ขอระบายเรื่องตัวเองในชีวิต
จุดเริ่มต้น คือเราอยู่ด้วยตัวเองมาโดยตลอด แม่เลิกกับพ่อ เพราะพ่อเจ้าชู้ แล้วเรามีพี่น้อง2คน
ข้ามไปตอนตอนโต ด้วยความแม่ต้องไปทำงานที่กรุงเทพ เรา อยู่กับตากับยาย พอ มต้น ตา ยายก็เสีย พี่กับเราหางกัน2ปี
ในมุ่มเรานะ พี่เขาก็มีสังคมของเขา มีแฟน ดูแลตัวเองไปไหนก็ได้ไป บวกกับมีรถมอไซค์คันเดียวพี่ได้ไปครอง ส่วนเราติดแง๊กอยู่กับบ้าน-โรงเรียน พอดีอยู่กัน2คน เราก็รู้สึก ไม่มีความสุขแอบเห็นพี่น้องคู่อื่นเขาดูแลกันดีจัง แต่กับพี่ตัวเองไม่เคยนึกถึงเราเลยเราเลยเลือกไปอยู่ บ้านเพื่อน เป็นลูกพี่ลูกน้อง ถ้าจะเริ่ม ก็มาจากตรงนั้นแล้ว บวกกับเรารักตากับยายมาก แม่ก็ไม่ได้โทรหา เวลาแม่โทรมาก็คุยกับพี่คนเดียวสะส่วนมาก แล้วพอพี่ไปเรียนต่อ เราก็อยู่คนเดียว ก็ใช้ชีวิตไป พอจบ มี.6ไป เรียนต่อ เรากับพี่ไม่ได้ติดต่อกัน จน เข้าวัยทำงาน เราเลือกไปทำต่างจังหวัด เราก็มีความสุขดีนะไปเจอผู้คน ทำงานเข้าปีที่5 ช่วงโควิดมารอบหลังๆ ต้นปีมี่แล้ว เราดันติดโควิด รู้สึกทรมาน เราเป็นไรขึ้นมาใครจะรเลยบวกกับหมดแฟสชั้นกับที่ทำงานเดิม เลยตัดสินใจ คุยกับพี่สาววาาขอมาอยู่ด้วย เขาก็ให้คำปรึกษาได้ ให้มาก็ลสา็ลาออกอยู่ด้วย เราลาออกจากที่ทำงานเดิม แล้วมาอยู่ด้วยที่คอนโดเช่า
พอมาอยู่จริง ก็ได้ไปนอนที่หน้าทีวี ก็อยู่ได้ไม่ติด แต่เราต้องช่วยออกตังรายเดือน ก็ไม่ติด แล้วที่นี้ เราได้งานในเมือง แล้วคอนโดเดิมมัยไกลอยู่นอกเมืองแต่ที่ทำงานปัจจุบันอยู่ ในเมือง ที่นี้ เรารีบย้านเพราะ ไม่อยากตื่นเช้า พี่สาวก็ลงความเห็นอยามก็แลรเราก็ไม่ติดมาได้
พอมาอยู่ที่ใหม่ ค่ามัดจำ ค่าที่พัก เราต้องออกเองหเราด้วยความเป็นพี่ไม่คิดจะช่วยหน่อยเลยแล้วเราก็เอะปล่อยไป แบบเขาก็ทำงานได้เงินเดือนเยอะเหมือนกันแต่ก็ไม่ช่วยอออยส่างน้อวยแค่คำพูดออกมาก็ยังดี สุดท้ายก็ไม่มี เราก็ต้องทำใจ ได้มาอยู่ด้วยกันแล้ว ปกติส่วนตัว นิสัยเราเป็นคนไม่ชอบพูดอะไรทำก็ได้ได้แค่ทำใจ ตลกดีเนาะ พอมาอยที่ใหม่ได้นอนเตียงไม่ถึง อาทิต เพื่อนพี่จะมา ให้เราไปนอนพื้น ก็สั่งซื้อฟูกบางๆมาให้เรานอน ตอนแรกก็ไม่ติดใจอะไร สุดท้ายบอกสั่งมาให้แล้ว เราต้องออกตังเอง สุดท้ายเพื่อนพี่สาวก็ไม่มา เราก็นอนพื้นมาโดยตลอด น้ำก็ต้องซื้อแยกของใครของมัน เขาให้เหตุผลว่าเรากินน่ำเยอะ เราก็ไม่ติเราราก็สั่งเป็นแพ็คจากใน7-11เอา บวกกับเปคนไม่ชอบไปไหน ทำงานหมดวัน แล้วกับไปนอน วนลูปไปที่นี้ ที่เดิมที่อยู่ ยังรู้สึกไกลจากที่ทำงาน บวกกับเวลาเปิดระเบียงมา ได้กลิ่นเหม็นเขียว ไม่รู้ห้องไหน ได้กลิ่นทุกวันเช้าเย็น เป็นอีกปัจจับที่ทำให้ย้ายหอ พอพี่สาวได้มาอยู่ห้องพัก แล้วมาเจอค่าไฟ ค่าน่ำแพงแล้วอยากย้าย ซึ่งเราก็รับได้เพราะเคยอยู่หอพักมาโดยตลอด ก็ไม่ได้ขัดใจ ก็หาคอนโดไกล้ที่ทำงาน ใหม่ ก็ได้เลย เดินไปทำงาน 1km. พอถึงวันย้าย พี่เราเป็นคนติดตอกับมี่ใหม่ล่าสุด เรานึกว่าพี่เราจะช่วยออกตังค่ามัดจำก่อน มารู้ความจริงงตอนถึงที่ใหม่ ผู้ให้เช่าบอกจ่ายมาก่อน10000 สำเราเรา ก็เยอะนะ พี่หันมาถามมีเงินไหม เราก็แบบ ฉันอีกสินะ คือถ้าเราไม่มีตังทำไง โคตรหงุดหงิดเลย แต่ทำไงได้ก็ขนของมาหมดแล้ว ก็ต้องจ่ายไป เหนื่อยใจสุดๆอยากมีโมเม้นพี่จ่ายก่อน พี่ออกให้ไม่มี แล้วถ้าเราไม่มีตังเลยมีแต่ตัวไม่เงินจะทำยังไง คิดไม่ออกเลย แล้วที่ใหม่ก็อย่าหวังได้นอนเตียง เป็นกำลังใจให้ตัวเอง ถ้าได้ย้ายอีก คงไปหาอยู่พักคนเดียว รู้สึกสบายใจกว่า ทุกวันนี้ ชอบอยู่ที่ทำงานมากกว่าห้องตัวเอง ช่วยฉันด้วย
เผื่อมีใครสงสัยทำไหม ไม่คุยกัน คือฉันไม่คุยอยอยู่รมีมีอยู่ในมโนธรรมของตัวเอง แล้วถ้าถามได้คุยกับแม่ไหม ต้องเข้าใจแก่ตอนนี้ เขาก็ไปอยู่กับแฟนใหม่ ถึงเราพูดไเขาก็ขจะบอกให้อดทน อยู่ด้วยกัน ช่วยกันจ่าย ได้แค่ทำใจ ถ้าอีกคำถาม มีเพื่อนไหม ทำไมไม่คุยกับเพื่อน ทุกๆคนก็มีเรื่อง เราไม่อยากเอาความไม่สบายใจของตัวเองไปให้ใครหนักใจด้วย เลยขอมาบ่นในนี้ ถ้าใครอ่านไหว้ย่อค่ะ ไม่หยาบ ไม่ว่ากันก็พอ 🙏🏻🙏🏻
ถ้าทำได้ปล่อยว่างกับตัวเองให้ได้
จุดเริ่มต้น คือเราอยู่ด้วยตัวเองมาโดยตลอด แม่เลิกกับพ่อ เพราะพ่อเจ้าชู้ แล้วเรามีพี่น้อง2คน
ข้ามไปตอนตอนโต ด้วยความแม่ต้องไปทำงานที่กรุงเทพ เรา อยู่กับตากับยาย พอ มต้น ตา ยายก็เสีย พี่กับเราหางกัน2ปี
ในมุ่มเรานะ พี่เขาก็มีสังคมของเขา มีแฟน ดูแลตัวเองไปไหนก็ได้ไป บวกกับมีรถมอไซค์คันเดียวพี่ได้ไปครอง ส่วนเราติดแง๊กอยู่กับบ้าน-โรงเรียน พอดีอยู่กัน2คน เราก็รู้สึก ไม่มีความสุขแอบเห็นพี่น้องคู่อื่นเขาดูแลกันดีจัง แต่กับพี่ตัวเองไม่เคยนึกถึงเราเลยเราเลยเลือกไปอยู่ บ้านเพื่อน เป็นลูกพี่ลูกน้อง ถ้าจะเริ่ม ก็มาจากตรงนั้นแล้ว บวกกับเรารักตากับยายมาก แม่ก็ไม่ได้โทรหา เวลาแม่โทรมาก็คุยกับพี่คนเดียวสะส่วนมาก แล้วพอพี่ไปเรียนต่อ เราก็อยู่คนเดียว ก็ใช้ชีวิตไป พอจบ มี.6ไป เรียนต่อ เรากับพี่ไม่ได้ติดต่อกัน จน เข้าวัยทำงาน เราเลือกไปทำต่างจังหวัด เราก็มีความสุขดีนะไปเจอผู้คน ทำงานเข้าปีที่5 ช่วงโควิดมารอบหลังๆ ต้นปีมี่แล้ว เราดันติดโควิด รู้สึกทรมาน เราเป็นไรขึ้นมาใครจะรเลยบวกกับหมดแฟสชั้นกับที่ทำงานเดิม เลยตัดสินใจ คุยกับพี่สาววาาขอมาอยู่ด้วย เขาก็ให้คำปรึกษาได้ ให้มาก็ลสา็ลาออกอยู่ด้วย เราลาออกจากที่ทำงานเดิม แล้วมาอยู่ด้วยที่คอนโดเช่า
พอมาอยู่จริง ก็ได้ไปนอนที่หน้าทีวี ก็อยู่ได้ไม่ติด แต่เราต้องช่วยออกตังรายเดือน ก็ไม่ติด แล้วที่นี้ เราได้งานในเมือง แล้วคอนโดเดิมมัยไกลอยู่นอกเมืองแต่ที่ทำงานปัจจุบันอยู่ ในเมือง ที่นี้ เรารีบย้านเพราะ ไม่อยากตื่นเช้า พี่สาวก็ลงความเห็นอยามก็แลรเราก็ไม่ติดมาได้
พอมาอยู่ที่ใหม่ ค่ามัดจำ ค่าที่พัก เราต้องออกเองหเราด้วยความเป็นพี่ไม่คิดจะช่วยหน่อยเลยแล้วเราก็เอะปล่อยไป แบบเขาก็ทำงานได้เงินเดือนเยอะเหมือนกันแต่ก็ไม่ช่วยอออยส่างน้อวยแค่คำพูดออกมาก็ยังดี สุดท้ายก็ไม่มี เราก็ต้องทำใจ ได้มาอยู่ด้วยกันแล้ว ปกติส่วนตัว นิสัยเราเป็นคนไม่ชอบพูดอะไรทำก็ได้ได้แค่ทำใจ ตลกดีเนาะ พอมาอยที่ใหม่ได้นอนเตียงไม่ถึง อาทิต เพื่อนพี่จะมา ให้เราไปนอนพื้น ก็สั่งซื้อฟูกบางๆมาให้เรานอน ตอนแรกก็ไม่ติดใจอะไร สุดท้ายบอกสั่งมาให้แล้ว เราต้องออกตังเอง สุดท้ายเพื่อนพี่สาวก็ไม่มา เราก็นอนพื้นมาโดยตลอด น้ำก็ต้องซื้อแยกของใครของมัน เขาให้เหตุผลว่าเรากินน่ำเยอะ เราก็ไม่ติเราราก็สั่งเป็นแพ็คจากใน7-11เอา บวกกับเปคนไม่ชอบไปไหน ทำงานหมดวัน แล้วกับไปนอน วนลูปไปที่นี้ ที่เดิมที่อยู่ ยังรู้สึกไกลจากที่ทำงาน บวกกับเวลาเปิดระเบียงมา ได้กลิ่นเหม็นเขียว ไม่รู้ห้องไหน ได้กลิ่นทุกวันเช้าเย็น เป็นอีกปัจจับที่ทำให้ย้ายหอ พอพี่สาวได้มาอยู่ห้องพัก แล้วมาเจอค่าไฟ ค่าน่ำแพงแล้วอยากย้าย ซึ่งเราก็รับได้เพราะเคยอยู่หอพักมาโดยตลอด ก็ไม่ได้ขัดใจ ก็หาคอนโดไกล้ที่ทำงาน ใหม่ ก็ได้เลย เดินไปทำงาน 1km. พอถึงวันย้าย พี่เราเป็นคนติดตอกับมี่ใหม่ล่าสุด เรานึกว่าพี่เราจะช่วยออกตังค่ามัดจำก่อน มารู้ความจริงงตอนถึงที่ใหม่ ผู้ให้เช่าบอกจ่ายมาก่อน10000 สำเราเรา ก็เยอะนะ พี่หันมาถามมีเงินไหม เราก็แบบ ฉันอีกสินะ คือถ้าเราไม่มีตังทำไง โคตรหงุดหงิดเลย แต่ทำไงได้ก็ขนของมาหมดแล้ว ก็ต้องจ่ายไป เหนื่อยใจสุดๆอยากมีโมเม้นพี่จ่ายก่อน พี่ออกให้ไม่มี แล้วถ้าเราไม่มีตังเลยมีแต่ตัวไม่เงินจะทำยังไง คิดไม่ออกเลย แล้วที่ใหม่ก็อย่าหวังได้นอนเตียง เป็นกำลังใจให้ตัวเอง ถ้าได้ย้ายอีก คงไปหาอยู่พักคนเดียว รู้สึกสบายใจกว่า ทุกวันนี้ ชอบอยู่ที่ทำงานมากกว่าห้องตัวเอง ช่วยฉันด้วย
เผื่อมีใครสงสัยทำไหม ไม่คุยกัน คือฉันไม่คุยอยอยู่รมีมีอยู่ในมโนธรรมของตัวเอง แล้วถ้าถามได้คุยกับแม่ไหม ต้องเข้าใจแก่ตอนนี้ เขาก็ไปอยู่กับแฟนใหม่ ถึงเราพูดไเขาก็ขจะบอกให้อดทน อยู่ด้วยกัน ช่วยกันจ่าย ได้แค่ทำใจ ถ้าอีกคำถาม มีเพื่อนไหม ทำไมไม่คุยกับเพื่อน ทุกๆคนก็มีเรื่อง เราไม่อยากเอาความไม่สบายใจของตัวเองไปให้ใครหนักใจด้วย เลยขอมาบ่นในนี้ ถ้าใครอ่านไหว้ย่อค่ะ ไม่หยาบ ไม่ว่ากันก็พอ 🙏🏻🙏🏻