ถ้า BTS ไม่ต่อสัญญากับ HYBE ในอนาคต จะเกิดผลกระทบอย่างไรบ้าง ?

🤔  ถ้า BTS  ไม่ต่อสัญญากับ  HYBE  ในอนาคต  จะเกิดผลกระทบอย่างไรบ้าง ?

จากการสอบถาม  Grok3    


ถ้า BTS ไม่ต่อสัญญากับ HYBE ผลกระทบจะเกิดขึ้นในหลายมิติ ทั้งกับตัวบริษัท HYBE, วง BTS เอง, และวงการ K-Pop โดยรวม


✨ผลกระทบต่อ HYBE
1. การเงิน : BTS เป็นแหล่งรายได้หลักของ HYBE   คิดเป็นสัดส่วนมหาศาลของกำไรบริษัท  (บางช่วงประเมินว่า 70-80% ของรายได้ HYBE  มาจาก BTS) ถ้าพวกเขาไม่ต่อสัญญา รายได้จากอัลบั้ม, คอนเสิร์ต, สินค้า และลิขสิทธิ์จะหายไปทันที HYBE อาจขาดทุนในระยะสั้น และหุ้นน่าจะร่วงหนัก เพราะนักลงทุนมอง BTS เป็น "หลักประกัน" ของความสำเร็จ

ตอนที่ BTS ประกาศพักวง หุ้น HYBE ตกลงมากถึง 28% ภายในชั่วโมงแรกของการซื้อขาย ลดลงจาก 193,000 วอนปิดที่ 145,000 วอน ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทหายไปราว 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในวันนั้น

2. ภาพลักษณ์ : HYBE เติบโตจาก BigHit มาเป็นยักษ์ใหญ่ได้เพราะ BTS ถ้าพวกเขาออกไป อาจมีคำถามถึงความสามารถของบริษัทในการบริหารศิลปินระดับท็อป ความน่าเชื่อถือในสายตานักลงทุนและแฟน ๆ อาจลดลง โดยเฉพาะถ้ามีดราม่าหรือการตีความว่า HYBE "เสีย BTS ไปเพราะบริหารไม่ดี"

3. ศิลปินอื่นในค่าย : HYBE มีวงอย่าง TXT, SEVENTEEN, ENHYPEN, LE SSERAFIM และ NewJeans ที่กำลังเติบโต แต่รายได้รวมจากกลุ่มนี้ยังไม่เทียบเท่า BTS  การที่ BTS ออกไปอาจทำให้ HYBE ต้องเร่งผลักดันศิลปินอื่นให้ขึ้นมาเป็น "เรือธง" ซึ่งต้องใช้เวลาและการลงทุนมหาศาล ถ้าทำไม่สำเร็จ บริษัทอาจเสียส่วนแบ่งในตลาด K-Pop ไปให้คู่แข่งอย่าง SM, JYP หรือ YG

แต่ถ้าสามารถพัฒนาศิลปินใหม่ให้ดังเทียบเท่า BTS ได้ บริษัทอาจฟื้นตัวในระยะยาว แต่ต้องยอมรับว่านี่เป็นความท้าทายใหญ่ เพราะ BTS ไม่ใช่แค่ศิลปิน แต่เป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่หาคนมาแทนได้ยาก

4. ธุรกิจอื่น: HYBE ลงทุนใน Weverse, เกม และเทคโนโลยีอื่น ๆ ถ้า BTS ออกไป รายได้จากแพลตฟอร์มเหล่านี้อาจลดลงด้วย เพราะแฟน BTS (ARMY) เป็นกลุ่มใหญ่ที่ใช้งาน ถ้าปรับตัวไม่ทัน ธุรกิจเสริมอาจไม่ช่วยพยุงบริษัทได้

5. ความคาดหวังจากแฟน ๆ   : HYBE ถูกมองว่าเป็น "บ้านของ BTS" ถ้า BTS ลดบทบาทหรือออกไป แฟน ๆ บางส่วนอาจไม่สนใจศิลปินอื่นในค่าย

6. อำนาจการต่อรองในระดับสากล :  BTS เป็นเหมือน "ไพ่ตาย" หรือ "เครื่องมือต่อรอง" ที่ทรงพลังของ HYBE ในระดับสากล  ซึ่งทำให้บริษัทมีน้ำหนักในการเจรจากับพันธมิตรต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นค่ายเพลงใหญ่ ๆ อย่าง Universal Music Group หรือ Columbia Records  หรือบริษัทจัดคอนเสิร์ตยักษ์ใหญ่ระดับโลก      ถ้าไม่มี BTS เป็นจุดขาย การเจรจาเหล่านี้อาจยากขึ้นหรือได้เงื่อนไขที่ด้อยกว่า  


✨ผลกระทบต่อ BTS

อิสระมากขึ้น : ถ้าไม่ต่อสัญญา BTS อาจตั้งค่ายของตัวเอง (ด้วยเงินทุนส่วนตัวที่สมาชิกมีเยอะมาก) หรือไปร่วมงานกับค่ายอื่น พวกเขาจะมีอิสระในการเลือกโปรเจกต์, กำหนดทิศทางดนตรี และบริหารภาพลักษณ์ได้มากขึ้น

ความท้าทายใหม่: การออกจาก HYBE หมายถึงต้องจัดการทุกอย่างเอง เช่น การตลาด, การจัดจำหน่าย, และคอนเสิร์ต ซึ่งอาจเป็นภาระหนักถ้าพวกเขาไม่มีทีมงานที่แข็งแกร่ง แต่ด้วยประสบการณ์และชื่อเสียงที่มี โอกาสสำเร็จก็สูง

ฐานแฟนคลับ: ARMY น่าจะยังสนับสนุน BTS ไม่ว่าไปที่ไหน แต่ถ้าการเปลี่ยนแปลงทำให้ BTS  ออกผลงานช้า หรือคุณภาพเปลี่ยนไป บางส่วนอาจลดความสนใจได้


✨ผลกระทบต่อวงการ K-Pop และอื่น ๆ

การแข่งขัน : ถ้า BTS ออกไปตั้งค่ายหรือย้ายที่อื่น ค่ายคู่แข่งอย่าง SM, JYP หรือ YG อาจได้ประโยชน์ โดยเฉพาะถ้า BTS ลดบทบาท HYBE จะเสียอิทธิพลในวงการไปเยอะ

ตลาดโลก : BTS เป็นผู้นำที่ทำให้ K-Pop ดังระดับโลก ถ้าพวกเขาออกไปแล้วยังดังต่อ HYBE อาจถูกมองว่าไม่ใช่ "ผู้สร้าง" ความสำเร็จของ BTS จริง ๆ แต่เป็นแค่ "ผู้ได้ประโยชน์" จากพวกเขา   ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัทในตลาดสากล

แฟน ๆ และเศรษฐกิจ : อุตสาหกรรมที่พึ่งพา BTS เช่น  สินค้าในประเทศ , การท่องเที่ยวเกาหลี, และงานอีเวนต์  อาจได้รับผลกระทบ


สรุป

HYBE:  เจอวิกฤตหนักในระยะสั้นแน่นอน (รายได้ลด, หุ้นตก, ภาพลักษณ์เสีย) แต่ถ้าปรับตัวได้ เช่น ปั้นศิลปินใหม่หรือโฟกัสธุรกิจอื่น อาจรอดในระยะยาว แต่ถ้าทำไม่ได้ บริษัทอาจกลายเป็นแค่ "อดีตยักษ์ใหญ่" ที่เคยพึ่งพา BTS มากเกินไป

BTS: ได้อิสระแต่ต้องเผชิญความท้าทายใหม่ โอกาสสำเร็จสูงถ้าบริหารดี

วงการ: การแข่งขันจะเข้มข้นขึ้น และอิทธิพลของ HYBE อาจลดลง

HYBE คงรู้เรื่องนี้ดี และน่าจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับ BTS ไว้ แต่ถ้าไม่สำเร็จ ผลกระทบจะรุนแรงแน่นอน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่