ยอดขายรถเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ชะลอลงเล็กน้อย โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 49,313 คัน โตโยต้า อีซูซุ ฮอนด้า ยังเป็นแชมป์เจ้าตลาด ส่วนตลาดรถยนต์นั่งมีมิตซูบิชิขึ้นมาอยู่อันดับที่สาม
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์เดือนก.พ. 68 มียอดขาย 49,313 คัน ลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งลดลงที่ 4.7% ด้วยยอดขาย 18,937 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ลดลงเช่นกันที่ 7.9% ด้วยยอดขาย 30,376 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ลดลงด้วยยอดขาย 16,144 คัน ลดลง 14.3%
ส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 20,850 คัน คิดเป็นสัดส่วน 42.3% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด หากเทียบกับยอดขายรวมระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว ยอดขายรถ HEV ลดลง 2% ด้วยยอดขาย 22,913 คัน เช่นเดียวกับรถ BEV ที่ลดลง 2% ด้วยยอดขาย 15,172 คัน
นายศุภกร กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม มีแนวโน้มทรงตัว ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม ตลาดรถกระบะปีนี้มีลุ้นปรับตัวดีขึ้น ด้วยมาตรการใหม่ กระบะพี่มีคลังค้ำ โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อ บสย. SMEs PICK-UP ที่จะเปิดรับคำขอค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ รวมถึงค่ายรถยนต์ที่ออกเงื่อนไขและข้อเสนอพิเศษมารองรับการใช้งานของลูกค้าในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs อาจช่วยผลักดันให้เกิดการใช้จ่ายลงทุนในยานพาหนะเพื่อนำไปใช้ในธุรกิจมากขึ้น
นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นใหม่ โปรโมชันการขาย และแพ็กเกจที่น่าสนใจจากหลากหลายค่ายรถยนต์ที่ถูกนำเสนอในงาน Motor show 2025 บางกอก ในวันที่ 26 มี.ค.- 6 เม.ย.นี้ อาจเป็นปัจจัยบวกในการช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้อีกด้วย ส่วนปริมาณการจำหน่ายรถในเดือนก.พ. 68 มีรายละเอียดดังนี้
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 49,313 คัน ลดลง 6.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 18,729 คัน ลดลง 4.9% ส่วนแบ่งตลาด 38%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,832 คัน ลดลง 10.7% ส่วนแบ่งตลาด 13.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 6,398 คัน ลดลง 25.5% ส่วนแบ่งตลาด 13%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,937 คัน ลดลง 4.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,622 คัน เพิ่มขึ้น 35.7% ส่วนแบ่งตลาด 35%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,066 คัน ลดลง 35.1% ส่วนแบ่งตลาด 16.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,044 คัน ลดลง 38.8% ส่วนแบ่งตลาด 5.5%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 30,376 คัน ลดลง 7.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 12,107 คัน ลดลง 18.3% ส่วนแบ่งตลาด 39.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,832 คัน ลดลง 10.7% ส่วนแบ่งตลาด 22.5%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 3,332 คัน ลดลง 13.8% ส่วนแบ่งตลาด 11%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 16,144 คัน ลดลง 14.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,994 คัน ลดลง 19.2% ส่วนแบ่งตลาด 43.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,107 คัน ลดลง 8.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.8%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,523 คัน ลดลง 30.9% ส่วนแบ่งตลาด 9.4%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,925 คัน
อีซูซุ 1,123 คัน โตโยต้า 1,048 คัน, ฟอร์ด 579 คัน, มิตซูบิชิ 142 คัน และนิสสัน 33 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 13,219 คัน ลดลง 14.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,946 คัน ลดลง 19.5% ส่วนแบ่งตลาด 45%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,984 คัน ลดลง 12.6% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 982 คัน เพิ่มขึ้น 40.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.4%
ที่มา:
https://www.thairath.co.th/news/auto/news/2850458
ยอดขายรถเดือน ก.พ. 68 ชะลอลงเล็กน้อย โตโยต้า อีซูซุ ฮอนด้า ยังเป็นแชมป์เจ้าตลาด
ยอดขายรถเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ชะลอลงเล็กน้อย โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 49,313 คัน โตโยต้า อีซูซุ ฮอนด้า ยังเป็นแชมป์เจ้าตลาด ส่วนตลาดรถยนต์นั่งมีมิตซูบิชิขึ้นมาอยู่อันดับที่สาม
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์เดือนก.พ. 68 มียอดขาย 49,313 คัน ลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งลดลงที่ 4.7% ด้วยยอดขาย 18,937 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ลดลงเช่นกันที่ 7.9% ด้วยยอดขาย 30,376 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ลดลงด้วยยอดขาย 16,144 คัน ลดลง 14.3%
ส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 20,850 คัน คิดเป็นสัดส่วน 42.3% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด หากเทียบกับยอดขายรวมระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว ยอดขายรถ HEV ลดลง 2% ด้วยยอดขาย 22,913 คัน เช่นเดียวกับรถ BEV ที่ลดลง 2% ด้วยยอดขาย 15,172 คัน
นายศุภกร กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม มีแนวโน้มทรงตัว ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม ตลาดรถกระบะปีนี้มีลุ้นปรับตัวดีขึ้น ด้วยมาตรการใหม่ กระบะพี่มีคลังค้ำ โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อ บสย. SMEs PICK-UP ที่จะเปิดรับคำขอค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ รวมถึงค่ายรถยนต์ที่ออกเงื่อนไขและข้อเสนอพิเศษมารองรับการใช้งานของลูกค้าในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs อาจช่วยผลักดันให้เกิดการใช้จ่ายลงทุนในยานพาหนะเพื่อนำไปใช้ในธุรกิจมากขึ้น
นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นใหม่ โปรโมชันการขาย และแพ็กเกจที่น่าสนใจจากหลากหลายค่ายรถยนต์ที่ถูกนำเสนอในงาน Motor show 2025 บางกอก ในวันที่ 26 มี.ค.- 6 เม.ย.นี้ อาจเป็นปัจจัยบวกในการช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้อีกด้วย ส่วนปริมาณการจำหน่ายรถในเดือนก.พ. 68 มีรายละเอียดดังนี้
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 49,313 คัน ลดลง 6.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 18,729 คัน ลดลง 4.9% ส่วนแบ่งตลาด 38%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,832 คัน ลดลง 10.7% ส่วนแบ่งตลาด 13.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 6,398 คัน ลดลง 25.5% ส่วนแบ่งตลาด 13%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,937 คัน ลดลง 4.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,622 คัน เพิ่มขึ้น 35.7% ส่วนแบ่งตลาด 35%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,066 คัน ลดลง 35.1% ส่วนแบ่งตลาด 16.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,044 คัน ลดลง 38.8% ส่วนแบ่งตลาด 5.5%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 30,376 คัน ลดลง 7.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 12,107 คัน ลดลง 18.3% ส่วนแบ่งตลาด 39.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,832 คัน ลดลง 10.7% ส่วนแบ่งตลาด 22.5%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 3,332 คัน ลดลง 13.8% ส่วนแบ่งตลาด 11%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 16,144 คัน ลดลง 14.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,994 คัน ลดลง 19.2% ส่วนแบ่งตลาด 43.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,107 คัน ลดลง 8.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.8%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,523 คัน ลดลง 30.9% ส่วนแบ่งตลาด 9.4%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,925 คัน
อีซูซุ 1,123 คัน โตโยต้า 1,048 คัน, ฟอร์ด 579 คัน, มิตซูบิชิ 142 คัน และนิสสัน 33 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 13,219 คัน ลดลง 14.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,946 คัน ลดลง 19.5% ส่วนแบ่งตลาด 45%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,984 คัน ลดลง 12.6% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 982 คัน เพิ่มขึ้น 40.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.4%
ที่มา:https://www.thairath.co.th/news/auto/news/2850458