
ทุกข์ตรงที่ ยากนัก จะวางจิต
ด้วยจุดติด รวดเร็วนัก โทสะนี่
โมหะหลง โลภะ ปะทะตี
สตินี้ ตามไม่ทัน สุดบั่นทอน
จิตมักถูก ขว้างทิ้ง ดิ่งลงต่ำ
ปรุงแต่งซ้ำ ย้ำตอก มาหลอกหลอน
กว่าจะคิด หยุดได้ ใจร้าวรอน
เกิดซ้ำซ้อน สติช้า มาไม่ทัน
ตั้งใจสอน ให้เด็ก ได้เรียนรู้
จิตเป็นครู สอนเด็กคิด จิตสร้างสรรค์
หลายครั้งเด็ก ไม่เข้าใจ ได้ฉับพลัน
เริ่มดุดัน มีโทสา ว่าทำไม
ก็สอนแล้ว สอนซ้ำ พร่ำซ้ำสอน
เด็กง่วงนอน ใจก็กลัว มั่วตอบให้
หวังว่าถูก ให้แม่พ่อ นั้นพอใจ
แต่ผิดไป ยิ่งดุให้ ตั้งใจคิด
เด็กก็กลัว ตัวสั่น น้ำตาไหล
สุดทนไหว โทสะรุก ทุกดวงจิต
ทั้งปู่ย่า พ่อแม่หลาน ต่างโดนพิษ
โทสะจริต ครอบงำ กันทุกคน
จากจิตดี เริ่มสอน ด้วยความรัก
กิเลสผลัก ทำให้ ไร้เหตุผล
อีกหลายจิต ต้องไร้สุข มาทุกข์ทน
สติหล่น กันทุกคน ก็ทนไป

อยากหลีกลี้ หนีไป ให้ไกลห่าง
มีหนทาง แต่ตัดใจ ไปไม่ไหว
ลูกหลานหมา เป็นห่วงมัด ดึงรัดไว้
โอ้วันใด จะพ้นล่วง ปลดห่วงวาง
หวังสักวัน สลัดบ่วง ห่วงคล้องคอ
ตัดใจขอ จากไปได้ อย่างใจว่าง
เฝ้ามองดู อยู่ห่างห่าง อย่างเป็นกลาง
ไม่ปรุงสร้าง เสริมแต่งให้ ใจขุ่นมัว
บทกลอน: สะท้อนใจ (บันทึกของปู่)
ทุกข์ตรงที่ ยากนัก จะวางจิต
ด้วยจุดติด รวดเร็วนัก โทสะนี่
โมหะหลง โลภะ ปะทะตี
สตินี้ ตามไม่ทัน สุดบั่นทอน
จิตมักถูก ขว้างทิ้ง ดิ่งลงต่ำ
ปรุงแต่งซ้ำ ย้ำตอก มาหลอกหลอน
กว่าจะคิด หยุดได้ ใจร้าวรอน
เกิดซ้ำซ้อน สติช้า มาไม่ทัน
ตั้งใจสอน ให้เด็ก ได้เรียนรู้
จิตเป็นครู สอนเด็กคิด จิตสร้างสรรค์
หลายครั้งเด็ก ไม่เข้าใจ ได้ฉับพลัน
เริ่มดุดัน มีโทสา ว่าทำไม
ก็สอนแล้ว สอนซ้ำ พร่ำซ้ำสอน
เด็กง่วงนอน ใจก็กลัว มั่วตอบให้
หวังว่าถูก ให้แม่พ่อ นั้นพอใจ
แต่ผิดไป ยิ่งดุให้ ตั้งใจคิด
เด็กก็กลัว ตัวสั่น น้ำตาไหล
สุดทนไหว โทสะรุก ทุกดวงจิต
ทั้งปู่ย่า พ่อแม่หลาน ต่างโดนพิษ
โทสะจริต ครอบงำ กันทุกคน
จากจิตดี เริ่มสอน ด้วยความรัก
กิเลสผลัก ทำให้ ไร้เหตุผล
อีกหลายจิต ต้องไร้สุข มาทุกข์ทน
สติหล่น กันทุกคน ก็ทนไป
อยากหลีกลี้ หนีไป ให้ไกลห่าง
มีหนทาง แต่ตัดใจ ไปไม่ไหว
ลูกหลานหมา เป็นห่วงมัด ดึงรัดไว้
โอ้วันใด จะพ้นล่วง ปลดห่วงวาง
หวังสักวัน สลัดบ่วง ห่วงคล้องคอ
ตัดใจขอ จากไปได้ อย่างใจว่าง
เฝ้ามองดู อยู่ห่างห่าง อย่างเป็นกลาง
ไม่ปรุงสร้าง เสริมแต่งให้ ใจขุ่นมัว