เป็นครั้งแรกที่ได้เขียนกระทู้ลงพันทิป บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ ไม่รุ้ว่าในชีวิตนี้จะมีใครพบเจอเหตุการแบบเราบ้าง เราอายุ32ปี มีลูกคนแรกดีใจมาก ที่รู้ว่าตัวเองท้องได้ลูกสาวสมใจเลย เรากับแฟนดีใจมากๆแต่งงานกันมา2ปี คบกันมาสิบกว่าปีเพิ่งมีลูกน้อย ตั้งแต่รู้เราก็ฝากครรภ์และดูแลตัวเองอย่างดี
คลอดวันที่3ก.พ.68 อายุครร39week ผ่าคลอด ก่อนผ่าคลอดได้นอนรอคลอดธรรมชาติแต่น้องหัวไม่ลงคุนหมอเลยตัดสินสจให้ผ่าคลอดน้ำหนักน้อง3,066กรัม ร่างกายแข็งแรง ตัวไม่เหลืองเลย อยุ่รพ.4วัน กลับบ้านน้องกินนมเก่ง เลี้ยงง่าย หลับดี ไม่มีสัญญานของการเจ็บป่วยใดๆ แต่เช้าวันที่15 เป็นเช้าที่เลวร้ายที่สุดของคนเป็นพ่อแม่อย่างเรา หลังจากเขากินนมเสด เรอ และ ถ่ายปกติเขาก็นอน และไม่นานเขาก็ร้องไห้โดยที่ ไม่งับปากเลยร้องแค่แปปเดียวแล้วก็อ่อนแรงไป เรากับแฟนขับรถออกจากบ้านไปรพ.ห่างกันไม่ถึง5นาที ถึงมือหมอ ผ่าไฟแดงไปเลยบ้านไม่ได้ปิด อุ้มลูกและเรียกเขาตลอดเวลาเป่าปากไปด้วย พยายามตั้งสติ ซึ้งตอนนั้นน้องเริ่มตัวซีดแล้ว เมื่อถึงมือหมอ ปั้มหัวใจ ครั้งที่1 น้องมีชีพจรแล้ว ก็ร่วงลงไป ครั้งที่2ปั้มอีก ชีพจรขึ้นมาแล้วก็ร่วงไป ครั้งที่3 คุนหมอเดินมาแล้วถอดถุงมือ บอกว่าน้องไม่ไหวแล้วค่ะ ขอแสดงความเสียใจด้วๆวินาทีนั้นเป็นอะรัยที่รับไม่ได้สติไม่อยุ่แล้ว กอดแฟนแล้วร้องไห้ไม่รุ้จะอยู่ยังงัย ทำไมลูกต้องมาจากเราไปไวขนาดนี้ สงสารลูกมากๆ นิติเวชต้องขอนำร่างไปชันสูตรเพราะเสียผิดธรรมชาติ เราอุ้มลูกไปรพ.อีกทีเผื่อให้หมอชันสูตร เช้าวันรุ่งขึ้นไปพบหมอเผื่อฟังผลชันสูตร เราโทดตัวเองตลอดเวลาว่าเราเลี้ยงเขาไม่ดีใช่มั้ย เราบกพร่องตรงไหนที่ทำให้ลูกเป็นแบบนี้ พอผลออกมา หมอแจ้งว่า น้องเป็นโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เพียงเสี้ยววินาทีที่น้องเจ็บซึ่งเกิดจากคลื่นไฟฟ้าแค่เสี้ยววินาที เราไม่เคยได้ยินแบบนี้มาก่อน ทำไมต้องมาเกิดกับลูกเราด้วย เขายังเล็กมากๆ หมอบอกว่าไม่สามารถตรวจเจอได้นอกจากจะแสดงอาการออกมา ปีนึงผมเจอแค่เคสเดียวน้อยมาก หลังจากเสร็จเรื่องเราสองคนและครอบครัวนำร่างน้องไปทำพิธีกรรมทางศาสนาส่งน้องเป็นครั้งสุดท้ายค่ะ เราขอแชร์เรื่องราวที่เราได้พบเจอมา เราเตรียมพร้อมมากสำหรับลูกน้อยเหตุการในอนาคตไม่มีอะรัยแน่นอนเลยบนโลกใบนี้
คลอดลูกสาวคนแรกเสียลูกวัย13วัน
คลอดวันที่3ก.พ.68 อายุครร39week ผ่าคลอด ก่อนผ่าคลอดได้นอนรอคลอดธรรมชาติแต่น้องหัวไม่ลงคุนหมอเลยตัดสินสจให้ผ่าคลอดน้ำหนักน้อง3,066กรัม ร่างกายแข็งแรง ตัวไม่เหลืองเลย อยุ่รพ.4วัน กลับบ้านน้องกินนมเก่ง เลี้ยงง่าย หลับดี ไม่มีสัญญานของการเจ็บป่วยใดๆ แต่เช้าวันที่15 เป็นเช้าที่เลวร้ายที่สุดของคนเป็นพ่อแม่อย่างเรา หลังจากเขากินนมเสด เรอ และ ถ่ายปกติเขาก็นอน และไม่นานเขาก็ร้องไห้โดยที่ ไม่งับปากเลยร้องแค่แปปเดียวแล้วก็อ่อนแรงไป เรากับแฟนขับรถออกจากบ้านไปรพ.ห่างกันไม่ถึง5นาที ถึงมือหมอ ผ่าไฟแดงไปเลยบ้านไม่ได้ปิด อุ้มลูกและเรียกเขาตลอดเวลาเป่าปากไปด้วย พยายามตั้งสติ ซึ้งตอนนั้นน้องเริ่มตัวซีดแล้ว เมื่อถึงมือหมอ ปั้มหัวใจ ครั้งที่1 น้องมีชีพจรแล้ว ก็ร่วงลงไป ครั้งที่2ปั้มอีก ชีพจรขึ้นมาแล้วก็ร่วงไป ครั้งที่3 คุนหมอเดินมาแล้วถอดถุงมือ บอกว่าน้องไม่ไหวแล้วค่ะ ขอแสดงความเสียใจด้วๆวินาทีนั้นเป็นอะรัยที่รับไม่ได้สติไม่อยุ่แล้ว กอดแฟนแล้วร้องไห้ไม่รุ้จะอยู่ยังงัย ทำไมลูกต้องมาจากเราไปไวขนาดนี้ สงสารลูกมากๆ นิติเวชต้องขอนำร่างไปชันสูตรเพราะเสียผิดธรรมชาติ เราอุ้มลูกไปรพ.อีกทีเผื่อให้หมอชันสูตร เช้าวันรุ่งขึ้นไปพบหมอเผื่อฟังผลชันสูตร เราโทดตัวเองตลอดเวลาว่าเราเลี้ยงเขาไม่ดีใช่มั้ย เราบกพร่องตรงไหนที่ทำให้ลูกเป็นแบบนี้ พอผลออกมา หมอแจ้งว่า น้องเป็นโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เพียงเสี้ยววินาทีที่น้องเจ็บซึ่งเกิดจากคลื่นไฟฟ้าแค่เสี้ยววินาที เราไม่เคยได้ยินแบบนี้มาก่อน ทำไมต้องมาเกิดกับลูกเราด้วย เขายังเล็กมากๆ หมอบอกว่าไม่สามารถตรวจเจอได้นอกจากจะแสดงอาการออกมา ปีนึงผมเจอแค่เคสเดียวน้อยมาก หลังจากเสร็จเรื่องเราสองคนและครอบครัวนำร่างน้องไปทำพิธีกรรมทางศาสนาส่งน้องเป็นครั้งสุดท้ายค่ะ เราขอแชร์เรื่องราวที่เราได้พบเจอมา เราเตรียมพร้อมมากสำหรับลูกน้อยเหตุการในอนาคตไม่มีอะรัยแน่นอนเลยบนโลกใบนี้