พนักงานออฟฟิศดื่มกาแฟเวลาไหนดีที่สุด และ กิน ‘โยเกิร์ต’ ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร?

พนักงานออฟฟิศดื่มกาแฟเวลาไหนดีที่สุด เพื่อช่วยเพิ่มพลังงานและดีต่อสุขภาพ

หมดปัญหาง่วงเหงาหาวนอน! เลือกเวลาดื่มถูก ชีวิตดีมีสุข เผยเคล็ดลับดื่ม "กาแฟแก้วโปรด" ฉบับพนักงานออฟฟิศ ดื่มเวลาไหน? ช่วยให้สดชื่น ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับพนักงานออฟฟิศที่ต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า และความง่วงนอนระหว่างวัน การดื่มกาแฟอาจเป็นตัวช่วยที่ดี แต่การดื่มกาแฟในเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุด และหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟ

09.00-10.00 น.

หลังจากตื่นนอน ระดับคอร์ติซอลในร่างกายจะสูงขึ้น ทำให้รู้สึกสดชื่นตามธรรมชาติ

แต่ในช่วงเวลา 09.00-10.00 น. คอร์ติซอลจะเริ่มลดลง การดื่มกาแฟจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้น ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

1-2 ชั่วโมงหลังอาหารกลางวัน

หลังอาหารเที่ยง มักจะรู้สึกง่วงนอน เนื่องจากเลือดไปรวมตัวที่กระเพาะอาหารเพื่อช่วยย่อยอาหาร การดื่มกาแฟจะช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร และช่วยย่อยอาหาร กาเฟอีนในกาแฟช่วยบรรเทาอาการง่วงนอน

หากต้องการนอนกลางวัน (เพื่อพักผ่อนและชาร์จพลัง) สามารถดื่มกาแฟหลังตื่น 15-20 นาที เพื่อเพิ่มความสดชื่น

14.00-15.00 น.

หลังจากทำงานในตอนเช้า และงีบหลับหลังอาหารกลางวัน (ถ้าทำได้) อาจรู้สึกฟุ้งซ่านและง่วงนอน การดื่มกาแฟจะช่วยให้สมองกลับมาทำงานได้ตามปกติ


ข้อควรระวัง:

หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหลัง 15.00 น. เพื่อป้องกันปัญหานอนไม่หลับ
ดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรเกิน 3-4 แก้วต่อวัน
หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มกาแฟ
เคล็ดลับเพิ่มเติม:

ดื่มกาแฟพร้อมอาหารว่าง เพื่อลดผลกระทบต่อกระเพาะอาหาร
เลือกกาแฟดำ หรือกาแฟที่มีปริมาณน้ำตาลและนมต่ำ
ดื่มน้ำตามหลังจากดื่มกาแฟ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำในร่างกาย
การดื่มกาแฟในเวลาที่เหมาะสม และปริมาณที่พอดี จะช่วยให้พนักงานออฟฟิศมีพลังงานในการทำงาน และรักษาสุขภาพที่ดีไว้ได้...
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4491669/




กิน ‘โยเกิร์ต’ ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร?

การกิน “โยเกิร์ต” จะส่งผลกระต่อร่างกายอย่างไร หากกินก่อนนอนจะดีไหม
การกิน “โยเกิร์ต” จะส่งผลต่อร่างกายอย่างไร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้นำบทความมาลงไว้ว่า  “ข้อดีของการกินโยเกิร์ตก่อนนอน” จะช่วยเราดังนี้


ช่วยให้นอนหลับง่าย โยเกิร์ต มีส่วนประกอบของนม ในโยเกิร์ตจึงมีทริปโตเฟน กรดอะมิโนที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกง่วงนอน และทริปโตเฟนยังจะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับง่ายกว่าเดิม

ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ในโยเกิร์ตมีโพรไบโอติกส์ แบคทีเรียชนิดดีต่อลำไส้และระบบย่อยอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย พร้อมทั้งโพรไบโอติกส์ยังจะช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมของร่างกายดีขึ้นด้วย โดยเฉพาะหากกินโยเกิร์ตตอนท้องว่าง ในช่วงเช้า หรือก่อนเข้านอน จุลินทรีย์ชนิดดีและโพรไบโอติกส์จะเข้าไปจัดระเบียบบรรดาสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ภายในกระเพาะอาหารและลำไส้ เช้ามาก็จะขับถ่ายคล่องตัวและง่ายขึ้นกว่าเดิม

ช่วยดีท็อกซ์ร่างกาย หลังจากโยเกิร์ตได้เข้าไปกระตุ้นระบบขับถ่ายแล้ว การที่ร่างกายขับถ่ายได้ดีขึ้น ก็เหมือนได้ดีท็อกซ์ลำไส้ไปในตัว ที่สำคัญยังจะส่งผลดีต่อการดูดซึมสารอาหารอีกด้วย ยิ่งกับคนที่มีพุงและรู้สึกอึดอัดท้อง ถ่ายยาก การได้รับโพรไบโอติกส์จากโยเกิร์ตเป็นประจำจะช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายได้ คราวนี้พุงที่เคยป่องและอึดอัดก็จะยุบลง เพียงกินโยเกิร์ตก่อนนอนติดต่อกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์เท่านั้น

ช่วยควบคุมน้ำหนัก กินโยเกิร์ตก่อนนอนอ้วนไหม หลายคนกังวลตรงจุดนี้ ซึ่งก็ตอบเลยว่า โยเกิร์ตเป็นของว่างก่อนนอนที่ช่วยคลายหิวให้คนชอบกินมื้อดึกได้เป็นอย่างดี เพราะโยเกิร์ตมีโปรตีนซึ่งจะทำให้อิ่มอยู่ท้องแบบสบาย ๆ อีกทั้งโยเกิร์ตยังจัดเป็นอาหารแคลอรีต่ำ เหมาะสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักจะกินแก้หิวยามดึกได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกโยเกิร์ตไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย หรือรสธรรมชาติ รวมไปถึงต้องคุมอาหารในระหว่างวัน ร่วมกับหมั่นออกกำลังกายด้วย
เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ระหว่างที่เรานอนหลับร่างกายจะมีกระบวนการเสริมสร้างและฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ ซึ่งการกินโยเกิร์ตก่อนนอนก็จะช่วยเสริมโปรตีนให้ร่างกายดึงไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะคนที่ออกกำลังกายแบบใช้กล้ามเนื้อหนัก ๆ การกินโยเกิร์ตที่มีโปรตีนก่อนเข้านอนก็จะช่วยฟื้นฟูมวลกล้ามเนื้อที่เสียหาย พร้อมกันนั้นก็ช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อในระหว่างที่หลับไป ทว่าก็ควรเลือกกินโยเกิร์ตที่มีโปรตีนสูง ๆ อย่างกรีกโยเกิร์ต...

สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4489045/


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่