การประกาศผ่อนผัน 90 วัน มาตรการเก็บภาษีทั่วโลกแบบสุดโต่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นับเป็นข่าวดีอย่างไม่ต้องสงสัย ตลาดหุ้นสหรัฐตอบรับอย่างถล่มทลาย ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 2,962.86 จุด ดีสุดในรอบ 5 ปี ดัชนี S&P 500 พุ่งสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤติซับไพรม์ปี 2008 และดัชนีแนสแด็ค คอมโพสิต ปิดบวก 12.16% ดีสุดตั้งแต่วิกฤติดอตคอมปี 2001

ทรัมป์บอกกับโลกให้ "ใจเย็นๆ" เมื่อภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ของเขาเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งเหวและยังสร้างแรงกระเพื่อมใหญ่ต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

ทว่าหลังจาก "ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดไปได้เพียงไม่กี่นาที" ทรัมป์ก็โพสต์ลงโซเชียลมีเดียทันทีว่า “ตอนนี้แหละเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการซื้อ!!!”

4 โมงต่อมา ปธน.ทรัมป์ประกาศ "ช็อกโลก" โดยคงเฉพาะการเก็บภาษีพื้นฐานทั่วโลก 10% เอาไว้ แต่ชะลอการขึ้นภาษีเพิ่มโดยเลื่อนการบังคับใช้ออกไป 90 วัน (ยกเว้นจีน) ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งทะยานแรงที่สุดในรอบหลายปี ส่วนเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวที่เพิ่งจะกล่าวเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้านี้ว่า ทรัมป์จะไม่ถอย ก็ออกมาพูดเป็นหนังคนละม้วนว่า "นี่คือกลยุทธ์ของเขาตั้งแต่แรก" และเป็น "ศิลปะแห่งการทำข้อตกลง" ที่ใช้ได้ผล

โซเชียลมีเดียกำลังเต็มไปด้วยการตั้งคำถามว่า ปธน.ทรัมป์กำลั่ง "ปั่นหุ้น" หรือไม่ ในขณะที่ในสภาคองเกรสสหรัฐก็มีเสียงเรียกร้องให้มีการสอบเรื่องนี้เช่นกัน