ทนทาน ชัดเจน เย็นสบาย
“คุณพ่อคุณแม่เข้าใจสิ่งที่จะทำ ท่านอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่เป็นคนเปิดใจและเชื่อใจเรามาก แม้คนไทยจะไม่ค่อยเข้าใจ แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็อนุญาตให้เราทำ” นี่คือเรื่องราวจากปากของทายาทรุ่น 3 ของฮาตาริ สองผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของ 'ฮาตาริ' (Hatari)
นับตั้งแต่วันที่ส่ง 'พัดลมสไลด์ 16 นิ้วสีขาว' ที่ผ่านการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ลงสู่ตลาด จนกระทั่งวันนี้ ‘ฮาตาริ’ ได้รีดีไซน์สินค้าไปแล้วมากถึง 50 SKU แล้ว เข้าใกล้เป้าหมาย 77 SKU ขึ้นอีกขั้น พร้อมตั้งใจว่าภายในปี 2025 นี้ ‘ฮาตาริ’ จะรีดีไซน์สินค้าทั้งหมดที่มีอยู่จนครบ 100%
ถึงตอนนี้สองสาวสามารถพาฮาตาริกลับเข้าสู่ 'หัวใจ' คนไทยทุกเจนได้อีกครั้ง Brand Inside จึงอยากชวนทุกคนมาฟังเรื่องราวจากปากของ 'ชัญญา พานิชตระกูล' และ ‘ทัศน์ลักษณ์ พานิชตระกูล’ ทายาทรุ่น 3 ของฮาตาริ ผู้ยืนยันว่า จะรีดีไซน์แค่ไหน สิ่งสำคัญคือเห็นแล้วต้องรู้ว่านี่คือฮาตาริ!
[ แค่ 'ลมแรง-ราคาดี' ไม่พออีกต่อไป ]
.
เริ่มต้นจาก ‘วิถีชีวิต’ ทายาทฮาตาริ อธิบายว่า ชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปมากจากสมัยก่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนของเพียงแค่ลมแรงดีและราคาดีก็เพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน หลายคนมองหาพัดลมที่เข้ากับบรรยากาศและเหมาะกับการใช้งานจริงๆ
“เมื่อก่อนเราจะเน้นเอาสินค้าเป็นศูนย์กลาง ทำยังไงให้ราคาดีและลมแรง แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไปสองสิ่งนี้กลับไม่เพียงพอแล้ว หลายคนอยากได้พัดลมที่มีรูปลักษณ์เข้ากับห้อง เข้ากับบ้านด้วย”
นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ทายาทรุ่น 3 ของฮาตาริตัดสินใจ ‘รีดีไซน์’ และ ‘รีแบรนด์’ ฮาตาริใหม่
สิ่งแรกที่เริ่มทำหลังตัดสินใจเดินหน้าเปลี่ยนฮาตาริเข้าสู่ยุคใหม่ คือ ‘เก็บข้อมูล’ ทำโฟกัสกรุ๊ป โดย ฮาตาริ ค้นพบว่า โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก แม้เด็กๆ ยุคใหม่จะรู้จักและเติบโตมากับฮาตาริ แต่เมื่อถึงเวลาเลือกซื้อสินค้าอาจไม่ได้เลือกซื้อฮาตาริอีกต่อไปแล้ว
[ เห็นแล้วต้องรู้ทันทีว่า นี่ฮาตาริ! ]
เมื่อ ‘ฮาตาริ’ ตัดสินใจจะปรับเปลี่ยนดีไซน์ เพื่อกลับเข้าไปอยู่ในวิถีชีวิตของคนไทยยุคใหม่ ก็ไม่ได้ง่ายแบบฮาตาริรุ่นเก่ามาเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้วก็จบ
“เราไม่ได้อยากให้พัดลมดีไซน์สวยขึ้นอย่างเดียว แต่เราอยากให้เห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นฮาตาริ เห็นแล้วรู้สึกถึงฮาตาริ” นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทายาทฮาตาริใช้เวลาเกือบปีถึงจะสามารถปล่อยพัดลมรุ่นแรกที่ได้รับการปรับปรุงดีไซน์ออกจากท้องตลาด
พัดลมรุ่นแรกที่ผ่านการรีดีไซน์ออกมา คือ พัดลมสไลด์ 16 นิ้วสีขาวที่กลายเป็นเรือธงแห่งการเปลี่ยนแปลงของฮาตาริ
ในเวลาเดียวกัน ทายาทของฮาตาริ ได้ร่วมกันสร้าง ‘Brand Design DNA’ ออกมาใหม่ กำหนดแนวทางในการออกแบบพัดลมภายใต้ฮาตาริ ที่ทำให้พัดลมทุกรุ่นต่อจากนี้ “เห็นแล้วต้องรู้ว่าเป็นฮาตาริ”
พร้อมเก็บรักษาสิ่งที่ฮาตาริแข็งแกร่งมากตั้งแต่แรกอย่าง ‘ความทนทาน’ แบบใช้สิบปีก็ยังไหวเอาไว้ พร้อมๆ กับพัฒนาสิ่งที่ทำได้ ให้พัดลมของฮาตาริดีขึ้น แรงขึ้น มีประสิทธิมากขึ้น แต่กินไฟน้อยลง
[ คนรุ่นก่อนของฮาตาริ เชื่อใจ เปิดใจ ให้ลองทำ ]
แน่นอนว่าทุกคนต้องสงสัยว่า ผู้ใหญ่ในฮาตาริใจกว้างขนาดไหนถึงปล่อยให้ทายาทรุ่น 3 มาเปลี่ยนแปลงธุรกิจของครอบครัวที่ส่งต่อมาถึง 2 รุ่นอย่างมหาศาลได้
“คุณพ่อคุณแม่เข้าใจสิ่งที่เราจะทำ ท่านอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็เชื่อใจและเปิดใจมาก พอเราบอกว่าจะทำสิ่งนี้ แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและคนไทยไม่ค่อยคุ้นเคย แต่ท่านก็เปิดใจรับไอเดียใหม่ๆ” ส่วน “อาม่าเองก็เข้ามาที่ออฟฟิศ อาจจะไม่เข้าใจ แต่ก็ไว้วางใจมากและอนุญาตให้เราทำ”
อย่างการเข้าร่วม Bangkok Design Week ของ ฮาตาริ ผู้บริหารทั้งสองคนก็เล่าว่า พอบอกอาม่าว่าจะพาฮาตาริเข้าร่วมงานนี้ อาม่าก็พาเพื่อนมาเยี่ยมชมนิทรรศการของฮาตาริมากถึง 100 คน
เรียกว่ารุ่นผู้ก่อตั้งและทายาทรุ่น 2 ของฮาตารินั้นเปิดใจอย่างมากมาก
.
[ กลับเข้าท็อปในใจคนไทย รีดีไซน์ครบ 100% ภายในปีนี้ ]
หลังการปรับเปลี่ยนดีไซน์ ฮาตาริ ที่เดิมอาจจะไม่ใช่ท็อปออฟมายด์ของคนไทยรุ่นใหม่ก็ปรากฏความเปลี่ยนแปลงในผลสำรวจรอบใหม่บอกว่าฮาตาริ สามารถกลับเข้าสู่ TOP3 แบรนด์พัดลมในใจคนไทยทุกรุ่นได้สำเร็จ
แผนการปรับเปลี่ยนดีไซน์และรีแบรนด์ของฮาตาริจึงเดินต่อ
จนถึงตอนนี้ฮาตาริได้ปรับเปลี่ยนดีไซน์ของพัดลมที่มีอยู่ไปแล้ว 50 SKU จากทั้งหมด 70 SKU โดยเป้าหมาย คือ “ครบ 70 SKU ภายในปีนี้”
แผนของปีนี้จะปล่อยสินค้ารีดีไซน์และสินค้าใหม่ออกมารวม 22 SKU โดยได้ปล่อยออกมาแล้วในเดือนมกราคมที่ผ่านมา 4 SKU เหลืออีก 15 SKU ที่เตรียมจะปล่อยออกมาสู่สายตาผู้บริโภค
[ รุ่นคลาสสิคก็มา เอาใจคนสูงวัย-ตลาดต่างจังหวัด ]
เมื่อถามถึงเหล่าคน Gen X ว่าหลายคนยังต้องการพัดลมดีไซน์เดิมๆ ที่คุ้นเคยอยู่บ้างไหม? ทางผู้บริหารของฮาตาริบอกว่า ลูกค้า Gen X และลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดหลายๆ คนยังคงคุ้นเคยกับฮาตาริรุ่นก่อนๆ จริง
ดังนั้น แบรนด์จึงเตรียมจะปล่อยฮาตาริรุ่นคลาสสิคออกมา 2 รุ่น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มที่รอคอยอยู่ เพียงแต่อาจจะไม่ใช่ดีไซน์เดิมเมื่อ 10 ปีก่อนแล้ว
ส่วนสินค้าที่ไม่เคยมีมาก่อนและถูกปล่อยออกมาใหม่เป็นครั้งแรกอย่าง พัดลมกล่อง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ตัวเลขน่าพึงพอใจ และกระแสออนไลน์ดีมาก
ขณะที่ตลาด พัดลมพกพา ที่มีผู้เล่นจากจีนมาตีตลาด ผู้บริหารฮาตาริ ยืนยันว่า เดิมฮาตาริมีสินค้าในไลน์นี้อยู่แล้ว และคงไม่ออกสินค้าที่เหมือนกับเจ้าอื่น แต่จะหาช่องว่างและเพนพ้อยท์ที่เหมาะกับคนไทย และนำเสนอสินค้าออกมาตอบโจทย์ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและอาจจะมีโอกาสได้เห็น
เป้าหมายของปี 2568 ‘สองสาวของฮาตาริ บอกว่า ต้องการจะเติบโต 10% จากปีก่อน โดยเป็นการเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมพัดลมภาพรวมที่เติบโตราว 5-7% ต่อปี ขณะที่ปัจจุบัน ฮาตาริมีสัดส่วนในการส่งออกของฮาตาริ คือ 15% ส่วนใหญ่เน้นส่งออกไปยังประเทศในกลุ่ม CLMV เป็นหลัก
“ถ้าปีก่อนเป็นปีที่ฮาตาริบอกกับใครๆ ว่า ฮาตาริเปลี่ยนไปแล้ว ปีนี้อยากจะให้หลายๆ คนได้สัมผัสกับฮาตาริ ได้มีประสบการณ์ร่วมกับฮาตาริโดยตรง และพัดเสียงของฮาตาริให้ดังยิ่งกว่าเดิม”
.
https://www.facebook.com/share/p/1FMfb83n5Z/
วิธคิด ทายาทคนที่ 3 ผู้พาฮาตาริ กลับเข้าไปในใจคนไทย ทุกเจน
“คุณพ่อคุณแม่เข้าใจสิ่งที่จะทำ ท่านอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่เป็นคนเปิดใจและเชื่อใจเรามาก แม้คนไทยจะไม่ค่อยเข้าใจ แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็อนุญาตให้เราทำ” นี่คือเรื่องราวจากปากของทายาทรุ่น 3 ของฮาตาริ สองผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของ 'ฮาตาริ' (Hatari)
นับตั้งแต่วันที่ส่ง 'พัดลมสไลด์ 16 นิ้วสีขาว' ที่ผ่านการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ลงสู่ตลาด จนกระทั่งวันนี้ ‘ฮาตาริ’ ได้รีดีไซน์สินค้าไปแล้วมากถึง 50 SKU แล้ว เข้าใกล้เป้าหมาย 77 SKU ขึ้นอีกขั้น พร้อมตั้งใจว่าภายในปี 2025 นี้ ‘ฮาตาริ’ จะรีดีไซน์สินค้าทั้งหมดที่มีอยู่จนครบ 100%
ถึงตอนนี้สองสาวสามารถพาฮาตาริกลับเข้าสู่ 'หัวใจ' คนไทยทุกเจนได้อีกครั้ง Brand Inside จึงอยากชวนทุกคนมาฟังเรื่องราวจากปากของ 'ชัญญา พานิชตระกูล' และ ‘ทัศน์ลักษณ์ พานิชตระกูล’ ทายาทรุ่น 3 ของฮาตาริ ผู้ยืนยันว่า จะรีดีไซน์แค่ไหน สิ่งสำคัญคือเห็นแล้วต้องรู้ว่านี่คือฮาตาริ!
[ แค่ 'ลมแรง-ราคาดี' ไม่พออีกต่อไป ]
.
เริ่มต้นจาก ‘วิถีชีวิต’ ทายาทฮาตาริ อธิบายว่า ชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปมากจากสมัยก่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนของเพียงแค่ลมแรงดีและราคาดีก็เพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน หลายคนมองหาพัดลมที่เข้ากับบรรยากาศและเหมาะกับการใช้งานจริงๆ
“เมื่อก่อนเราจะเน้นเอาสินค้าเป็นศูนย์กลาง ทำยังไงให้ราคาดีและลมแรง แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไปสองสิ่งนี้กลับไม่เพียงพอแล้ว หลายคนอยากได้พัดลมที่มีรูปลักษณ์เข้ากับห้อง เข้ากับบ้านด้วย”
นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ทายาทรุ่น 3 ของฮาตาริตัดสินใจ ‘รีดีไซน์’ และ ‘รีแบรนด์’ ฮาตาริใหม่
สิ่งแรกที่เริ่มทำหลังตัดสินใจเดินหน้าเปลี่ยนฮาตาริเข้าสู่ยุคใหม่ คือ ‘เก็บข้อมูล’ ทำโฟกัสกรุ๊ป โดย ฮาตาริ ค้นพบว่า โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก แม้เด็กๆ ยุคใหม่จะรู้จักและเติบโตมากับฮาตาริ แต่เมื่อถึงเวลาเลือกซื้อสินค้าอาจไม่ได้เลือกซื้อฮาตาริอีกต่อไปแล้ว
[ เห็นแล้วต้องรู้ทันทีว่า นี่ฮาตาริ! ]
เมื่อ ‘ฮาตาริ’ ตัดสินใจจะปรับเปลี่ยนดีไซน์ เพื่อกลับเข้าไปอยู่ในวิถีชีวิตของคนไทยยุคใหม่ ก็ไม่ได้ง่ายแบบฮาตาริรุ่นเก่ามาเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้วก็จบ
“เราไม่ได้อยากให้พัดลมดีไซน์สวยขึ้นอย่างเดียว แต่เราอยากให้เห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นฮาตาริ เห็นแล้วรู้สึกถึงฮาตาริ” นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทายาทฮาตาริใช้เวลาเกือบปีถึงจะสามารถปล่อยพัดลมรุ่นแรกที่ได้รับการปรับปรุงดีไซน์ออกจากท้องตลาด
พัดลมรุ่นแรกที่ผ่านการรีดีไซน์ออกมา คือ พัดลมสไลด์ 16 นิ้วสีขาวที่กลายเป็นเรือธงแห่งการเปลี่ยนแปลงของฮาตาริ
ในเวลาเดียวกัน ทายาทของฮาตาริ ได้ร่วมกันสร้าง ‘Brand Design DNA’ ออกมาใหม่ กำหนดแนวทางในการออกแบบพัดลมภายใต้ฮาตาริ ที่ทำให้พัดลมทุกรุ่นต่อจากนี้ “เห็นแล้วต้องรู้ว่าเป็นฮาตาริ”
พร้อมเก็บรักษาสิ่งที่ฮาตาริแข็งแกร่งมากตั้งแต่แรกอย่าง ‘ความทนทาน’ แบบใช้สิบปีก็ยังไหวเอาไว้ พร้อมๆ กับพัฒนาสิ่งที่ทำได้ ให้พัดลมของฮาตาริดีขึ้น แรงขึ้น มีประสิทธิมากขึ้น แต่กินไฟน้อยลง
[ คนรุ่นก่อนของฮาตาริ เชื่อใจ เปิดใจ ให้ลองทำ ]
แน่นอนว่าทุกคนต้องสงสัยว่า ผู้ใหญ่ในฮาตาริใจกว้างขนาดไหนถึงปล่อยให้ทายาทรุ่น 3 มาเปลี่ยนแปลงธุรกิจของครอบครัวที่ส่งต่อมาถึง 2 รุ่นอย่างมหาศาลได้
“คุณพ่อคุณแม่เข้าใจสิ่งที่เราจะทำ ท่านอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็เชื่อใจและเปิดใจมาก พอเราบอกว่าจะทำสิ่งนี้ แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและคนไทยไม่ค่อยคุ้นเคย แต่ท่านก็เปิดใจรับไอเดียใหม่ๆ” ส่วน “อาม่าเองก็เข้ามาที่ออฟฟิศ อาจจะไม่เข้าใจ แต่ก็ไว้วางใจมากและอนุญาตให้เราทำ”
อย่างการเข้าร่วม Bangkok Design Week ของ ฮาตาริ ผู้บริหารทั้งสองคนก็เล่าว่า พอบอกอาม่าว่าจะพาฮาตาริเข้าร่วมงานนี้ อาม่าก็พาเพื่อนมาเยี่ยมชมนิทรรศการของฮาตาริมากถึง 100 คน
เรียกว่ารุ่นผู้ก่อตั้งและทายาทรุ่น 2 ของฮาตารินั้นเปิดใจอย่างมากมาก
.
[ กลับเข้าท็อปในใจคนไทย รีดีไซน์ครบ 100% ภายในปีนี้ ]
หลังการปรับเปลี่ยนดีไซน์ ฮาตาริ ที่เดิมอาจจะไม่ใช่ท็อปออฟมายด์ของคนไทยรุ่นใหม่ก็ปรากฏความเปลี่ยนแปลงในผลสำรวจรอบใหม่บอกว่าฮาตาริ สามารถกลับเข้าสู่ TOP3 แบรนด์พัดลมในใจคนไทยทุกรุ่นได้สำเร็จ
แผนการปรับเปลี่ยนดีไซน์และรีแบรนด์ของฮาตาริจึงเดินต่อ
จนถึงตอนนี้ฮาตาริได้ปรับเปลี่ยนดีไซน์ของพัดลมที่มีอยู่ไปแล้ว 50 SKU จากทั้งหมด 70 SKU โดยเป้าหมาย คือ “ครบ 70 SKU ภายในปีนี้”
แผนของปีนี้จะปล่อยสินค้ารีดีไซน์และสินค้าใหม่ออกมารวม 22 SKU โดยได้ปล่อยออกมาแล้วในเดือนมกราคมที่ผ่านมา 4 SKU เหลืออีก 15 SKU ที่เตรียมจะปล่อยออกมาสู่สายตาผู้บริโภค
[ รุ่นคลาสสิคก็มา เอาใจคนสูงวัย-ตลาดต่างจังหวัด ]
เมื่อถามถึงเหล่าคน Gen X ว่าหลายคนยังต้องการพัดลมดีไซน์เดิมๆ ที่คุ้นเคยอยู่บ้างไหม? ทางผู้บริหารของฮาตาริบอกว่า ลูกค้า Gen X และลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดหลายๆ คนยังคงคุ้นเคยกับฮาตาริรุ่นก่อนๆ จริง
ดังนั้น แบรนด์จึงเตรียมจะปล่อยฮาตาริรุ่นคลาสสิคออกมา 2 รุ่น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มที่รอคอยอยู่ เพียงแต่อาจจะไม่ใช่ดีไซน์เดิมเมื่อ 10 ปีก่อนแล้ว
ส่วนสินค้าที่ไม่เคยมีมาก่อนและถูกปล่อยออกมาใหม่เป็นครั้งแรกอย่าง พัดลมกล่อง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ตัวเลขน่าพึงพอใจ และกระแสออนไลน์ดีมาก
ขณะที่ตลาด พัดลมพกพา ที่มีผู้เล่นจากจีนมาตีตลาด ผู้บริหารฮาตาริ ยืนยันว่า เดิมฮาตาริมีสินค้าในไลน์นี้อยู่แล้ว และคงไม่ออกสินค้าที่เหมือนกับเจ้าอื่น แต่จะหาช่องว่างและเพนพ้อยท์ที่เหมาะกับคนไทย และนำเสนอสินค้าออกมาตอบโจทย์ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและอาจจะมีโอกาสได้เห็น
เป้าหมายของปี 2568 ‘สองสาวของฮาตาริ บอกว่า ต้องการจะเติบโต 10% จากปีก่อน โดยเป็นการเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมพัดลมภาพรวมที่เติบโตราว 5-7% ต่อปี ขณะที่ปัจจุบัน ฮาตาริมีสัดส่วนในการส่งออกของฮาตาริ คือ 15% ส่วนใหญ่เน้นส่งออกไปยังประเทศในกลุ่ม CLMV เป็นหลัก
“ถ้าปีก่อนเป็นปีที่ฮาตาริบอกกับใครๆ ว่า ฮาตาริเปลี่ยนไปแล้ว ปีนี้อยากจะให้หลายๆ คนได้สัมผัสกับฮาตาริ ได้มีประสบการณ์ร่วมกับฮาตาริโดยตรง และพัดเสียงของฮาตาริให้ดังยิ่งกว่าเดิม”
.
https://www.facebook.com/share/p/1FMfb83n5Z/