คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ความต้องการของมนุษย์นั้นไร้ขอบเขต
พอมีตัวเลือกมากขึ้น มีช่องทางการเข้าถึงโอกาสที่หลากหลาย
คนเราจึงมุ่งแสวงหา The next best thing
ติดกับดักของการไขว่คว้าอย่างไร้จุดจบ
ดูจะไม่สามารถพึงพอใจหรือ "หยุด" กับอะไรได้เลย
ในยุคสมัยก่อนหน้า มนุษย์ไม่ได้มีตัวเลือกนับไม่ถ้วนขนาดนี้
แถมยังมีแบบแผนทางวัฒนธรรม ค่านิยม ธรรมเนียมต่างๆ ที่คนส่วนใหญ่ปฏิบัติเหมือนๆกัน
ที่ช่วยทำหน้าที่เป็นแนวทางว่าควร "หยุด" ที่ตรงไหนและเมื่อไหร่
เหมือนรถที่มีเบรคและพวงมาลัย
แต่มาถึงวันนี้ ค่านิยมหรือธรรมเนียมเหล่านั้นมันเสื่อมพลังลงไปแล้ว
กลุ่มคนที่เคยยึดถือแนวทางคล้ายๆกัน ตอนนี้ก็กลายเป็นเลือกวิธีปฏิบัติของใครของมัน ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน
จึงเหมือนทุกคนต่างมุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว ทางใครทางมัน
เหมือนรถที่พุ่งไปข้างหน้าสุดพลัง แต่กำหนดทิศทางไม่ได้ เบรคไม่อยู่
บางคนอาจชอบอิสระภาพแบบนี้ ขณะที่บางคนเจ็บปวดและสับสน
จะว่ายุคไหนดีงามหรือเลวทรามกว่ากัน คงตอบไม่ได้
มันเป็นธรรมดา ในความเป็นไปของยุคสมัย
พอมีตัวเลือกมากขึ้น มีช่องทางการเข้าถึงโอกาสที่หลากหลาย
คนเราจึงมุ่งแสวงหา The next best thing
ติดกับดักของการไขว่คว้าอย่างไร้จุดจบ
ดูจะไม่สามารถพึงพอใจหรือ "หยุด" กับอะไรได้เลย
ในยุคสมัยก่อนหน้า มนุษย์ไม่ได้มีตัวเลือกนับไม่ถ้วนขนาดนี้
แถมยังมีแบบแผนทางวัฒนธรรม ค่านิยม ธรรมเนียมต่างๆ ที่คนส่วนใหญ่ปฏิบัติเหมือนๆกัน
ที่ช่วยทำหน้าที่เป็นแนวทางว่าควร "หยุด" ที่ตรงไหนและเมื่อไหร่
เหมือนรถที่มีเบรคและพวงมาลัย
แต่มาถึงวันนี้ ค่านิยมหรือธรรมเนียมเหล่านั้นมันเสื่อมพลังลงไปแล้ว
กลุ่มคนที่เคยยึดถือแนวทางคล้ายๆกัน ตอนนี้ก็กลายเป็นเลือกวิธีปฏิบัติของใครของมัน ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน
จึงเหมือนทุกคนต่างมุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว ทางใครทางมัน
เหมือนรถที่พุ่งไปข้างหน้าสุดพลัง แต่กำหนดทิศทางไม่ได้ เบรคไม่อยู่
บางคนอาจชอบอิสระภาพแบบนี้ ขณะที่บางคนเจ็บปวดและสับสน
จะว่ายุคไหนดีงามหรือเลวทรามกว่ากัน คงตอบไม่ได้
มันเป็นธรรมดา ในความเป็นไปของยุคสมัย
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ปรัชญา
จิตวิทยา (Psychology)
สังคมไทย
ประสบการณ์ความรัก
นักจิตวิทยา
"ทำไมยุคนี้ถึงรู้สึกว่าความสัมพันธ์เปราะบาง? หรือเราคิดไปเอง?"
โซเชียลมีเดียทำให้เรา "แทนที่กันได้ง่าย" 📱
สมัยก่อน ถ้าเราทะเลาะกับเพื่อนหรือแฟน เราต้องคุยและแก้ไขกันตรง ๆ
แต่เดี๋ยวนี้ แค่บล็อก/เลิกติดตาม/เงียบหาย ก็เหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
คนใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตได้ง่าย ความพยายามในการรักษาความสัมพันธ์เลยลดลง
เทรนด์ "ไม่โอเคก็ไปต่อ" แทนที่ "ลองปรับตัวเข้าหากัน" 🚶♂️
หลายคนในยุคนี้เชื่อว่า ถ้าความสัมพันธ์ทำให้เหนื่อย ก็ออกมาเถอะ
ซึ่งไม่ผิด! แต่บางครั้งการพยายามเข้าใจกัน ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์แข็งแรงขึ้น
แต่ยุคนี้หลายคนเลือกจบความสัมพันธ์ไว เพราะไม่อยากเสียเวลา
เรามีตัวเลือกมากขึ้น จึงให้ค่ากันน้อยลง 🤷♂️
ย้อนกลับไปยุคก่อน การเจอคนใหม่ ๆ เป็นเรื่องยาก
แต่ยุคนี้แค่เลื่อน Tinder / DM หาใครก็ได้ เรามี "ตัวเลือก" เยอะกว่าเดิม
พอรู้สึกว่าความสัมพันธ์มันเหนื่อยปุ๊บ บางคนก็เลือกเปลี่ยนทันที แทนที่จะพยายามรักษามัน
ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ทำให้เราให้เวลากับความสัมพันธ์น้อยลง ⏳
คนยุคนี้ยุ่งขึ้น โฟกัสกับงาน การเติบโต การเงิน มากกว่าความสัมพันธ์
เวลาที่เคยมีให้กัน ถูกแทนที่ด้วยจอมือถือ งาน และไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ
"อินสแตนท์คัลเจอร์" (Instant Culture) ทำให้เราคาดหวังความสัมพันธ์แบบเร่งด่วน ⚡
ทุกอย่างในยุคนี้เร็วขึ้น เราสั่งอาหารได้ภายใน 15 นาที โหลดหนังดูได้ทันที คนเริ่มชินกับการได้สิ่งที่ต้องการเร็ว ๆ
เมื่อความสัมพันธ์ ไม่เป็นไปตามความคาดหวังแบบเร่งด่วน บางคนก็รู้สึกว่า "งั้นเลิกกันเถอะ"
หรือจริง ๆ มันเป็นแค่ "ความรู้สึกไปเอง"?
บางที ความสัมพันธ์อาจไม่ได้เปราะบางลง แต่คนยุคนี้ "มีทางเลือก" และ "กล้าที่จะออกจากความสัมพันธ์ที่ไม่เวิร์ก" มากขึ้น
ในอดีต หลายคนอาจฝืนทนอยู่กับความสัมพันธ์ที่ไม่มีความสุข เพราะกลัวสังคม กฎเกณฑ์ หรือไม่มีตัวเลือกใหม่
บางที แค่เรารู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วขึ้น แต่จริง ๆ มันอาจเป็นเรื่องปกติของยุคสมัย