MICKEY 17
เรื่องย่อ Mickey 17
"มิกกี้ บาร์นส์" ชายหนุ่มผู้ขัดสนทางการเงินอย่างหนัก ตัดสินใจลงทะเบียนเป็น "มนุษย์ใช้แล้วทิ้ง" หรือ มนุษย์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งถูกโคลนนิ่งเป็นตัวเองซ้ำแล้วซ้ำ ก่อนถูกทำลายทิ้ง เพื่อใช้ปฏิบัติภารกิจเสร็จแล้วทำลายทิ้งของคณะสำรวจของมนุษย์ที่ถูกส่งไปยึดครองโลกน้ำแข็งที่มีชื่อว่า Nifheim
ในฐานะที่เป็น มนุษย์ใช้แล้วทิ้ง มิกกี้จำต้องทําภารกิจอันตรายหลายอย่างที่เขาไม่คาดว่าจะอยู่รอดได้ แต่ร่างกายจะถูกสร้างขึ้นใหม่ในทุกๆครั้งที่เขาเสียชีวิต ในระหว่างการมอบหมายงานดังกล่าว หนึ่งในโคลนของเขา "มิกกี้ 17" ถูกสันนิษฐานว่า ตายอย่างไม่ถูกต้อง และถูกแทนที่ก่อนวัยอันควร
มิกกี้ 17 หาทางกลับไปยังอาณานิคม และได้พบกับคนมาแทนที่เขา หรือที่รู้จักในชื่อ มิกกี้ 18 ภายใต้กฎของอาณานิคม คือ การโคลลนิ่งใหม่จะมีการทำซ้ำได้เพียงครั้งเดียว และหากพบมิกกี้ 17 ทั้งเขาและมิกกี้ 18 จะถูกต้องทําลาย ทำให้ทั้งสองเวอร์ชั่นต้องต่อสู้กับธรรมชาติของระบบนี้ และต่อสู้กับผู้นําที่กดขี่ที่ปกครองอาณานิคม
บอกเลยว่า ค่อนข้างที่จะลังเลกับการไปดูเรื่องนี้มาก ตอนดูตัวอย่าง และก่อนฉาย ก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากดูอะไรมากขนาดนั้น คือดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ แต่เรื่องนี้ ทำไมมีคนพูดถึง และรอดูเยอะมากๆ ในบรรดาของคนที่ชอบดูหนัง แต่พอหนังฉาย ก็ยิ่งเพิ่มความลังเลไปใหญ่ เพราะเสียงรีวิว แบ่งออกเป็น2ฝั่ง คือบอกว่าดี คะแนน8ขึ้น และบอกว่าไม่ค่อยหนุกเลย ไปดูเรื่องอื่นดีกว่า ก็เยอะ
แต่ได้ความที่อยากรู้ เลยตัดสินใจไปดู เพราะชอบParasiteอยู่แล้ว อาจจะชอบเรื่องนี้ก็ได้
ความรู้สึกส่วนตัวหลังดูจบ
ส่วนตัวคิดว่า หนังเรื่องนี้ ไม่เหมาะสำหรับคนดูหนังเพื่อความบันเทิงหรือดูหนังสนุกๆเท่าไหร่
แต่ชอบพล็อต เรื่องนี้มาก ไอเดียดี แต่เล่าออกมาได้ไม่ค่อยตอบโจทย์ในด้านความบันเทิงสักเท่าไหร่
ตัวหลังมีหลากหลายประเด็นมาก ไม่ว่าจะเป็น การเมือง สอดแทรกปรัชญา คุณค่าของการมีชีวิต ไม่ว่าจะมนุษย์หรือสัตว์ พร้อมตั้งคำถามว่า ความตาย?? เป็นยังไง?? คือเป็นหนังที่ต้องใช้การฟัง คิดวิเคราะห์ และตีความ เก็บเกี่ยวนัยยะมากมายที่หนังต้องการใส่มา ให้เราได้ทบทวน และครุ่นคิด
ชอบตรงที่แฝงปรัชญาอะไรแบบนี้ ซึ่งมันเข้ากับหนัง ที่มีความเป็นไซไฟตลกร้ายอยู่แล้ว
แถมยังมีดราม่า เสียดสีสังคม ตามสไตล์เฉพาะตัวของผู้กำกับคนนี้อีกด้วย หลายๆฉาก ทำให้นึกถึงParasite
เนื้อเรื่อง ปูพื้นฐาน เส้นเรื่อง ตัวละครดี ทำให้เรารู้จักกับตัวละครมากขึ้น แบบผกก.ให้ความสำคัญกับตรงนี้มาก ทำให้เราผูกพันธ์ไปกับตัวละคร แต่แต่น่าจะเอามิกกี้18มาเร็วกว่านี้ ก็จะดีมาก แต่ด้วยที่ผกก.ปูพื้นฐานเยอะ มันก็ต้องแลกมาด้วยความ เอื่อย ความเนือย และไม่ค่อยสนุกของหนัง ในช่วงครึ่งแรก บทยังเอาดูไม่อยู่ มีง่วง มีหลุดโฟกัสบ้าง เพราะหนังนานค่อนข้างนาน และไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้น ก็เล่าไปเรื่อยๆ
กว่าเครื่องติดช้า กว่าจะอินกับตัวละคร ฉากที่หนังจุดเราติด คือฉากกินอาหาร แล้วแพ้ ซึ่งก็ปาไปกลางเรื่องแล้ว
งานภาพ อาจจะดูไม่ว้าวอะไรมากนัก แต่CGก็ดีใช้ได้ ส่วนใหญ่เนียน อาจจะมีเห็นแล้วลอยๆบางฉาก แต่ฉาก ภาพ ส่วนใหญ่คือสวยดี
ดนตรีประกอบเข้ากับหนัง แต่ไม่ได้โดดเด่นอะไร
นักแสดงทุกคนเล่นดีมาก โดยเฉพาะโรเบิร์ตเล่นดีมาก ตีบทแตก คือเราเชื่อเลย ว่าเขาคือคนละคนกันจริงๆ ลบภาพหนุ่มแวมไพร์สุดอบอุ่นไปได้เลย
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
บทพูดเยอะเกิน แบบพูดไม่หยุดทั้งเรื่อง แต่คุณกระพริบตา อาจจะพลาดประโยคสำคัญไปเลยก็ได้
แบบพูดทั้งเรื่อง น้ำไหลไฟดับ ถ้าคนไม่ชอบดูหนังที่สนทนาเยอะๆ คิดอีกที
ประเด็นของหนังที่ใส่มา มันเยอะเกินไป จนไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว จะเน้นประเด็นไหนกันแน่
หนังไม่เหมาะสำหรับสายบันเทิง หรือสนุก แต่ก็ยังมีความบันเทิง และมุขตลกบ้างเล็กน้อย ออกไปทางปรัชญา แต่ก็ไม่ถึงกับดูยากแบบหนังรางวัล
สำหรับคะแนนความชอบ ขอให้แค่ 6.5/10 คะแนน ไม่ค่อยชอบ และถูกปากเท่าไหร่
ใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง
มาแชร์กันได้นะ
https://www.facebook.com/MouthMoyMovie
#Mickey17
MICKEY 17 (6.5/10) l เรื่องราวไซไฟ ตลกร้าย เสียดสีสังคม ของมนุษย์ใช้แล้วทิ้ง (สปอยล์)
เรื่องย่อ Mickey 17
"มิกกี้ บาร์นส์" ชายหนุ่มผู้ขัดสนทางการเงินอย่างหนัก ตัดสินใจลงทะเบียนเป็น "มนุษย์ใช้แล้วทิ้ง" หรือ มนุษย์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งถูกโคลนนิ่งเป็นตัวเองซ้ำแล้วซ้ำ ก่อนถูกทำลายทิ้ง เพื่อใช้ปฏิบัติภารกิจเสร็จแล้วทำลายทิ้งของคณะสำรวจของมนุษย์ที่ถูกส่งไปยึดครองโลกน้ำแข็งที่มีชื่อว่า Nifheim
ในฐานะที่เป็น มนุษย์ใช้แล้วทิ้ง มิกกี้จำต้องทําภารกิจอันตรายหลายอย่างที่เขาไม่คาดว่าจะอยู่รอดได้ แต่ร่างกายจะถูกสร้างขึ้นใหม่ในทุกๆครั้งที่เขาเสียชีวิต ในระหว่างการมอบหมายงานดังกล่าว หนึ่งในโคลนของเขา "มิกกี้ 17" ถูกสันนิษฐานว่า ตายอย่างไม่ถูกต้อง และถูกแทนที่ก่อนวัยอันควร
มิกกี้ 17 หาทางกลับไปยังอาณานิคม และได้พบกับคนมาแทนที่เขา หรือที่รู้จักในชื่อ มิกกี้ 18 ภายใต้กฎของอาณานิคม คือ การโคลลนิ่งใหม่จะมีการทำซ้ำได้เพียงครั้งเดียว และหากพบมิกกี้ 17 ทั้งเขาและมิกกี้ 18 จะถูกต้องทําลาย ทำให้ทั้งสองเวอร์ชั่นต้องต่อสู้กับธรรมชาติของระบบนี้ และต่อสู้กับผู้นําที่กดขี่ที่ปกครองอาณานิคม
บอกเลยว่า ค่อนข้างที่จะลังเลกับการไปดูเรื่องนี้มาก ตอนดูตัวอย่าง และก่อนฉาย ก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากดูอะไรมากขนาดนั้น คือดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ แต่เรื่องนี้ ทำไมมีคนพูดถึง และรอดูเยอะมากๆ ในบรรดาของคนที่ชอบดูหนัง แต่พอหนังฉาย ก็ยิ่งเพิ่มความลังเลไปใหญ่ เพราะเสียงรีวิว แบ่งออกเป็น2ฝั่ง คือบอกว่าดี คะแนน8ขึ้น และบอกว่าไม่ค่อยหนุกเลย ไปดูเรื่องอื่นดีกว่า ก็เยอะ
แต่ได้ความที่อยากรู้ เลยตัดสินใจไปดู เพราะชอบParasiteอยู่แล้ว อาจจะชอบเรื่องนี้ก็ได้
ความรู้สึกส่วนตัวหลังดูจบ
ส่วนตัวคิดว่า หนังเรื่องนี้ ไม่เหมาะสำหรับคนดูหนังเพื่อความบันเทิงหรือดูหนังสนุกๆเท่าไหร่
แต่ชอบพล็อต เรื่องนี้มาก ไอเดียดี แต่เล่าออกมาได้ไม่ค่อยตอบโจทย์ในด้านความบันเทิงสักเท่าไหร่
ตัวหลังมีหลากหลายประเด็นมาก ไม่ว่าจะเป็น การเมือง สอดแทรกปรัชญา คุณค่าของการมีชีวิต ไม่ว่าจะมนุษย์หรือสัตว์ พร้อมตั้งคำถามว่า ความตาย?? เป็นยังไง?? คือเป็นหนังที่ต้องใช้การฟัง คิดวิเคราะห์ และตีความ เก็บเกี่ยวนัยยะมากมายที่หนังต้องการใส่มา ให้เราได้ทบทวน และครุ่นคิด
ชอบตรงที่แฝงปรัชญาอะไรแบบนี้ ซึ่งมันเข้ากับหนัง ที่มีความเป็นไซไฟตลกร้ายอยู่แล้ว
แถมยังมีดราม่า เสียดสีสังคม ตามสไตล์เฉพาะตัวของผู้กำกับคนนี้อีกด้วย หลายๆฉาก ทำให้นึกถึงParasite
เนื้อเรื่อง ปูพื้นฐาน เส้นเรื่อง ตัวละครดี ทำให้เรารู้จักกับตัวละครมากขึ้น แบบผกก.ให้ความสำคัญกับตรงนี้มาก ทำให้เราผูกพันธ์ไปกับตัวละคร แต่แต่น่าจะเอามิกกี้18มาเร็วกว่านี้ ก็จะดีมาก แต่ด้วยที่ผกก.ปูพื้นฐานเยอะ มันก็ต้องแลกมาด้วยความ เอื่อย ความเนือย และไม่ค่อยสนุกของหนัง ในช่วงครึ่งแรก บทยังเอาดูไม่อยู่ มีง่วง มีหลุดโฟกัสบ้าง เพราะหนังนานค่อนข้างนาน และไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้น ก็เล่าไปเรื่อยๆ
กว่าเครื่องติดช้า กว่าจะอินกับตัวละคร ฉากที่หนังจุดเราติด คือฉากกินอาหาร แล้วแพ้ ซึ่งก็ปาไปกลางเรื่องแล้ว
งานภาพ อาจจะดูไม่ว้าวอะไรมากนัก แต่CGก็ดีใช้ได้ ส่วนใหญ่เนียน อาจจะมีเห็นแล้วลอยๆบางฉาก แต่ฉาก ภาพ ส่วนใหญ่คือสวยดี
ดนตรีประกอบเข้ากับหนัง แต่ไม่ได้โดดเด่นอะไร
นักแสดงทุกคนเล่นดีมาก โดยเฉพาะโรเบิร์ตเล่นดีมาก ตีบทแตก คือเราเชื่อเลย ว่าเขาคือคนละคนกันจริงๆ ลบภาพหนุ่มแวมไพร์สุดอบอุ่นไปได้เลย
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
บทพูดเยอะเกิน แบบพูดไม่หยุดทั้งเรื่อง แต่คุณกระพริบตา อาจจะพลาดประโยคสำคัญไปเลยก็ได้
แบบพูดทั้งเรื่อง น้ำไหลไฟดับ ถ้าคนไม่ชอบดูหนังที่สนทนาเยอะๆ คิดอีกที
ประเด็นของหนังที่ใส่มา มันเยอะเกินไป จนไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว จะเน้นประเด็นไหนกันแน่
หนังไม่เหมาะสำหรับสายบันเทิง หรือสนุก แต่ก็ยังมีความบันเทิง และมุขตลกบ้างเล็กน้อย ออกไปทางปรัชญา แต่ก็ไม่ถึงกับดูยากแบบหนังรางวัล
สำหรับคะแนนความชอบ ขอให้แค่ 6.5/10 คะแนน ไม่ค่อยชอบ และถูกปากเท่าไหร่
ใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง
มาแชร์กันได้นะ
https://www.facebook.com/MouthMoyMovie
#Mickey17