เนื่องจากเราถูกเรียกให้ไปชำระภาษีที่ดินค่ะ
ในใบแปะหน้าใบแรกก็กำหนดประเภทว่าเป็นบ้านอาศัยหลังหลัก ซึ่งตามกฏหมายจะได้รับยกเว้นภาษีหากมูลค่าทรัพทย์สินไม่เกิน 50 ล้าน
แต่พอใบประเมินแนบท้าย กลับคิดมาว่าเป็นบ้านอาศัยหลังรอง ถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 0.02%
ซึ่งเราก็งงว่าเค้าสำรวจจากอะไร ทำไมถึงได้ข้อมูลแบบนั้น แล้วในหนังสือแจ้งฉบับเดียว ทำไมถึงระบุไม่เหมือนกัน

เราได้เดินทางไปถามยังเทศบาลผู้รับผิดชอบแล้วนะคะ
ได้ข้อมูลมาแบบงงๆว่า เพราะเรายังไม่เคยไปติดต่อยืนยันที่อยู่ จึงต้องระบุว่าเรามีที่อยู่มากกว่า 1 หลัง

อันนี้ค่ะ ที่ทำเรางง ว่ามันเป็นภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างไม่ใช่หรือ มันน่าจะสำรวจได้จากที่เลขบัตรประชาชนดังกล่าว มีอสังหา หรือมีที่ดินกี่แปลง และนำมาคิดคำนวนและเรียกภาษี
แล้วทำไมถึงเกี่ยวข้องกับที่อยู่ในทะเบียนบ้านของเราด้วย

แล้วมีอีกประเด็นคือด้วยที่เราคิดว่าเราไม่ใช่ผู้ที่มีหน้าที่ต้องจ่ายภาษีที่ดิน ทำให้เราไม่ทันได้ระวัง จนมีเหตุภาษีคงค้างของปี 2566-2567 ด้วย จากที่ดินและบ้านหลังเดียวกันนี้ ซึ่งตอนนี้ที่ดินเราถูกอายัดการทำธุรกรรมต่างๆเป็นที่เรียบร้อย (จากการแจ้งของเจ้าหน้าที่คลังนะคะ)

ซึ่งที่ผ่านมา เราไม่เคยได้รับหนังสือเรียกเหมือนปีนี้ และในสองปี ไม่มีหนังสือทวงถามซักฉบับ รวมถึงไม่มีหนังสือแจ้งเกี่ยวกับการอายัดที่ดินเราเลย ดีนะคะ ที่ไม่ไปถึงขึ้นยึดและขายทอดตลาด จากมูลค่าภาษีที่เค้าเรียกมาปีละร้อยกว่าบาท ทั้งๆที่เราไม่เข้าข่ายต้องเสียด้วยซ้ำ

ทางคลังเค้าโทษว่าเป็นความผิดของไปรษนีย์อย่างเดียว เพราะเค้าได้ออกหนังสือแจ้งและทวงมายังเราแล้ว แต่เป็นไปได้หรือคะ ที่ 2 ปีจะไม่มีหลุดรอดมาถึงมือเรามาซักฉบับ

ทั้งนี้เราก็เดินทางไปร้องเรียนที่ไปรษนีย์แล้วเช่นกัน เรื่องไม่ได้รับหนังสือราชการ จนทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนทางคลังไม่สามารถออกหลักฐานการส่งหนังสือถึงเรามาให้เราดูได้ซักฉบับค่ะ นอกจากเลขที่ส่งของปี 67 ที่เราเอาไปเช็คแล้วมันไม่ขึ้นอะไร

ขอโทษนะคะยาวหน่อย คือเราอยากจะทราบว่า ภาษีที่ดินเค้าสำรวจยังไง จากอะไรหรือคะ แล้วเกี่ยวกับที่อยู่ในทะเบียนบ้านด้วยหรือ

ถ้าสมมุติเรามีกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินหลังนี้ แต่เรามีชื่อในทะเบียนบ้านอีกหลังที่เป็นกรรมสิทธิ์ของคนอื่น เค้าจะนับว่าบ้านที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราเป็นบ้านหลังรอง เช่นนั้นหรือคะ

เราไม่เข้าใจจริงๆค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะคะ 🙏🙏🙏