สศร. จัดกิจกรรม Workshop ผู้ประกอบการผ้าไทยกลุ่มจังหวัดอันดามัน ยกระดับศักยภาพ เสริมแกร่งแข่งขันได้ในเวทีโลก
วันอังคารที่ 18 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมภูเก็ต เมอร์ลิน จังหวัดภูเก็ต นางเกษร กำเหนิดเพ็ชร รองผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Workshop พัฒนาการสร้างสรรค์ผลงานเครื่องแต่งกายร่วมสมัยและผลิตภัณฑ์ ภายใต้โครงการพัฒนาการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัยเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจด้านการออกแบบแฟชั่นและเครื่องแต่งกายร่วมสมัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยได้รับเกียรติจากนายสุวิทย์ พันธ์เสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมโครงการฯ พร้อมด้วยส่วนราชการภาครัฐและองค์กรภาคเอกชน อาทิ วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต วัฒนธรรมจังหวัดระนอง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายกสมาคมศิลป์ภูเก็จ ประธานสภาอุตสาหกรรมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมภายใต้โครงการฯ มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดอันดามัน (ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง) สามารถต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยร่วมสมัย พัฒนาทักษะและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับองค์ความรู้ด้านการออกแบบ การสร้างสไตล์ เทคนิคการสร้างแบรนด์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านแฟชั่น โดยได้รับการ Coaching จากวิทยากรด้านการออกแบบแต่งกาย ได้แก่ คุณสิริอร เทียรฆประสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจแฟชั่นและพัฒนาแบรนด์สินค้า, คุณหิรัญกฤษฎ์ ภัทรบริบูรณ์กุล ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องแต่งกาย/แฟชั่นสไตลิสต์ คุณกมลนาถ องค์วรรณดี นักออกแบบสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย และ ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
นอกจากนี้ กิจกรรมของโครงการฯ ยังประกอบด้วย วิทยากรลงพื้นที่ให้คำปรึกษาผู้ประกอบการทั้ง 10 แบรนด์ เพื่อสร้างสรรค์ชุดเครื่องแต่งกายและผลิตภัณฑ์ นำเสนอชุดผลงานผ่านการแสดงแฟชั่นโชว์ และการจัดแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ผ้าไทยร่วมสมัย ซึ่งการดำเนินงานโครงการฯ เป็นการสนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นผ้าไทยร่วมสมัย ส่งเสริมการยกระดับคุณค่าอัตลักษณ์ความเป็นพื้นถิ่นภาคใต้ฝั่งอันดามันมุ่งสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ให้สามารถแข่งขันในตลาดระดับประเทศและสากลได้อย่างยั่งยืนต่อไป
นางเกษร กำเหนิดเพ็ชร รองผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
สศร. จัดกิจกรรม Workshop ผู้ประกอบการผ้าไทยกลุ่มจังหวัดอันดามัน ยกระดับศักยภาพ เสริมแกร่งแข่งขันได้ในเวทีโลก
วันอังคารที่ 18 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมภูเก็ต เมอร์ลิน จังหวัดภูเก็ต นางเกษร กำเหนิดเพ็ชร รองผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Workshop พัฒนาการสร้างสรรค์ผลงานเครื่องแต่งกายร่วมสมัยและผลิตภัณฑ์ ภายใต้โครงการพัฒนาการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัยเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจด้านการออกแบบแฟชั่นและเครื่องแต่งกายร่วมสมัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยได้รับเกียรติจากนายสุวิทย์ พันธ์เสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมโครงการฯ พร้อมด้วยส่วนราชการภาครัฐและองค์กรภาคเอกชน อาทิ วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต วัฒนธรรมจังหวัดระนอง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายกสมาคมศิลป์ภูเก็จ ประธานสภาอุตสาหกรรมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมภายใต้โครงการฯ มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดอันดามัน (ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง) สามารถต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยร่วมสมัย พัฒนาทักษะและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับองค์ความรู้ด้านการออกแบบ การสร้างสไตล์ เทคนิคการสร้างแบรนด์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านแฟชั่น โดยได้รับการ Coaching จากวิทยากรด้านการออกแบบแต่งกาย ได้แก่ คุณสิริอร เทียรฆประสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจแฟชั่นและพัฒนาแบรนด์สินค้า, คุณหิรัญกฤษฎ์ ภัทรบริบูรณ์กุล ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องแต่งกาย/แฟชั่นสไตลิสต์ คุณกมลนาถ องค์วรรณดี นักออกแบบสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย และ ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
นอกจากนี้ กิจกรรมของโครงการฯ ยังประกอบด้วย วิทยากรลงพื้นที่ให้คำปรึกษาผู้ประกอบการทั้ง 10 แบรนด์ เพื่อสร้างสรรค์ชุดเครื่องแต่งกายและผลิตภัณฑ์ นำเสนอชุดผลงานผ่านการแสดงแฟชั่นโชว์ และการจัดแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ผ้าไทยร่วมสมัย ซึ่งการดำเนินงานโครงการฯ เป็นการสนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นผ้าไทยร่วมสมัย ส่งเสริมการยกระดับคุณค่าอัตลักษณ์ความเป็นพื้นถิ่นภาคใต้ฝั่งอันดามันมุ่งสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ให้สามารถแข่งขันในตลาดระดับประเทศและสากลได้อย่างยั่งยืนต่อไป