
ในยุคที่ไลฟ์สไตล์ของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป หลายประเทศทั่วโลกเริ่มมีแนวโน้มในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ “สุนัข” ให้เป็นเสมือนลูกในครอบครัว ไม่ใช่แค่เพื่อเฝ้าบ้านหรือเป็นเพื่อนเล่นอีกต่อไป แต่เป็นสมาชิกที่ได้รับความรัก การดูแล และการลงทุนไม่ต่างจากเด็กคนหนึ่ง เรามาดูกันว่ามีประเทศใดบ้างที่มีพฤติกรรมแบบนี้โดดเด่นเป็นพิเศษ:
---
1. สหรัฐอเมริกา (USA)
สหรัฐฯ ถือเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เลี้ยงสุนัขมากที่สุดในโลก โดยมีสุนัขมากกว่า 70 ล้านตัวทั่วประเทศ การเลี้ยงสุนัขในสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่จริงจังและลงลึกไปถึงระดับจิตวิทยาและไลฟ์สไตล์ เจ้าของหลายคนพาสุนัขไปนวด สปา ใส่เสื้อผ้าแบรนด์หรู มีบริการเดย์แคร์เฉพาะสุนัข รวมถึงประกันสุขภาพเฉพาะสัตว์เลี้ยง ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นว่าสุนัขในบ้านคนอเมริกันคือ "ลูก" อีกคนของครอบครัวอย่างแท้จริง
---
2. ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดของมนุษย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คนจำนวนมากหันมาเลี้ยงสุนัขเป็นทางเลือกแทนการมีลูกจริง ๆ สุนัขในญี่ปุ่นมักได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มีโรงเรียนสอนมารยาทสำหรับหมา คาเฟ่เฉพาะสำหรับเจ้าของและน้องหมา รวมถึงแฟชั่นและอาหารเฉพาะทาง ระดับความรักและการทุ่มเทนี้ทำให้สุนัขในญี่ปุ่นกลายเป็น "ลูก" ที่ได้รับการใส่ใจไม่ต่างจากเด็กทารก
---
3. เกาหลีใต้
ในเกาหลีใต้ กลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ อย่างโซล นิยมเลี้ยงสุนัขมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่เลือกไม่แต่งงานหรือไม่มีลูก สุนัขจึงกลายเป็นทั้งเพื่อนและสมาชิกครอบครัวที่มีความสำคัญสูง ไม่เพียงแต่ให้อาหารและที่อยู่อาศัย แต่ยังมีการแต่งตัว พาไปเที่ยวคาเฟ่ พาเข้าร่วมงานกิจกรรมเฉพาะทาง รวมถึงแชร์รูปในโซเชียลเหมือนเลี้ยงลูกคนหนึ่ง
---
4. ฝรั่งเศส
คนฝรั่งเศสขึ้นชื่อว่ารักสัตว์ โดยเฉพาะสุนัข ซึ่งหลายครอบครัวมักจะเลี้ยงไว้ร่วมโต๊ะอาหาร พาออกเดินเล่นทุกวัน และพาไปเที่ยวต่างจังหวัดในวันหยุด การเลี้ยงสุนัขแบบให้เกียรติและเท่าเทียมกับสมาชิกครอบครัวเป็นวัฒนธรรมที่ฝังลึก ความสัมพันธ์ระหว่างคนฝรั่งเศสกับสุนัขจึงมีลักษณะคล้ายพ่อแม่กับลูกอย่างชัดเจน
---
5. แคนาดา
แคนาดาเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีการเลี้ยงสุนัขอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง เจ้าของส่วนใหญ่มักจะมองสุนัขเป็นเพื่อนคู่ชีวิตหรือ “ลูกขนฟู” ที่มีความรู้สึกและต้องการความรักเช่นเดียวกับคน ความนิยมในการจัดงานวันเกิดให้สุนัข หรือซื้อของเล่นและอาหารเกรดพรีเมียมแสดงให้เห็นถึงระดับความผูกพันที่ลึกซึ้ง
---
สรุป
การเลี้ยงสุนัขเป็นเสมือนลูกไม่ได้เป็นแค่เทรนด์หรือแฟชั่น แต่สะท้อนถึงวิธีคิดเกี่ยวกับความรัก ความรับผิดชอบ และการสร้างความสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างลึกซึ้ง หลายประเทศอาจมีเหตุผลแตกต่างกัน เช่น สังคมสูงวัย อัตราการเกิดลดลง หรือการใช้ชีวิตคนเดียวมากขึ้น แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ สุนัขได้กลายเป็นสมาชิกครอบครัวที่คนมอบความรักและดูแลเหมือนลูกจริง ๆ
5 ประเทศที่นิยมเลี้ยงหมาไว้เป็นลูก มากที่สุดในโลก
ในยุคที่ไลฟ์สไตล์ของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป หลายประเทศทั่วโลกเริ่มมีแนวโน้มในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ “สุนัข” ให้เป็นเสมือนลูกในครอบครัว ไม่ใช่แค่เพื่อเฝ้าบ้านหรือเป็นเพื่อนเล่นอีกต่อไป แต่เป็นสมาชิกที่ได้รับความรัก การดูแล และการลงทุนไม่ต่างจากเด็กคนหนึ่ง เรามาดูกันว่ามีประเทศใดบ้างที่มีพฤติกรรมแบบนี้โดดเด่นเป็นพิเศษ:
---
1. สหรัฐอเมริกา (USA)
สหรัฐฯ ถือเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เลี้ยงสุนัขมากที่สุดในโลก โดยมีสุนัขมากกว่า 70 ล้านตัวทั่วประเทศ การเลี้ยงสุนัขในสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่จริงจังและลงลึกไปถึงระดับจิตวิทยาและไลฟ์สไตล์ เจ้าของหลายคนพาสุนัขไปนวด สปา ใส่เสื้อผ้าแบรนด์หรู มีบริการเดย์แคร์เฉพาะสุนัข รวมถึงประกันสุขภาพเฉพาะสัตว์เลี้ยง ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นว่าสุนัขในบ้านคนอเมริกันคือ "ลูก" อีกคนของครอบครัวอย่างแท้จริง
---
2. ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดของมนุษย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คนจำนวนมากหันมาเลี้ยงสุนัขเป็นทางเลือกแทนการมีลูกจริง ๆ สุนัขในญี่ปุ่นมักได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มีโรงเรียนสอนมารยาทสำหรับหมา คาเฟ่เฉพาะสำหรับเจ้าของและน้องหมา รวมถึงแฟชั่นและอาหารเฉพาะทาง ระดับความรักและการทุ่มเทนี้ทำให้สุนัขในญี่ปุ่นกลายเป็น "ลูก" ที่ได้รับการใส่ใจไม่ต่างจากเด็กทารก
---
3. เกาหลีใต้
ในเกาหลีใต้ กลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ อย่างโซล นิยมเลี้ยงสุนัขมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่เลือกไม่แต่งงานหรือไม่มีลูก สุนัขจึงกลายเป็นทั้งเพื่อนและสมาชิกครอบครัวที่มีความสำคัญสูง ไม่เพียงแต่ให้อาหารและที่อยู่อาศัย แต่ยังมีการแต่งตัว พาไปเที่ยวคาเฟ่ พาเข้าร่วมงานกิจกรรมเฉพาะทาง รวมถึงแชร์รูปในโซเชียลเหมือนเลี้ยงลูกคนหนึ่ง
---
4. ฝรั่งเศส
คนฝรั่งเศสขึ้นชื่อว่ารักสัตว์ โดยเฉพาะสุนัข ซึ่งหลายครอบครัวมักจะเลี้ยงไว้ร่วมโต๊ะอาหาร พาออกเดินเล่นทุกวัน และพาไปเที่ยวต่างจังหวัดในวันหยุด การเลี้ยงสุนัขแบบให้เกียรติและเท่าเทียมกับสมาชิกครอบครัวเป็นวัฒนธรรมที่ฝังลึก ความสัมพันธ์ระหว่างคนฝรั่งเศสกับสุนัขจึงมีลักษณะคล้ายพ่อแม่กับลูกอย่างชัดเจน
---
5. แคนาดา
แคนาดาเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีการเลี้ยงสุนัขอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง เจ้าของส่วนใหญ่มักจะมองสุนัขเป็นเพื่อนคู่ชีวิตหรือ “ลูกขนฟู” ที่มีความรู้สึกและต้องการความรักเช่นเดียวกับคน ความนิยมในการจัดงานวันเกิดให้สุนัข หรือซื้อของเล่นและอาหารเกรดพรีเมียมแสดงให้เห็นถึงระดับความผูกพันที่ลึกซึ้ง
---
สรุป
การเลี้ยงสุนัขเป็นเสมือนลูกไม่ได้เป็นแค่เทรนด์หรือแฟชั่น แต่สะท้อนถึงวิธีคิดเกี่ยวกับความรัก ความรับผิดชอบ และการสร้างความสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างลึกซึ้ง หลายประเทศอาจมีเหตุผลแตกต่างกัน เช่น สังคมสูงวัย อัตราการเกิดลดลง หรือการใช้ชีวิตคนเดียวมากขึ้น แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ สุนัขได้กลายเป็นสมาชิกครอบครัวที่คนมอบความรักและดูแลเหมือนลูกจริง ๆ