ทุกกิจการเมื่อโตที่พอจะขยับขยาย ก็พร้อมเป็นหุ้น IPO เข้าตลาด เพื่อระดมทุนต่อไป
‘เนื้อแท้’ ของ ‘โต-ตาล’ โกยรายได้ ‘630 ล้านบาท’ทำแซนวิชเนื้อ เตรียมขายลูกชิ้น วางเป้า IPO ภายในปี 2570
อาณาจักร “เนื้อแท้” ยังโตต่อ! “ตาล-นภศูล” เผย ปีที่แล้วรายได้โต 30% ปรับกลยุทธ์ใหม่ ไม่เน้นขยายสาขา-หันต่อยอดด้วยอาหารแปรรูป หวังกินส่วนแบ่งพอร์ตโฟลิโอ 50:50 ย้ำเป้าหมาย IPO ยังเหมือนเดิม แง้มมีคนชวนไปต่างประเทศแล้ว
เผลอแปปเดียวอาณาจักรเนื้อแท้ภายใต้ “บริษัท คอมพานี บี จำกัด” ที่มี “โต-วีรชน ศรัทธายิ่ง” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โต Silly Fools” และ “ตาล-นภศูล รามบุตร” นั่งแท่นสองหัวเรือใหญ่ กำลังเดินทางเข้าสู่ปีที่ 11 กันแล้ว ธุรกิจที่มีจุดเริ่มต้นจากความ “เนิร์ดเนื้อ” ของโต ทำให้แบรนดิ้งเนื้อแท้ติดตลาดอย่างรวดเร็ว ความละเอียดลออทุกขั้นตอนตั้งแต่คัดเลือกสายพ่อพันธุ์วัวเพื่อให้ได้วัวเลือดแองกัสแท้ๆ 100% ยิ่งทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในเนื้อแท้มากขึ้น นำไปสู่การแตกไลน์ร้านอาหารในเครือ จนถึงปัจจุบัน “เนื้อแท้” มีร้านขายเนื้อและร้านอาหารในพอร์ตรวมทั้งสิ้น 6 แบรนด์
“ตาล-นภศูล” เปิดเผยภาพรวมการเติบโตปี 2567 กับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ปีที่แล้วปิดตัวเลขผลประกอบการไปที่ “630 ล้านบาท” เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 30% โดยตอนนี้รวมร้านทั้งหมดในเครือมีอยู่ 40 สาขา ตั้งแต่เนื้อแท้, เนื้อแท้ Wok กะ Steak, The Beef Master, พันละวัน, เซียนเตี๋ยว และเนื้อแท้ Butchery ในฐานะร้านขายเนื้อสด
สำหรับแผนปีนี้ “ตาล” บอกว่า แนวทางเปลี่ยนไปจากเดิม ที่ผ่านมาเน้นสร้างการเติบโตผ่านการเพิ่มจำนวนสาขา ซึ่งก็พบว่า แนวทางนี้อาจไม่เวิร์กนัก ร้านอาหารอาจจะมีการเติบโตบ้างประมาณ 15% แต่ก้อนใหญ่ที่ให้ความสำคัญในปีนี้จะเป็นสัดส่วนอาหารแปรรูปมากกว่า เนื่องจากแบรนดิ้งที่แข็งแรงทำให้การขายสินค้าแมสง่ายขึ้นทั้งในเชิงการทำการตลาดและการจัดการด้วย
“เนื้อแท้” เปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดยะลา 1 แห่ง และกำลังจะเปิดที่สาขาโลตัส สุขุมวิท 50 อีก 1 แห่ง ซึ่งทั้งสองสาขาเป็นแผนจากไปป์ไลน์เดิมเมื่อปีที่แล้ว “ตาล” มองว่า ตอนนี้อยากใช้พลังไปกับการทำให้สาขาที่มีอยู่เติบโตมากขึ้น การขยายสาขาเยอะๆ ในปีที่ผ่านมาทำให้แผนอื่นๆ โดยเฉพาะการแตกไลน์ทำอาหารแปรรูปต้องเลื่อนมาออกสตาร์ทในปีนี้แทน ในอนาคตอยากให้สัดส่วนร้านอาหารและอาหารแปรรูปแบ่งพอร์ตโฟลิโอกัน 50:50 เชื่อว่า ยิ่งกระจายสัดส่วนได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ธุรกิจมีความยั่งยืน
สำหรับธุรกิจอาหารแปรรูปที่เพิ่งเปิดตัวและได้รับฟีดแบ็กที่ดีมาก ได้แก่ “เนื้อย่างซอสจิ้มแจ่ว ชีสโทสต์แซนวิช” หากใครเห็นกระแสบนโซเชียลมีเดียขณะนี้จะเห็นว่า หลายสาขาเริ่มขาดตลาดกันแล้ว ตรงกับที่ “ตาล” ระบุว่า เนื้อแท้ได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภค เนื่องจาก “โต-วีรชน” เป็นคนตั้งใจทำสิ่งที่ดีที่สุด จะหยิบเครดิตตรงนี้ไปต่อยอดเปิดร้านใหม่ๆ หรือทำโปรดักต์เพิ่มก็ย่อมได้
“ตอนนี้เราโฟกัสที่การทำอาหารแปรรูปกับ NSL เป็นหลัก แต่ก็มีอาหารแปรรูปบางอย่างที่เจ้าอื่นผลิตให้เหมือนกัน นอกจากตัวนี้ก็คงจะมีลูกชิ้นเนื้อสูตรที่เราเคยทำขายในร้าน เราจะเอาออกมาขายโดยมี NSL เป็นผู้ผลิต น่าจะได้เห็นกันช่วงไตรมาสที่ 2 ปีนี้ อาหารแปรรูปพอมีพาร์ทเนอร์เราก็ใช้การบริหารยี่ห้อมากกว่า เหนื่อยน้อยกว่าร้านอาหาร ร้านอาหารทั้งลงทุน ทั้งบริหารคน พื้นที่ วัตถุดิบ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าไม่มีร้านอาหารก็ไม่มีตรงนี้ มันก็เป็นบันไดแต่ละขั้นไป”
ส่วนเป้าใหญ่ที่จะไปถึง “พันล้าน” ได้รึเปล่า ตาลมองว่า ตนเองไม่ได้มีเลือดนักธุรกิจมากขนาดนั้น ให้ดูกันปีต่อปี หรือแผน IPO ในอนาคตก็เป็นสิ่งที่พูดคุยร่วมกันกับกลุ่มผู้ถือหุ้น ตอนนี้ยังเป็นเป้าเดิมที่เคยวางไว้ราวๆ ปี 2569 หรือ 2570 ด้านการขยายร้านอาหารไปต่างจังหวัดตอนนี้มีเพียง 2 แห่ง คือ สาขาในศูนย์อาหาร เดอะมอลล์โคราช และสาขายะลา ตนรับทราบว่า มีเสียงเรียกร้องเยอะทั้งแถบภาคใต้ อีสาน และจังหวัดเชียงใหม่ แต่การจะขยายไปตรงไหนหลังจากนี้คงทำงานหลังบ้านให้แข็งแรงก่อน เมื่อพร้อมแล้วจึงไปแบบไม่เร่งรีบ
เมื่อถามว่า มีคนมาชวน “เนื้อแท้” ไปชิมลางที่ต่างประเทศบ้างหรือไม่ “ตาล” บอกว่า มี และกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพูดคุยว่า จะเป็นประเทศไหน เบื้องต้นคาดว่าไปประเทศมุสลิมก่อน ส่วนจะกางปีกภายในปีนี้หรือปีหน้าหรือไม่ยังให้คำตอบไม่ได้ ให้มองเป็นเรื่องของอนาคต
อ่านต่อ:
https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1172003?anm=
‘เนื้อแท้’ ของ ‘โต-ตาล’ โกยรายได้ ‘630 ล้านบาท’ทำแซนวิชเนื้อ เตรียมขายลูกชิ้น วางเป้า IPO ภายในปี 2570
‘เนื้อแท้’ ของ ‘โต-ตาล’ โกยรายได้ ‘630 ล้านบาท’ทำแซนวิชเนื้อ เตรียมขายลูกชิ้น วางเป้า IPO ภายในปี 2570
อาณาจักร “เนื้อแท้” ยังโตต่อ! “ตาล-นภศูล” เผย ปีที่แล้วรายได้โต 30% ปรับกลยุทธ์ใหม่ ไม่เน้นขยายสาขา-หันต่อยอดด้วยอาหารแปรรูป หวังกินส่วนแบ่งพอร์ตโฟลิโอ 50:50 ย้ำเป้าหมาย IPO ยังเหมือนเดิม แง้มมีคนชวนไปต่างประเทศแล้ว
เผลอแปปเดียวอาณาจักรเนื้อแท้ภายใต้ “บริษัท คอมพานี บี จำกัด” ที่มี “โต-วีรชน ศรัทธายิ่ง” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โต Silly Fools” และ “ตาล-นภศูล รามบุตร” นั่งแท่นสองหัวเรือใหญ่ กำลังเดินทางเข้าสู่ปีที่ 11 กันแล้ว ธุรกิจที่มีจุดเริ่มต้นจากความ “เนิร์ดเนื้อ” ของโต ทำให้แบรนดิ้งเนื้อแท้ติดตลาดอย่างรวดเร็ว ความละเอียดลออทุกขั้นตอนตั้งแต่คัดเลือกสายพ่อพันธุ์วัวเพื่อให้ได้วัวเลือดแองกัสแท้ๆ 100% ยิ่งทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในเนื้อแท้มากขึ้น นำไปสู่การแตกไลน์ร้านอาหารในเครือ จนถึงปัจจุบัน “เนื้อแท้” มีร้านขายเนื้อและร้านอาหารในพอร์ตรวมทั้งสิ้น 6 แบรนด์
“ตาล-นภศูล” เปิดเผยภาพรวมการเติบโตปี 2567 กับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ปีที่แล้วปิดตัวเลขผลประกอบการไปที่ “630 ล้านบาท” เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 30% โดยตอนนี้รวมร้านทั้งหมดในเครือมีอยู่ 40 สาขา ตั้งแต่เนื้อแท้, เนื้อแท้ Wok กะ Steak, The Beef Master, พันละวัน, เซียนเตี๋ยว และเนื้อแท้ Butchery ในฐานะร้านขายเนื้อสด
สำหรับแผนปีนี้ “ตาล” บอกว่า แนวทางเปลี่ยนไปจากเดิม ที่ผ่านมาเน้นสร้างการเติบโตผ่านการเพิ่มจำนวนสาขา ซึ่งก็พบว่า แนวทางนี้อาจไม่เวิร์กนัก ร้านอาหารอาจจะมีการเติบโตบ้างประมาณ 15% แต่ก้อนใหญ่ที่ให้ความสำคัญในปีนี้จะเป็นสัดส่วนอาหารแปรรูปมากกว่า เนื่องจากแบรนดิ้งที่แข็งแรงทำให้การขายสินค้าแมสง่ายขึ้นทั้งในเชิงการทำการตลาดและการจัดการด้วย
“เนื้อแท้” เปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดยะลา 1 แห่ง และกำลังจะเปิดที่สาขาโลตัส สุขุมวิท 50 อีก 1 แห่ง ซึ่งทั้งสองสาขาเป็นแผนจากไปป์ไลน์เดิมเมื่อปีที่แล้ว “ตาล” มองว่า ตอนนี้อยากใช้พลังไปกับการทำให้สาขาที่มีอยู่เติบโตมากขึ้น การขยายสาขาเยอะๆ ในปีที่ผ่านมาทำให้แผนอื่นๆ โดยเฉพาะการแตกไลน์ทำอาหารแปรรูปต้องเลื่อนมาออกสตาร์ทในปีนี้แทน ในอนาคตอยากให้สัดส่วนร้านอาหารและอาหารแปรรูปแบ่งพอร์ตโฟลิโอกัน 50:50 เชื่อว่า ยิ่งกระจายสัดส่วนได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ธุรกิจมีความยั่งยืน
สำหรับธุรกิจอาหารแปรรูปที่เพิ่งเปิดตัวและได้รับฟีดแบ็กที่ดีมาก ได้แก่ “เนื้อย่างซอสจิ้มแจ่ว ชีสโทสต์แซนวิช” หากใครเห็นกระแสบนโซเชียลมีเดียขณะนี้จะเห็นว่า หลายสาขาเริ่มขาดตลาดกันแล้ว ตรงกับที่ “ตาล” ระบุว่า เนื้อแท้ได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภค เนื่องจาก “โต-วีรชน” เป็นคนตั้งใจทำสิ่งที่ดีที่สุด จะหยิบเครดิตตรงนี้ไปต่อยอดเปิดร้านใหม่ๆ หรือทำโปรดักต์เพิ่มก็ย่อมได้
“ตอนนี้เราโฟกัสที่การทำอาหารแปรรูปกับ NSL เป็นหลัก แต่ก็มีอาหารแปรรูปบางอย่างที่เจ้าอื่นผลิตให้เหมือนกัน นอกจากตัวนี้ก็คงจะมีลูกชิ้นเนื้อสูตรที่เราเคยทำขายในร้าน เราจะเอาออกมาขายโดยมี NSL เป็นผู้ผลิต น่าจะได้เห็นกันช่วงไตรมาสที่ 2 ปีนี้ อาหารแปรรูปพอมีพาร์ทเนอร์เราก็ใช้การบริหารยี่ห้อมากกว่า เหนื่อยน้อยกว่าร้านอาหาร ร้านอาหารทั้งลงทุน ทั้งบริหารคน พื้นที่ วัตถุดิบ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าไม่มีร้านอาหารก็ไม่มีตรงนี้ มันก็เป็นบันไดแต่ละขั้นไป”
ส่วนเป้าใหญ่ที่จะไปถึง “พันล้าน” ได้รึเปล่า ตาลมองว่า ตนเองไม่ได้มีเลือดนักธุรกิจมากขนาดนั้น ให้ดูกันปีต่อปี หรือแผน IPO ในอนาคตก็เป็นสิ่งที่พูดคุยร่วมกันกับกลุ่มผู้ถือหุ้น ตอนนี้ยังเป็นเป้าเดิมที่เคยวางไว้ราวๆ ปี 2569 หรือ 2570 ด้านการขยายร้านอาหารไปต่างจังหวัดตอนนี้มีเพียง 2 แห่ง คือ สาขาในศูนย์อาหาร เดอะมอลล์โคราช และสาขายะลา ตนรับทราบว่า มีเสียงเรียกร้องเยอะทั้งแถบภาคใต้ อีสาน และจังหวัดเชียงใหม่ แต่การจะขยายไปตรงไหนหลังจากนี้คงทำงานหลังบ้านให้แข็งแรงก่อน เมื่อพร้อมแล้วจึงไปแบบไม่เร่งรีบ
เมื่อถามว่า มีคนมาชวน “เนื้อแท้” ไปชิมลางที่ต่างประเทศบ้างหรือไม่ “ตาล” บอกว่า มี และกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพูดคุยว่า จะเป็นประเทศไหน เบื้องต้นคาดว่าไปประเทศมุสลิมก่อน ส่วนจะกางปีกภายในปีนี้หรือปีหน้าหรือไม่ยังให้คำตอบไม่ได้ ให้มองเป็นเรื่องของอนาคต
อ่านต่อ:
https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1172003?anm=