เชื่อได้ว่าถ้าเป็นคนไทยแล้ว ต้องได้ลิ้มลองอาหารรสเด็ด ที่ชื่อว่าก๋วยเตี๋ยวแน่นอน ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่มีความสำคัญและเป็นที่นิยมในวัฒนธรรมไทยมาอย่างยาวนาน การกินก๋วยเตี๋ยวไม่เพียงแต่เป็นการรับประทานอาหาร แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างคนในสังคมไทยอีกด้วย
เล่ากันย้อนอดีตไปสักหน่อย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลไทยภายใต้การนำของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ส่งเสริมการกินก๋วยเตี๋ยวเพื่อเป็นการลดการบริโภคข้าวที่มีจำกัดในช่วงสงคราม รัฐบาลได้สนับสนุนให้ประชาชนหันมากินก๋วยเตี๋ยวแทนข้าว และมีการรณรงค์ให้ร้านค้าต่างๆ ขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้น เนื่องจากก๋วนเตี๋ยวเป็นของที่มีราคาไม่แพง และมีสารอาหารครบ 5 หมู่ ประชาชนกินแล้วถ้วยเดียวอยู่ท้อง ไม่ต้องไปสรรหาของกินอื่นให้ยุ่งยาก จะได้เอาเวลามาพัฒนาประเทศ(ว่างั้น)
-----
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก๋วยเตี๋ยวได้กลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย รัฐบาลได้สนับสนุนการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการส่งออกก๋วยเตี๋ยวไทยไปยังต่างประเทศเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ
ในปัจจุบัน รัฐบาลไทยยังคงสนับสนุนการกินก๋วยเตี๋ยวและการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศ โดยมีการส่งเสริมให้ร้านอาหารไทยได้รับเครื่องหมาย Thai SELECT เพื่อยืนยันความเป็นต้นตำรับของอาหารไทย นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านการกินอาหารไทย ซึ่งก๋วยเตี๋ยวเป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
จริงๆ แล้วก๋วยเตี๋ยวไม่ใช่อาหารไทย โดยกำเนิด ก๋วยเตี๋ยวมีต้นกำเนิดมาจากการนำเข้าของชาวจีนที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวจีนได้นำก๋วยเตี๋ยวเข้ามาและปรับปรุงให้เข้ากับรสชาติและวัฒนธรรมไทย จนกลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในทุกภูมิภาคของประเทศ
ก๋วยเตี๋ยวมีหลายประเภทและรสชาติที่หลากหลาย เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ และก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ซึ่งแต่ละประเภทมีเอกลักษณ์และรสชาติที่แตกต่างกันไป (แล้วแต่ใครชอบ )
-----
การกินก๋วยเตี๋ยว ไม่เพียงแต่เป็นการรับประทานอาหาร แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์และความสนุกสนานในครอบครัวและกลุ่มเพื่อน (หรือจะไปกับแฟนก็ได้) การนั่งกินก๋วยเตี๋ยวร่วมกันเป็นการสร้างความอบอุ่นและความสุขในชีวิตประจำวัน (เม้ามอย) นินทาชาวบ้าน หรือ จะนายกก็ได้ การล้อมวงกันทานอาหารจึงเป็นกิจวรรตประจำวัน ที่สร้างความสัมพ้นธ์ในสังคมไทย และสังคมคนเอเชียมาช้านาน
โบราณนานมา ก๋วยเตี๋ยวกับวัฒนธรรมไทย
เล่ากันย้อนอดีตไปสักหน่อย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลไทยภายใต้การนำของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ส่งเสริมการกินก๋วยเตี๋ยวเพื่อเป็นการลดการบริโภคข้าวที่มีจำกัดในช่วงสงคราม รัฐบาลได้สนับสนุนให้ประชาชนหันมากินก๋วยเตี๋ยวแทนข้าว และมีการรณรงค์ให้ร้านค้าต่างๆ ขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้น เนื่องจากก๋วนเตี๋ยวเป็นของที่มีราคาไม่แพง และมีสารอาหารครบ 5 หมู่ ประชาชนกินแล้วถ้วยเดียวอยู่ท้อง ไม่ต้องไปสรรหาของกินอื่นให้ยุ่งยาก จะได้เอาเวลามาพัฒนาประเทศ(ว่างั้น)
-----
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก๋วยเตี๋ยวได้กลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย รัฐบาลได้สนับสนุนการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการส่งออกก๋วยเตี๋ยวไทยไปยังต่างประเทศเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ
ในปัจจุบัน รัฐบาลไทยยังคงสนับสนุนการกินก๋วยเตี๋ยวและการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศ โดยมีการส่งเสริมให้ร้านอาหารไทยได้รับเครื่องหมาย Thai SELECT เพื่อยืนยันความเป็นต้นตำรับของอาหารไทย นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านการกินอาหารไทย ซึ่งก๋วยเตี๋ยวเป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
จริงๆ แล้วก๋วยเตี๋ยวไม่ใช่อาหารไทย โดยกำเนิด ก๋วยเตี๋ยวมีต้นกำเนิดมาจากการนำเข้าของชาวจีนที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวจีนได้นำก๋วยเตี๋ยวเข้ามาและปรับปรุงให้เข้ากับรสชาติและวัฒนธรรมไทย จนกลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในทุกภูมิภาคของประเทศ
ก๋วยเตี๋ยวมีหลายประเภทและรสชาติที่หลากหลาย เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ และก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ซึ่งแต่ละประเภทมีเอกลักษณ์และรสชาติที่แตกต่างกันไป (แล้วแต่ใครชอบ )
-----
การกินก๋วยเตี๋ยว ไม่เพียงแต่เป็นการรับประทานอาหาร แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์และความสนุกสนานในครอบครัวและกลุ่มเพื่อน (หรือจะไปกับแฟนก็ได้) การนั่งกินก๋วยเตี๋ยวร่วมกันเป็นการสร้างความอบอุ่นและความสุขในชีวิตประจำวัน (เม้ามอย) นินทาชาวบ้าน หรือ จะนายกก็ได้ การล้อมวงกันทานอาหารจึงเป็นกิจวรรตประจำวัน ที่สร้างความสัมพ้นธ์ในสังคมไทย และสังคมคนเอเชียมาช้านาน