะตอบว่า ใช้หนี้ ซื้อบ้าน ซื้อรถ ใช้มั้ยคะ แต่พี่ป. ตอบว่าจะซื้อที่ดินสร้างบ้านให้พ่อแม่ญาติพี่น้องที่มีทุกคน(ประมาณ30คน) คนละหลัง แล้วให้เขาทำมาหากิน ทำไร่ทำสวน ในที่ดินผืนนั้น จะได้ไม่ต้องไปทำงานรับจ้างอื่นๆ 6ล้านน่าจะพอ
มันก็สะกิดใจเรานิดนึงนะคะ เข้าใจว่าเป็นความใฝ่ฝัน แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เหมือนกับไม่ได้คิดอนาคตที่มีเราอยู่เลยค่ะ
ปล.ทุกคนอย่าว่าพี่ป.เขาเลยนะคะ จนถึงตอนนั้นเราก็ยังยืนยันคำเดิมว่าพี่เขาเป็นคนดีจริงๆ และไม่เปลี่ยนไปเลย ที่ทุกอย่างมาถึงจุดนี้ก็เพราะเป็นการตัดสินใจของเขาค่ะ
จบแล้วค่ะทุกคน ความสัมพันธ์ที่กินเวลาไม่กี่ปี แต่ได้ประสบการณ์ชีวิตมาพอสมควรเลย อยากให้คนที่ได้มาอ่านเก็บเรื่องราวของเราไว้เป็นนิทานสอนใจเล่มนึงนะคะ ขอบคุณค่ะ
เรื่องราวของคนที่ถูกรัก แต่ไม่ถูกเลือก
ต่อจากกระทู้นี้ เมื่อปีที่แล้วนะคะ https://m.ppantip.com/topic/42498051?
หลังตัดสินใจจบความสัมพันธ์กับพี่ป. (นามสมมติ) คืนถัดมาเราเก็บข้าวของและกำลังจะออกมาค่ะ แต่พี่ป. เขามาขอให้เราอยู่ โดยยืนข้อเสนอว่า เอาตามที่เราต้องการและเราสบายใจ ก็คือ กำหนดจำนวนเงินที่จะส่งให้แม่อย่างชัดเจน และไม่มีการขอเพิ่มทุกกรณี (ยกเว้น เจ็บป่วย เรายินดีดูแลค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว เพราะคิดว่าแม่เขาก็เหมือนแม่เรา) เราก็ตกลง และอยู่ด้วยต่อไปจนมาถึงวันนี้
เท้าความก่อนว่า พ่อเลี้ยงกับแม่(แท้ๆของพี่ป.) ทำงานบ้านนายค่ะ ซึ่งเขาให้เงินเดือน 11,000 บาท/2คน ตกคนละ 5,500 บาท แต่ไม่ได้ทำงานตลอด แค่เฝ้าบ้าน ทำความสะอาด พอเวลาว่าง 2 คน ก็จะพากันไปบ่อนค่ะ คืออยู่บ่อนแทบจะตลอดถ้าไม่ได้อยู่บ้านนาย (ส่วนตัวเราไม่รู้นะคะว่าได้เงินจากบ่อนมากน้อยแค่ไหน ที่รู้ๆคือ หนี้สินเขาประมาณ 300,000 เมื่อปี 67 นะคะ)
ถ้าตีกลมๆ รายรับพ่อกับแม่พี่ป. คือ 11,000+3000ที่เราส่งให้+3000ที่น้องสาวพี่ป.ส่งให้ รวมแล้ว ต่ำๆประมาณ 17k ซึ่งเราก็พอรู้ภาระเขานะคะ ก็จะมีน้าของพี่ป. ที่เขาไม่ได้ทำงานอะไร แม่ของพี่ป.เลยต้องหาเลี้ยง แล้วก็มีพี่สาวพี่ป. มีลูกติด 1 คน ที่ชอบมาขอเงินแม่ตลอด
ปัญหาเริ่มมาจากที่ เมื่อปี ธ.ค.67 ที่ผ่านมา แม่พี่ป. มาขอให้ไปกู้เงินให้ค่ะ โดยเอารถแม่พี่ป.ไปเข้าไฟแนนซ์ให้ (รถแม่พี่ป. เป็นชื่อพี่ป.นะคะ) ตอนแรกแม่พี่ป.บอกว่าจะเป็นคนค้ำ แล้วให้พี่ป.เป็นคนกู้ แต่เงินเดือนแม่ต่ำกว่าที่กำหนดเลยค้ำไม่ได้ค่ะ พี่ป.เลยมาขอให้เราค้ำให้ เราก็ตกลง
***เหตุผลที่กู้ คือต้องการให้แม่เอาเงินไปปิดหนี้นอกระบบนะคะ ได้เงินมา 250k ซึ่งยังไม่พอใช้หนี้แต่ก็ลดดอกเบี้ยนอกระบบได้เยอะค่ะ แม่พี่ป.ก็บอกว่าไหว (ส่งเดือนละ 6,300บาท ทุกวันที่10)
เกิดอะไรขึ้นรู้มั้ยคะ
งวดแรก (ม.ค.68) แม่พี่ป.โทรมาบอกให้จ่ายให้ก่อน เราก็โอเค ไม่มีปัญหาเพราะยังพอมีเงินสดอยู่นิดหน่อย (ที่เหลือเงินสดไม่เยอะเพราะปีก่อนซื้อทองดองไว้ค่ะ) แล้วแม่พี่ป.ก็พึ่งโอนมาให้วันที่ 20 ม.ค. ค่ะ
งวดสอง (ก.พ.68) แม่พี่ป.ก็บอกให้จ่ายก่อนอีก แต่ตอนนั้นเงินสดเราไม่พอค่ะ เพราะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปธุระที่ตจว. เราเลยขอยืมแม่เรา 2000 บาท (เรื่องนี้พี่ป.ไม่รู้นะคะ) แล้วแม่พี่ป.ก็โอนมาให้อีกทีวันที่ 19
งวดสาม (มี.ค.68) เหมือนเคยค่ะ แต่รอบนี้เราบอกว่าไม่มี เพราะไม่อยากไปยืมแม่ค่ะ แล้วเรามารู้ที่หลังว่าแม่ไปกู้นอกระบบมาจ่ายค่ารถงวดนี้ เมื่อต้นเมษา68นี้เอง
งวดปัจจุบัน (เม.ย.68) เหมือนเดิมเลยค่ะ รอบนี้เราก็จ่ายให้ก่อน เรารู้ว่าแม่พี่ป. คืนให้แน่ๆค่ะ แต่บังเอิญได้มีโอกาสคุยกับน้องสาวพี่ป.เลยได้รู้ว่า
น้องสาวพี่ป.ก็โดนเหมือนกันกับเราคือโทรมาขอเงินตลอด แต่น้องเขาโดนหนักกว่า คือ ถ้าไม่มีให้เขาก็จะด่า(ด่าแรงมาก น้องโทรมาร้องไห้เลย)และให้ไปกู้นอกระบบมาให้ค่ะ เราเลยบอกน้องไปว่าตั้งแต่กู้เงินไปปิดหนี้ให้ แม่พี่ป.ก็โทรมายืมตลอด 5000-10k และตอนที่โทรมาก็คืออยู่บ่อน ถ้าเราให้ แล้วเขาเล่นเสีย เขาก็จะกู้มาคืน แต่ถ้าเล่นได้ก็โชคดีไป แต่ถ้าเราไม่ให้ยืม เขาก็จะกู้มาเล่นค่ะ มีครั้งนึงเขาโทรมาบอกว่าแม่ไม่มีเงินกินข้าวแล้ว เราเลยโอนให้เพิ่ม2000 (ต้นเดือนให้ไปแล้ว3000นะคะ) น้องสาวพี่ป.บอกว่าค่าแชร์ของแม่ เดือนละ7000 น้องก็เป็นคนหาทยอยส่งให้ค่ะ เพราะเมื่อก่อนพี่ป.เป็นคนส่ง(ก่อนมีเรา) เดือนละ10k+
จุดแตกหักอยู่ตรงนี้ค่ะ เราจะพิมให้อ่านเข้าใจง่ายๆนะคะ
เรา : ถ้าแม่ยังส่งไม่ตรงเวลาแบบนี้ เกิดวันไหนเราไม่มีเงินสำรองจะทำยังไง สิ้นเดือนอยากซื้อทองก้อนสุดท้าย (เพราะเรากำลังจะไปเรียนต่อค่ะ รับเงินเดือนสิ้นเดือนนี้เดือนสุดท้าย ค่ากินค่าใช้หลังจากนี้ เราตกลงกันไว้ว่าพี่ป.จะทำงานคนเดียว และส่งเสียให้เราจนเรียนจบค่ะ)
พี่ป. : ก็ค่อยซื้อ
เรา : แลัวถ้ามันขึ้นราคาละ
พี่ป. : จะซื้อก็ซื้อ
เรา : ได้ติดแบล็คลิสละมั้งเนี่ย
พี่ป. : เราแยกกันใช้เงินมั้ย ต่างคนต่างใช้ เงินใครเงินมัน จะได้ไม่ต้องมีปัญหา
เรา : สรุปพี่เลือกเราหรือเลือกแม่ ถ้าเลือกแม่ก็แยกกันไป
พี่ป. : ได้ เดี๋ยวเก็บของวันนี้เลย
เรา : จะเอาอย่างนี้ใช่มั้ย ไม่เลือกเราใช่มั้ย
พี่ป. : ทำไมต้องเลือกด้วยวะ
เรา : ไม่คิดจะไปคุยกับแม่หน่อยเหรอว่าทำแบบนี้เราต้องเดือดร้อน
พี่ป. : นี่จะไปเปลี่ยนอะไรแม่ได้ แม่ก็เล่นเป็นอาชีพไปแล้ว
เรา : อาชีพเหรอ ถ้ามันได้มันก็รวยแล้วดิ นี่ยิ่งเล่นยิ่งเป็นหนี้
พี่ป. : เออ แม่นี่ไม่เก่งเหมือนแม่เธอ
เรา : แล้วเกี่ยวอะไร กู้ก็กู้ไปแล้ว ก็แค่ไปคุยกับแม่ว่าเปลี่ยนจากส่งแชร์เป็นส่งรถไม่ดีเหรอ ขนาดกู้ไปปิดหนี้การเงินยังแย่กว่าเดิมอีก (แม่พี่ป. เหมือนคนเล่นแชร์หวังใช้หนี้อะค่ะ จากที่น้องสาวเล่าให้ฟัง คือ แม่พี่ป. ส่งแชร์ หวังได้เงินแสน แต่ส่งยังไม่ทันครบกำหนดค่ะ พอไปบ่อนแล้วเล่นไม่ได้ ก็เอาจากแชร์ออกมาก่อน กลายเป็นส่งวนไป ห่างไกลจากเงินแสนมากขึ้น)
พี่ป. : พอละ ท้อละ ปวดหัวเรื่องงานยังต้องมาปวดหัวเรื่องนี้อีก
เรา : แล้วจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป?
พี่ป. : ขอพูดอะไรหน่อยเหอะ เวลาครอบครัวเธอมากินมาเที่ยว หมดกี่หมื่นนี่ไม่เคยว่าเลยนะ แต่กับครอบครัวนี่ใจเธอมันไม่ได้ว่ะ
เรา : ไม่ได้ยังไง หลานเธอไม่สบายนี่เคยไม่ให้เงินไหม เวลาเข้าไปที่บ้านก็มีของติดมือไปฝากตลอด หลานอยากได้อยากกินอะไรก็ซื้อให้ (หลานคือลูกพี่สาว กับลูกน้องสาว)
พี่ป. : ถ้าคนมันอยากให้จริงมันไม่มาพูดทวงบุณคุญแบบนี้หรอก กูรู้นิสัย(คำนี้เจ็บมาก ฮ่าๆ จริงอยากจะพูดว่า เวลาวันเกิดใครในบ้านเขา เช่น แม่ ยาย น้องสาว พี่สาว หลาน2คน เราเป็นคนออกเงินค่ากับข้าว(ทำกินที่บ้าน)ค่าเหล้าตลอดนะคะ พี่ป.ก็รู้ แต่คงไม่คิดว่าจะมากมายมั้งคะ ปีก่อนที่ไปจัดงานวันเกิดบ้านเขา ก็หมดไปรวมๆ 7,000 ค่ะ ส่วนงานคนอื่นไม่เยอะ ประมาณ3,000-4,000 แล้ววันเกิดแม่พี่ป.เราก็ซื้อทองให้แม่พี่ป.นะคะ ครึ่งสลึง)
เรา : เข้าใจแล้ว ว่าพี่ไม่เคยเลือกเราเลย พูดตรงๆนะ ต่อให้เป็นพ่อแม่เราเราก็จะช่วยแค่เท่าที่ไหว แต่พ่อแม่เราไม่มีทางสร้างหนี้สินแน่ๆ ก็เห็นอยู่ว่าการเงินครอบครัวเรามั่นคงแค่ไหน ไม่เคยมารบกวนเรา และมีแต่ถามว่าพอใช้ไหม (บ้านเราไม่ได้รวยนะคะ ไม่ถึงขัเนมีฐานะด้วย แต่เคยล้มมาก่อนและจะไม่กลับไปล้มอีก)
ในใจอยากจะถามเขานะคะ ว่าระหว่างอนาคตที่มีเรา กับกลับไปช่วยแม่ใช้หนี้ไปวันๆ จะเอาแบบไหน แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป
พี่ป. : ก็ตามนั้น ต่างคนต่างใช้ชีวิตเถอะ แล้วก็ไปเรียนให้จบ แยกกัน อะไรๆอาจจะดีขึ้น นี่คงมีใครไม่ได้หรอก อยู่คนเดียวดีกว่า
เราตัดสินใจไม่พูดอะไรต่อ แล้วเขาก็เก็บข้าวของของเขาออกไป
มีครั้งนึงเราเคยนอนคุยกันเล่นๆว่า ถ้าถูกหวย6ล้าน จะเขาไปทำอะไร ถ้าเป็นคนทั่วไปคงจะตอบว่า ใช้หนี้ ซื้อบ้าน ซื้อรถ ใช้มั้ยคะ แต่พี่ป. ตอบว่าจะซื้อที่ดินสร้างบ้านให้พ่อแม่ญาติพี่น้องที่มีทุกคน(ประมาณ30คน) คนละหลัง แล้วให้เขาทำมาหากิน ทำไร่ทำสวน ในที่ดินผืนนั้น จะได้ไม่ต้องไปทำงานรับจ้างอื่นๆ 6ล้านน่าจะพอ
มันก็สะกิดใจเรานิดนึงนะคะ เข้าใจว่าเป็นความใฝ่ฝัน แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เหมือนกับไม่ได้คิดอนาคตที่มีเราอยู่เลยค่ะ
ปล.ทุกคนอย่าว่าพี่ป.เขาเลยนะคะ จนถึงตอนนั้นเราก็ยังยืนยันคำเดิมว่าพี่เขาเป็นคนดีจริงๆ และไม่เปลี่ยนไปเลย ที่ทุกอย่างมาถึงจุดนี้ก็เพราะเป็นการตัดสินใจของเขาค่ะ
จบแล้วค่ะทุกคน ความสัมพันธ์ที่กินเวลาไม่กี่ปี แต่ได้ประสบการณ์ชีวิตมาพอสมควรเลย อยากให้คนที่ได้มาอ่านเก็บเรื่องราวของเราไว้เป็นนิทานสอนใจเล่มนึงนะคะ ขอบคุณค่ะ