เคยเป็นกระแสกันไปแล้วกับการคัดเลือกผู้ว่าท่าอากาศยานฯ เมื่อต้นปี 2566 ที่ดูแล้วน่าจะเป็นโควต้าเด็กเส้นจาก รมต.ท่านหนึ่ง ต่อให้ค้านสายตาคนทั้งในองค์กรและทั่วประเทศแต่ก็โนสนโนแคร์ คนในที่มีความเชี่ยวชาญกลับหลุดจากการลุ้นตำแหน่งตั้งแต่ยังไม่ประกาศเรียกได้ว่ารู้กันภายในองค์กรอยู่แล้ว คนนอกเข้ามาตัดหน้าแบบนิ่มๆ ไทยแลนด์โอนลี่ ก็แบบนี้ซินะ เราก็ได้แต่ลุ้นว่าเด็กเส้นคนนี้ จะมีผลงานดีให้ชื่นใจหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าจะน่าชื่นอกตรมเสียมากกว่า
ที่ผ่านมาต้องเรียกว่าข่าวคาวของ ผู้ว่าท่าอากาศยานของเราคนนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะที่ผ่านมามีการโดนร้องสอบเรื่องการฮั้วประมูลจัดซื้อจัดจ้างยาวเป็นหางว่าว เข้ารับตำแหน่งต้นปี กลางปีก็โดนร้องสอบเสียแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
·      การแฉพิรุธล้มประมูล "จ้างบำรุงรักษาระบบบำบัดน้ำเสีย" สนามบินภูเก็ต  ใครได้ใครเสียอันนี้ต้องไปตามอ่านเอกสารกันเอาเอง 
·      หรือแม้กระทั่ง พนักงานสังกัดคมนาคมยื่นหนังสือขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบปมการทุจริตบิ๊กทอท อีกหลายเรื่อง
·      ไม่ว่าจะเป็น กรณีลดสเป็กงานก่อสร้างทางวิ่งที่ 3 (รันเวย์ 3) 
·      กรณีอุบัติเหตุผู้โดยสารถูกทางเลื่อนหนีบจนขาขาดที่สนามบินดอนเมือง ที่งบประมาณซ่อมบำรุงก็สูงเสียดฟ้า แต่คุณภาพสนามบินกลับสวนทางราวฟ้ากับเหว อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเงินเข้ากระเป๋าใครหรือป่าว???


·      กรณีการแต่งตั้งบุคคลไม่เหมาะสมเป็นผู้บริหาร ทอท.ที่ขัดจริยธรรมและไม่เป็นไม่เป็นไปตามระเบียบ เรื่องนี้คนในงงกันเป็นไก่ตาแตกกันไปเลย
·      และเรื่องสุดท้าย กรณีทุจริตการจัดซื้อสติ๊กเกอร์ซีทรู (See Through Sticker) เฉลิมพระเกียรติฯสนามบินภูเก็ต


บอกเลยว่าตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งมามีแต่ผลงานแต่ในทางลบ แต่เชื่อมั้ยว่าเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดดูเหมือนเรื่องจะค่อยๆเงียบลงไป หรือจะเข้าข่ายคนหนุนเป็นถึงรัฐมนตรีฯก็เลยไม่ต้องกลัวอะไร คนร้องก็ร้องไป คนถูกร้องจะออกแนวชิวๆนะงานนี้ หึหึ..
 
แต่เรื่องที่ดูแล้วจะเป็นที่น่าอับอายของการท่าอากาศยานไทยตอนนี้ก็ท่านผู้ว่าทอท.เนี่ย ได้ออกมาประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2568 (ต.ค.-ธ.ค.2567) มีกำไรสุทธิรวม 5,344.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 781.27 ล้านบาท คิดเป็น 17.12% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ถึงจะบวกนะ แต่กำไรก็ไม่เข้าเป้าตามที่ใครๆคาด หลังจากนั้นหุ้น AOT ร่วงระนาว แต่เหตุผลที่ทุนหายกำไรหดถ้ามาชำแหละกันจริงๆแล้ว  ก็มาจากเงินเดือนเจ้าหน้าที่และการแจกโบนัสที่เห็นตัวเลขแล้วต้องเอามือทาบอกกันหรือป่าว แถมยังได้เงินจากนักท่องเที่ยวต่ำลง เรื่องนี้เป็นที่รู้กันอยู่ กระแสตอนนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติ มาไทยก็อยากได้ของถูกและดี เทรนด์มันเปลี่ยนไปแล้ว แต่ที่ดูแถลงแล้วเหมือนจะเป็นการโยนความผิดก้อนโตไปให้กับดิวตี้ฟรี ทั้งที่ผ่านมาเค้าก็จ่ายค่าสัมปทานให้อยู่ตามสัญญาและมีการยืดชำระหนี้อยู่แล้ว คือรับรู้รายได้ ได้ดอกเบี้ยแต่ไปแถลงหาคนรับเคราะห์แทนจนหุ้น AOT ดิ่งลงเหว เหมือนพยายามจะเอาเรื่องนี้มาเป็นเหตุผลปัดภัยให้พ้นตัว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ทอท.ก็สั่งปิดดิวตี้ฟรีขาเข้าซึ่งก็ผิดคู่สัญญาก็ต้องชดใช้ตามกฎหมายกันไปไม่ใช่หรอ? แบบนี้จะบอกว่าทุนหายกำไรหดจากรายได้แหล่งเดียวได้หรอ หรือจริงๆ เป็นที่การบริหารจัดการที่ไม่เก่ง มองเกมไม่ขาดของผู้ว่าท่าอากาศยานไทยคนนี้หรือไม่???  


เอาจริงๆหลังจากที่ผู้อำนายการการท่าฯออกมาแถลงทำให้หุ้นร่วงอย่างน่าตกใจ ก็น่าจะเป็นชั้นเชิงในการแถลงนั่นแหละ แถลงไม่เคลียร์เลยทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ  ประชาชนเม่าน้อยตาดำๆอย่างเราก็ได้แต่เฝ้าภาวนาให้หน่วยงานระดับแนวหน้าในประเทศไทยจะประสบความสำเร็จขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างว่าหัวแถวไม่ดีหางแถวจะให้ดีได้ยังไง? ถ้าจะใช้เด็กเส้นแบบนี้มาบริหารองค์กรให้ประสบความสำเร็จก็อาจจะยากหน่อยนะ เรื่องนี้ก็ต้องฝากไว้ให้คิดกันสักนิดนึงนะพี่น้องชาวไทย