ผู้ที่ใช้งานพันทิปส่วนมากหนูคิดว่าคงเป็นวัยผู้ใหญ่ที่ผ่านช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ชอบตั้งกระทู้พันทิปกันมาแล้ว ผ่านช่วงเวลาที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยกันมาแล้วเช่นกัน หนูเป็นเด็กที่กำลังจะต้องเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้ค่ะ ทางบ้านที่เป็นฝั่งคุณแม่หนูเขาไม่ได้คาดหวังกับลูกสาวคนแรกคนนี้เลย เขาชมเสมอว่าหนูเก่ง หนูเข้มแข็งกับสิ่งต่าง ๆ ที่เจอ เขาไม่ห่วงหนูว่าหนูจะเผชิญโลกใบนี้ที่หนูกำลังจะเป็นผู้ใหญ่ได้ไหม คือว่าฝั่งครอบครัวคุณพ่อหนูเขาค่อนข้าง toxic ค่ะ เขาจะชอบช่วยเหลือบ้านเราแบบมีเงื่อนไข ไม่ค่อยเต็มใจช่วยเท่าไหร่ มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่คุณแม่หนูย้ายมาอยู่กับคุณพ่อ ตั้งแต่เกิดและโตมา ญาติ ๆ ฝั่งพ่อจะชอบมายุ่งกับที่บ้านค่ะ จะชอบมาติว่าบ้านรก จะชอบว่าหนูว่านิสัยไม่ดีที่หนูไม่ชอบทำงานบ้าน ตอนที่คุณพ่อยังอยู่มันไม่ได้รุนแรงมาก แต่เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้วคุณพ่อจากไปด้วยโรคมะเร็งค่ะ ก่อนที่คุณพ่อจะจากไปญาติ ๆ ก็ช่วยบ้านของเราเต็มที่เหมือนกันในเรื่องต่าง ๆ แต่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้บ้านเราเป็นหนี้บุญคุณเขา เขาเข้ามาช่วยในเรื่องการเรียน เรื่องค่าขนม และเรื่องต่าง ๆ ที่บ้านเราก็รู้ดีว่าเขาแค่อยากจะทำให้คนข้างนอกที่รู้จักเห็นว่าพวกเขาเป็นคนดี เขาให้ของต่าง ๆ มาก็คือของที่เขาตั้งใจซื้อมาเองแต่มันใช้ไม่ได้ ของที่เขาไม่ได้ใช้แล้ว หนูไม่ได้ติดใจอะไรที่จะใช้ต่อเขาเลยค่ะ แต่บางทีเขาชอบให้ของกินมาก็หมดอายุแล้ว บูดต้องทิ้ง หรือว่าจะเป็นอาหารที่ทานจากร้านอาหารมาแล้วเหลือ หนูไม่เคยรู้เลยค่ะว่าการให้ของเหลือหรือหมดอายุแล้วคือสิ่งที่ไม่ปกติจนกระทั่งโตมา เขาให้คุณย่ามาอยู่ที่บ้านของหนูที่มีแม่และก็น้องอยู่ด้วยเพื่อที่พวกเราจะได้ดูแลคุณย่าได้ค่ะ หนูรู้ดีว่าที่เขาให้คุณย่ามากับเราเพราะเขาไม่อยากให้คุณย่าไปอยู่ที่บ้านพวกเขาและพวกเขาต้องดูแล ที่บ้านเขาทั้งสะดวกสบายกว่าทั้งกว้างขวาง ห้องนอน ห้องน้ำก็ดีกว่ามาก ๆ สำหรับคุณย่าที่ติดเตียงเดินไปไหนไม่ค่อยไหว คุณย่าเริ่มความจำเสื่อมเพราะท่านชราค่ะ ท่านจะชอบด่านักข่าว นักแสดงในโทรทัศน์เสียงดัง ชอบนินทาคนนั้นคนนี้เสียงดังลั่น ใครมาบ้านก็รู้สึกอาย บางที่คุณย่าก็ชอบด่าหนูเพราะว่าหนูอ้วน หนูเรียนไม่เก่งทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยรู้เรื่องผลการเรียนของหนู เขาบอกว่าหนูคงทำอะไรไม่ได้นอกจากโตไปขายของที่แม่ให้มา(ที่ผู้อ่านก็น่าจะพอรู้บ้างว่าคืออาชีพอะไร) หนูร้องไห้กับคำพูดคุณย่ามานับครั้งไม่ถ้วน คุณแม่และน้องก็เช่นกันที่โดน หนูเริ่มที่จะไม่เดินผ่านห้องคุณย่า ไม่ยุ่งกับท่าน เพราะไม่ได้อยากได้ยินคำกร่นด่าที่ถึงแม้มันจะไม่ได้จริงแต่ก็ยอมรับไม่ได้ที่จะได้ยินมัน ที่ผ่านมาหนูเข้าสอบ Tgat ตามระบบที่จะต้องใช้คะแนนยื่นสอบเข้ามหาวิทยาลัย หนูอ่านหนังสือ ท่องคำศัพท์ ติวอยู่นานหลายเดือนแต่ว่าคะแนนไม่ได้ออกมาตามที่ตั้งใจ มันน้อยจนหนูคิดว่าคงยื่นเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลไม่ได้แล้ว หนูเสียใจมาก ๆ เครียดอยู่เป็นเดือน ตั้งแต่ก่อนสอบจนสอบเสร็จหนูผมร่วงเยอะมาก ๆ หวีผมทีหนึ่งก็ออกมาเป็นกำ ๆ ญาติ ๆ โทรมาถามเรื่องคะแนนสอบ หนูบอกไปว่าหนูได้ครึ่งหนึ่ง ทั้งที่จริง ๆ หนูได้ไม่ถึงครึ่ง พวกท่านดูเครียด เขาถามหนูว่าหนูจะยื่นที่ไหนบ้าง คณะอะไร หนูก็บอกคณะที่หนูอยากเข้า คุณอาก็บอกว่ามหาลัยนั่น คณะนี้หนูคงไม่ได้แล้ว ท่านก็เค้นถามอีกว่าแล้วถ้าที่นี่ไม่ได้จะทำอย่างไร หนูก็ตอบเรื่องคณะ มหาลัยไปอีก ท่านยืนกรานว่าไม่ให้หนูยื่นมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดเพราะอยากจะให้อยู่กับคุณแม่ ดูแลคุณย่า อ้างว่าแม่อยากให้หนูอยู่ที่นี่ใกล้ ๆ แต่คุณแม่บอกหนูมาตลอดว่าหนูจะไปเรียนไกลแค่ไหนท่านก็อนุญาต เพราะท่านอยากจะให้หนูได้ใข้ชีวิตโดยที่ไม่ต้องห่วงเรื่องที่บ้าน ที่ท่านจะจัดการเอง คุณแม่รู้สึกผิดมาตลอดที่ท่านช่วยให้ชีวิตหนูดีกว่านี้ไม่ได้เพราะญาติ ๆ ที่บงการชีวิตพวกเรา หนูรู้สึกหมดกำลังใจที่จะอ่านหนังสือสอบต่อไป ทั้งคะแนนสอบที่ออกมา และเรื่องมหาวิทยาลัยที่ทางเลือกของเด็กเรียนไม่เก่งมันน้อยเหลือเกินสำหรับทางบ้านหนู หนูคิดที่จะซิ่วและเป็น Dek69 แต่ญาติ ๆ ท่านก็ไม่ยินดีที่จะให้หนูทำแบบนี้ เรื่องการเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนก็แทบจะตัดไปเลยเพราะคุณแม่ไม่มีเงินส่งหนูเรียน เพราะทุกวันนี้คุณแม่ก็ต้องทำงานใช้หนี้ของคุณพ่อที่ตอนที่ท่านป่วยคุณแม่กู้มาเพื่อจ่ายค่ายา และเรื่องคดีความของคุณอาที่หลายปีก่อนต้องใข้เงินนับล้านบาท เป็นเหตุให้คุณแม่ต้องใช้หนี้สินแทนคุณพ่อและไม่ค่อยจะมีเงินพอมาใช้จ่ายในครอบครัวรวมถึงส่งหนูเรียนต่อ ที่ผ่านมาหนูตั้งใจอ่านหนังสือสอบ A-level แต่คะแนนที่ออกมาหนูมั่นใจเลยว่ามันต้องน้อยกว่า Tgat แน่นอน อีกไม่กี่วันคะแนนหนูก็ออกแล้วค่ะ หนูคิดว่าคงไม่มีมหาวิทยาลัยรัฐเรียนแน่ เมื่อวันก่อนหนูพาน้องไปสอบเข้าม.1โรงเรียนชื่อดังของจังหวัดที่ค่อนข้างเข้ายากค่ะ น้องหนูเรียนเก่ง ได้เกรดดีมาตลอดเลยเฉลี่ย 3.75 หนูพาน้องไปสอบเพราะหนูรู้ว่าหนูเลือกโรงเรียนนี้ให้น้องมันเป็นโรงเรียนที่ดีคิดว่าน้องน่าจะเข้าไปเพราะคุณครูที่สอนพิเศษน้องก็บอกค่ะว่าน้องก็สามารถเข้าได้ แต่ผลออกมาคือน้องหนูสอบไม่ติดค่ะ หนูกับแม่เสียใจนิดหน่อยเพราะเรารู้ว่าเรากำลังจะโดนญาตอ ๆ ดุอย่างหนัก หลังจากประกาศผลก็เลยมานั่งคุยกันว่าจะเอาอย่างไร หนูยื่นความจำนงไปที่เว็ปไซต์สพม.ที่จัดสรรที่เรียนให้ค่ะ หนูยื่นความจำนงต่อโรงเรียนที่หนูเพิ่งจบมาเพราะว่าใกล้บ้าน สะดวกสบายต่อการรับส่งด้วย พอเช้าวันต่อมาญาติ ๆ มาที่บ้านหนูและก็มาถามว่าทำไมถึงไม่บอกเขาว่าน้องสอบไม่ติด หนูไม่รู้ว่าจะพูดตอบอย่างไร หนูคิดแค่ว่าอย่างน้อยน้องก็กล้าที่จะไปสอบที่ที่การแข่งขันสูงก็เก่งมาก ๆ แล้ว แต่หนูไม่ได้พูดออกไปเพราะเขาไม่ได้คิดเหมือนหนูหรอกค่ะ เขาต่อว่าหนูว่าหนูใฝ่สูงที่พาน้องไปสอบ ทำไมไม่ไปสอบอีกโรงเรียนหนึ่ง การสอบมันสอบพร้อมกันหมดเลยทั่วประเทศมันเลือกได้แค่อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นหนูก็แค่อยากลองให้น้องไผสอบเพราะถ้าได้ที่นี่มันก็มีประโยชน์กับตัวเขากว่าอีกที่หนึ่ง น้องหนูบอกว่าตอนสอบน้องปวดท้องมาก ตั้งแต่วิชาแรกจนจบเพราะทานมื้อเช้าไปนิดเดียวและคงจะเครียด กดดัน เขาก็ไม่ได้ต่อว่าแค่เรื่องเดียวแต่เรื่องอื่น ๆ ก็ด้วย เช่นเรื่องที่บ้านรกเพราะของเยอะ เรื่องที่สายแล้วหนูยังไม่อาบน้ำอีกก็ด้วย คุณอามาตอนที่แม่ไม่อยู่หนูจึงโดนเขาดุเต็ม ๆ หนูนั่งร้องไห้หลังจากเขาไปสักพักใหญ่ ๆ หนูรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่บังคับให้น้องทานอะไรมากกว่านี้ก่อนจะเข้าสอบ และรู้สึกผิดที่ไม่เลือกให้น้องไปสอบอีกที่หนึ่งที่น้องมีโอกาสติดกว่า วันนี้ทั้งวันก็เลยวุ่นวายมาก คุณอาก็โทรมาซ้ำหลายรอบเรื่องโรงเรียนของน้องว่าประกาศผลวันไหน มอบตัววันไหน มีโรงเรียนไหนยังรับอีกบ้าง หนูไม่อยากรับสายญาติ ๆ เลย หนูไม่อยากรับสายมานานแล้ว หนูเลือกที่ตะปิดเสียวโทรศัพท์ไปเลยเพราะหนูกลัวเสียงโทรศัพท์ที่มันดังเข้ามา เสียงสั่นตอนมีคนโทรเข้ามาจนหลอนไปหมดมาหลายปีแล้ว หนูคิดไปถึงว่าถ้าหนูไม่มีมหาวิทยาลัยอีกตอนที่ประกาศผลหนูก็คงโดนหนักกว่านี้มาก ๆ หนูไม่อยากให้มันถึงวันนั้นเลย แต่มันคงทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น พยายามทำความเข้าใจในความหวังดีของญาติ ๆ และอยู่เพื่อให้คุณแม่มีกำลังใจในการใช้ชีวิตในทุกวัน
หนูรู้ว่าการสอบไม่ติดทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ชีวิตทั้งชีวิตมันดับมืด แต่กับญาติ ๆ ฝั่งพ่อหนูมันคือเรื่องใหญ่มาก ๆ เลยค่ะ ทุกวันนี้เขาก็คงรอให้หนูโต เพื่อมาใช้หนี้บุญคุณที่บ้านเราพึ่งใบบุญเขาไว้โดยการดูแลเขายามแก่ คอยรับใช้เขา ไม่ได้เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองว่าชีวิตนี้อยากจะทำอะไร หนูกับคุณแม่อยากจะออกไปจากที่นี่หลายครั้งไม่อยากจะรับมรดกที่คุณพ่อให้เลยเพราะรออายุถึงเวลาบรรลุนิติภาวะไม่ไหว
มีใครที่ที่บ้านเป็นแบบนี้บ้างไหมคะ
หนูรู้ว่าการสอบไม่ติดทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ชีวิตทั้งชีวิตมันดับมืด แต่กับญาติ ๆ ฝั่งพ่อหนูมันคือเรื่องใหญ่มาก ๆ เลยค่ะ ทุกวันนี้เขาก็คงรอให้หนูโต เพื่อมาใช้หนี้บุญคุณที่บ้านเราพึ่งใบบุญเขาไว้โดยการดูแลเขายามแก่ คอยรับใช้เขา ไม่ได้เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองว่าชีวิตนี้อยากจะทำอะไร หนูกับคุณแม่อยากจะออกไปจากที่นี่หลายครั้งไม่อยากจะรับมรดกที่คุณพ่อให้เลยเพราะรออายุถึงเวลาบรรลุนิติภาวะไม่ไหว