น้องพิงค์ เปลี่ยนทีมงานเถอะครับ ไม่งั้นน้องจะยิ่งลำบากกว่านี้

เห็นฟอร์มที่รายการ IC ที่เวียดนามซึ่งต้องบังคับแชมป์เพื่อสร้างกำลังใจแต่จากฟอร์มวันนี้ที่เจอ มินามิ ซุยสึ คือน้องฟอร์มไม่ได้เลย กดดันตัวเองแถมมาโดนจับเสิร์ฟฟาวล์เหยียบเส้นอีก ยิ่งไปกันใหญ่ บอกเลยฟอร์มแบบนี้น้องจะไม่ติดแม้แต่ ซีเกมส์ประเภททีมมือ 3 แน่นอน  เพราะตอนนี้หญิงเดี่ยวเรามีเยอะมาก ขาดพิงค์ไปใช่ว่าเราจะขาดนักกีฬาฝีมือเลยเสียเมื่อไร

ทีมงานของน้องไม่สามารถจัดการกับสื่อหรือแม้แต่การวางแผนที่เหมาะสมให้กับน้องได้เลยแม้แต่นิดเดียวเอาง่ายๆ ในช่วงรายการไทย 300 น้องบอกว่าเตรีบมลงรายการที่เยอรมันกับฝรั่งเศสสรุปไปติดสำรองอันดับ 16 คือทีมงานต้องรู้ไหมว่านี่มันเป็นรายการคาบเกี่ยวกับ All England มืออันดับ 48 ขึ้นไปเขามีลงแน่นอน คือวางแผนกันยังไงก่อน แทนที่ตอนนั้นจะไปลง IC ที่สิงคโปร์ เพื่อให้น้องได้ลงแข่งก่อน อย่างน้อยเอาคะแนนสัก 4000 มาก่อน  

แล้วที่แย่กว่าคือทีมงานรับมือกับสื่อไม่ได้ ด้วยหน้าตาของน้องก็ช่วยให้สื่อเข้าหาได้ก็จริง แต่อันดับน้องตอนนี้ยังไม่ถึงระดับ 500 แต่สื่อจับจ้องเสียจนกลายเป็น ซุปเปอร์สตาร์ ไปแล้ว ปกติรายการ IC เล็กกว่า 500 อีก สื่อคงไม่จับจ้องขนาดนี้ แต่นี่น้องมีสื่อเข้ามาลงข่าวให้ยิ่งไปกันใหญ่ ลองตามดูก็แล้วกันตลอดที่ผ่านมาของวงการแบดมินตันไทย มีเยาวชนคนไหนที่สื่อจับจ้องขนาดนี้ไหม ตอน วิว เป็นเยาวชนโลก 3 สมัย สื่อยังไม่จับจ้องขนาดนี้เลยนะครับ หรือแม้แต่ตอนพี่เมย์ได้แชมป์โลก ตอนอายุ 18 พี่เมย์เองก็กดดันแต่พี่เมย์ยังรับมือได้ดีกว่านี้นะครับ แม้ตอนปี 2014 จะฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ ไปหน่อยก็ตาม ผมไม่ใช่ทีมงานสต๊าฟโค้ชย่อมไม่มีทางรู้เท่าโค้ชหรอกแต่ผลที่ออกมามันแสดงความไม่เป็นมืออาชีพของทีมงานแบบชัดเจนมาก

และสุดท้ายขอแสดงความยินดีกับน้องพิงค์ด้วย อย่างน้อยเข้าชิงรายการ IC ได้คงพอเพิ่มกำลังใจได้บ้าง ส่วนทีมงานต้องวางแผนให้ดีกว่านี้แสดงคงามเป็นมืออาชีพให้เห็น แต่ถ้าคุณรู้ตัวว่าด้วยองค์ความรู้ของตัวเองมันไม่พอก็ปล่อยน้องไปเถอะ นี่ไม่ใช่เวทีให้มาทดลองฝีมือแต่นักกีฬาเสียโอกาส

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่