รู้ทันสมอง! แตก ตีบ ตัน… โรคหลอดเลือดสมอง Stroke เช็คสัญญาณเตือนที่ต้องรู้

.
โรคหลอดเลือดสมอง: ภัยเงียบที่ไม่เลือกอายุ
ลองนึกภาพว่ามีระเบิดเวลาซ่อนอยู่ในร่างกายของคุณ โดยที่คุณไม่รู้ว่ามันจะทำงานเมื่อไหร่ และเมื่อมันระเบิดขึ้น อาจพรากความสามารถในการพูด การเดิน หรือแม้แต่การใช้ชีวิตของคุณไปในพริบตา นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและความพิการทั่วโลก
.
โรคหลอดเลือดสมองคืออะไร?
โรคหลอดเลือดสมองเป็นภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงอย่างเฉียบพลัน ส่งผลให้เซลล์สมองเริ่มตายภายในไม่กี่นาที อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จาก 3 สาเหตุหลัก ได้แก่
-หลอดเลือดตีบ (Ischemic Stroke) เกิดจากการสะสมของไขมันและคราบหินปูนในหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ไม่เพียงพอ
-หลอดเลือดอุดตัน (Embolic Stroke) เกิดจากลิ่มเลือดที่ลอยมาจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หัวใจ แล้วไปปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดในสมอง
-หลอดเลือดแตก (Hemorrhagic Stroke) เกิดจากหลอดเลือดในสมองแตก ทำให้มีเลือดออกในสมอง ส่งผลให้สมองถูกกดทับและเนื้อเยื่อถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
.
อาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมองที่ห้ามมองข้าม
เวลาเป็นปัจจัยสำคัญ หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการต่อไปนี้ ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที โดยสามารถใช้หลัก BEFAST เพื่อตรวจสอบอาการเบื้องต้น
B – Balance (การทรงตัว)
ผู้ป่วยอาจมีอาการสูญเสียการทรงตัว รู้สึกเวียนศีรษะหรือเดินเซอย่างกะทันหัน
E – Eyes (การมองเห็น)
เกิดปัญหาในการมองเห็น เช่น ภาพซ้อน มองไม่ชัด หรือตามัว ในตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง
F – Face (ใบหน้า)
ใบหน้าเบี้ยว มุมปากตก สังเกตได้จากการให้ลองยิ้ม มุมปากจะยกไม่เท่ากัน
A – Arms (แขน)
แขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่งมีอาการอ่อนแรงหรือยกไม่ขึ้น แขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่งมีอาการชาขึ้นมาเฉียบพลัน
S – Speech (การพูด)
พูดไม่ชัด พูดติดขัด หรือไม่สามารถพูดได้ รวมถึงอาจไม่เข้าใจสิ่งที่คนรอบข้างพูด
T – Time (Time to call 1669) รีบโทรขอความช่วยเหลือทันที เพราะ ‘เวลา’ เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด หากพบอาการข้างต้นอย่างใดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ต้องรีบนำผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลทันที เพราะทุกนาทีที่ล่าช้าสมองอาจได้รับความเสียหายอย่างถาวร
.
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง?
แม้ว่าหลายคนจะคิดว่าโรคนี้เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้สูงอายุ แต่ในความเป็นจริง คนอายุน้อยก็สามารถเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้ โดยเฉพาะหากมีปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้
-ความดันโลหิตสูง
-เบาหวาน
-ไขมันในเลือดสูง
-การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
-ความเครียดสะสม
-ไม่ออกกำลังกาย
-โรคหัวใจบางชนิด เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ
.
วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมองก่อนจะสายเกินไป
โรคหลอดเลือดสมองสามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง ดังนี้
-ควบคุมความดันโลหิต เพราะความดันสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรค
-เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารแปรรูป และเพิ่มการบริโภคผักผลไม้
-ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็วอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
-งดสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดความเสี่ยงของหลอดเลือดตีบและอุดตัน
-จัดการความเครียด โดยการทำสมาธิ เล่นโยคะ หรือหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย
.
โรคหลอดเลือดสมอง: ทุกวินาทีมีค่า
หากคุณคิดว่า “ยังไม่เป็นไร” หรือ “ฉันยังแข็งแรงอยู่” โปรดจำไว้ว่า โรคหลอดเลือดสมองไม่เลือกเวลาและไม่เลือกใคร ทุกนาทีที่เสียไปหมายถึงสมองที่เสียหายเพิ่มขึ้น รีบรู้ รีบป้องกัน ก่อนที่ภัยเงียบนี้จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณหรือคนที่คุณรัก
.
บทความโดย
นพ.วิศิษฎ์ ลีลาศวัฒนกิจ
แพทย์อายุรกรรมระบบประสาท
รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่