62.19 % ลูกหนี้เห็นด้วยกับแนวคิดซื้อหนี้ ผลสำรวจจากสวนดุสิตโพล (ข่าว)

ขอบคุณเครดิตข้อมูลจากสวนดุสิตโพล
ลิงก์เครดิตข้อมูล จากสวนดุสิตโพล

ขอบคุณ
เครดิตข้อมูลผลสำรวจ จากสวนดุสิตโพล

ยังคงเป็นประเด็นที่พูดถึงอยู่ต่อเนื่องและสวนดุสิตโพลได้ทำการสำรวจออกมาแล้วตามบทวิเคราะห์ด้านบนทุกคนสามารถเข้าไปดูบทวิเคราะห์อย่างละเอียดได้ในลิ้งค์เลยค่ะ

.

ในมุมมองส่วนตัวของเราเอง...หากมีการดำเนินโครงการช่วยเหลือหนี้สินของประชาชนจริง ควรหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า "ซื้อหนี้" เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า รัฐบาลเข้ามารับภาระหนี้แทนประชาชนโดยตรง ทั้งที่ในความเป็นจริงแนวทางที่เป็นไปได้มากกว่าคือการที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินขายหนี้ให้ภาคเอกชนหรือหน่วยงานที่รัฐกำหนดเพื่อนำหนี้มาบริหารต่อ ภายใต้เงื่อนไขใหม่ เช่น การขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ลดอัตราดอกเบี้ย หรือกำหนดยอดผ่อนชำระที่ต่ำลง หากดำเนินการในลักษณะนี้ จะใกล้เคียงกับแนวทาง "การรวมหนี้" และ "การปรับโครงสร้างหนี้" มากกว่าการล้างหนี้ ซึ่งประโยชน์สำคัญคือช่วยให้ประชาชนมี "กระแสเงินสด" (Cash Flow) ติดตัวมากขึ้น แทนที่จะต้องนำรายได้ทั้งหมดไปชำระหนี้ในแต่ละเดือนตอนเงินเดือนออก

ปัจจุบันคนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนมีสภาพคล่องทางการเงินต่ำหรืออยู่ในภาวะติดลบ เงินเดือนออกมาก็เพียงเพื่อชำระหนี้ก่อนเป็นลำดับแรก หากโครงการนี้ช่วยลดภาระหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ย และทำให้ประชาชนสามารถจ่ายหนี้กับแหล่งเดียวได้ จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของภาคประชาชนและส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม แต่อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันปัญหาการก่อหนี้ซ้ำซ้อน รัฐต้องกำหนดเงื่อนไขให้ผู้เข้าร่วมโครงการ หมดสิทธิ์ขอสินเชื่อเพิ่มเติมเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี รวมถึงยกเลิกบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวัฏจักรหนี้ใหม่

อีกประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาคือ กลุ่มเป้าหมายของโครงการ ไม่ควรจำกัดเพียงแค่ผู้ที่เป็น NPL หนี้เสียแล้วเท่านั้น แต่ควรครอบคลุมไปถึงกลุ่มที่ยังสามารถผ่อนชำระได้ แต่มีภาระหนักและต้องจ่ายขั้นต่ำเป็นหลัก เพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็น NPL ในอนาคต และหากได้รับโอกาสในการปรับโครงสร้างหนี้ก่อน ก็จะช่วยลดปัญหาหนี้เสียในระบบได้เช่นกันท้ายที่สุด การดำเนินโครงการใดๆ ควรอยู่บนพื้นฐานของความสมัครใจ และต้องมีมาตรการป้องกันการใช้ช่องว่างของระบบเพื่อก่อหนี้ใหม่ มิฉะนั้นอาจกลายเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้เรื้อรังได้อย่างแท้จริง

เราว่าการแก้ปัญหาหนี้สินเป็นกุญแจสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ หากประชาชนยังมีภาระหนี้สูง กำลังซื้อก็ลดลง กระทบภาคธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวม ระยะแรกควรมุ่งลดภาระหนี้และปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมป้องกันการก่อหนี้ใหม่ ระยะต่อไป รัฐควรส่งเสริมการสร้างรายได้ พัฒนาทักษะอาชีพ และสนับสนุนการออม เพื่อให้ประชาชนมีเสถียรภาพทางการเงินและลดความเสี่ยงหนี้ซ้ำซ้อน

เพื่อนๆมีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรกันบ้างคะ?


**กรุณาแสดงความเห็นด้วยความสุภาพนะคะ ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่