แปลและเรียบเรียงจาก

ผู้สื่อข่าว อีแดฮี Yonhap News

Kakao Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในการจัดจำหน่ายเพลงและอัลบั้มในเกาหลี ถูกคณะกรรมการการค้ายุติธรรมจับได้ว่าแอบโฆษณาออนไลน์มาเป็นเวลากว่า 8 ปี

คณะกรรมการการค้ายุติธรรมเปิดเผยเมื่อวันที่ 24 ว่า ได้สั่งให้ Kakao Entertainment แก้ไขการกระทำผิด พร้อมทั้งปรับเป็นเงินรวม 3.9 พันล้านวอน ฐานละเมิดกฎหมายโฆษณา (โฆษณาหลอกลวง)

Kakao Entertainment ถูกกล่าวหาว่าแอบโฆษณาโดยไม่เปิดเผยความเกี่ยวข้องกับบริษัทตัวเอง โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2016 ถึงกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ได้เข้าซื้อหรือสร้างช่องทางเพลงบนโซเชียลมีเดีย (SNS) จำนวน 15 ช่อง (มีผู้ติดตามรวม 4.11 ล้านคน) และโพสต์โฆษณาทั้งหมด 2,353 รายการ

มีการตรวจพบว่า "뮤즈몬" (Naver Blog, Instagram, Twitter, Facebook), "아이돌 연구소" (Facebook), "노래는 듣고 다니냐" (Facebook, YouTube, TikTok, Instagram), และ "HIP-ZIP" (Facebook, Instagram) เป็นช่องทางโฆษณาแอบแฝงของ Kakao Entertainment

พบว่ามีการใช้ข้อความเช่น "เพลงที่ปรากฏในอัลกอริธึมของวันนี้" และ "ศิลปินที่ฉันได้ฟังแบบไม่ได้ตั้งใจแล้วหลงรัก" เพื่อทำให้ดูเหมือนว่าเป็นความคิดเห็นจากผู้ใช้จริงแทนที่จะเป็นโฆษณา

Kakao Entertainment ยังถูกกล่าวหาว่าในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม 2021 ถึงธันวาคม 2023 ได้ให้พนักงานเขียนโฆษณาทั้งหมด 37 รายการในชุมชนออนไลน์หลักของเกาหลี เช่น TheQoo, Ppomppu, MLB Park, Clien, Instiz ซึ่งมีสมาชิกรวม 1.5 ล้านคน

พบว่าได้โพสต์ข้อความที่มีหัวข้อเช่น "เพลงที่เลือกมาได้ดีจริงๆ" และ "วิดีโอที่อยากแนะนำ" แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าพนักงานเป็นผู้เขียน

Kakao Entertainment ยังถูกกล่าวหาว่าในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม 2016 ถึงธันวาคม 2023 ได้จ่ายเงิน 860 ล้านวอนให้กับบริษัทโฆษณาทั้ง 35 แห่ง เพื่อทำโฆษณาบน SNS รวม 427 รายการ โดยไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน

Kakao Entertainment ซึ่งเป็นผู้นำตลาดการจัดจำหน่ายเพลงดิจิทัลในเกาหลี ถูกตรวจสอบพบว่าทำโฆษณาหลอกลวง เนื่องจากเมื่อการจัดจำหน่ายเพลงและยอดขายอัลบั้มเพิ่มขึ้น ค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายก็เพิ่มขึ้นตาม และสำหรับศิลปินในสังกัดของบริษัท ยอดขายเพลงและอัลบั้มก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

คณะกรรมการการค้ายุติธรรมได้พิจารณาว่า เนื่องจากผู้บริโภคทั่วไปมีแนวโน้มที่จะรับรู้โพสต์โฆษณาของ Kakao Entertainment ว่าเป็นคำแนะนำจากบุคคลทั่วไปที่เขียนอย่างจริงใจ จึงได้ตัดสินว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่พวกเขายังคงกระทำผิดแม้ว่าจะมีการตรวจสอบทางกฎหมายภายในที่ชี้ให้เห็นว่าการกระทำของพวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นโฆษณาที่ไม่เป็นธรรม ทำให้คณะกรรมการการค้ายุติธรรมพิจารณาว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงและได้มีการปรับเป็นเงินจำนวนหลายล้านวอน

เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการการค้ายุติธรรมกล่าวว่า "เพลงกระแสหลักมีผลกระทบจากผลของการตามกระแส (อิทธิพลจากความต้องการของผู้อื่น), ผลกระทบจากการบอกต่อ (ความนิยมที่เกิดจากการพูดปากต่อปาก), และผลกระทบจากแฟนคลับที่มีอิทธิพลอย่างมาก" และกล่าวว่า "การที่ผู้เขียนโพสต์ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นผู้บริโภคทั่วไปหรือผู้โฆษณาจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค การปิดบังหรือไม่เปิดเผยข้อมูลนี้ถือเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค"

การดำเนินการในครั้งนี้เป็นกรณีแรกที่มีการลงโทษการโฆษณาหลอกลวงในวงการเพลงกระแสหลัก