ผมเบียดตัวเองขึ้นรถเมล์ได้ที่ยืนมั่นคงดีแล้ว เห็นมืออวบมาขยับกระบอกตั๋วส่งเสียงคุ้นหูอยู่ใกล้ ๆ ผมรู้ว่าคือการบอกล่วงหน้าว่าจะเก็บค่าโดยสาร ผมจะยื่นเงินให้เธอแต่ก็ต้องรีบหันหน้ากลับ ก้มคอเอาคางแนบปกเสื้อสีกรมท่า อาต้นแขนมาบังใบหน้าไว้แน่น ทำท่าเหมือนจะอาเจียน จนกระเป๋ารถเมล์สาวที่ใบหน้าไม่มีความรู้สึกอะไรเลยว่าผมจ่ายแล้วหรือยังไม่จ่าย จะเดินเอาสะโพกหนาเบียดผู้โดยสารที่แน่นรถผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ผมจำได้ เธอชื่อมุกดาเป็นเพื่อนเรียนชั้นปีเดียวกับผมสมัยเรียน ปวช. แต่คนละแผนกเมื่อยี่สิบปีก่อน คนสวยที่นักเรียนชายทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องอยากจีบเธอเป็นแฟน ผิวเธอขาวราวกับมุก ร่างบอบบาง เรียนหนังสือเก่ง กริยามารยาทงดงาม ราวกับสิ่งดี ๆ ทุกอย่างที่เด็กสาวในวัยนั้นอยากมี ได้มารวมกันอยู่ที่ตัวเธอจนหมดสิ้น ถึงผมจะเรียนปานกลางค่อนไปทางแย่ แต่ความจำดี ยิ่งความทรงจำของผมเกี่ยวกับเธอนั้นยิ่งชัดเจน เพราะผมเป็นหนึ่งในนั้นที่เกี้ยวเธอ แต่เธอก็ไม่เคยปรายตามองมาแม้แต่น้อย โชคชะตาเล่นกลอะไร เธอจึงเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้และมาเป็นกระเป๋ารถเมล์ในตอนนี้ได้อย่างไร
ลมพัดผ่านช่องหน้าต่างมาเอื่อย ๆ เหมือนมุกดาวิ่งมาเปิดลิ้นชักความจำ ผมเป็นคนที่ไม่สามารถติดต่อเพื่อนฝูงเก่า ๆ มาเป็นยี่สิบปีได้ ถ้าไม่นับว่าคนรู้จักแถวบ้านตรงโน้นเป็นเพื่อน ผมก็แทบไม่มีเพื่อนกับใครเขาจริงจังเลย ทั้งที่เมื่อมองย้อนกลับไป ผมมีเพื่อนรายล้อมเสมอ ด้วยเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองมาแต่เริ่มแรก และเป็นคนปากกล้าขาสั่นแบบที่ใครก็มองไม่ยาก เตี่ยเคยบอกผมว่า “มีคุณสมบัติของการเป็นเบ๊ที่ดี”
ตอนนั้นผมไม่ได้คิดว่าไอ้สิ่งนี้มันเป็นเรื่องไม่ดี ได้แต่คิดว่าการเป็นลูกไล่ของเพื่อน และมีเพื่อนขาใหญ่เป็นลูกพี่นั้น มันเป็นโล่ป้องกันสารพัดเรื่องที่จะพุ่งตรงเข้ามาหาไอ้ตี๋ตัวเล็กเหมือนลูกกรอกอย่างผมได้ ผมรู้สึกปลอดภัย และความปลอดภัยนั้นเองที่ทำให้ผมติดอยู่กับพวกมันรวมห้าคน
เขียด ช้าง บัง และถวิล ไม่ว่าจะทำอะไรกับใคร มันจะเอาเปรียบผมขนาดไหน ใช้ผมทำอะไร ผมไม่เคยขัด ผมก็เฮโลสาระพาไปกับพวกมันทั้งหมด นั่นเองทำให้ผมกลายเป็นคนเดียวในเวลาที่ไปข่มเหงรังแก ชกต่อยทำร้าย ข่มขู่ด่าทอเหยื่อ ไม่ว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน หรือ รุ่นน้อง ผมรู้สึกสนุกสนานได้ไม่เต็มที่ หากคนเหล่านั้นบังเอิญเป็นคนที่มียีนเหมือนผม เพราะเมื่อเวลากลับมาบ้าน คำด่าทอ บริภาษ เหยียดหยามเหล่านั้นมันย้อนกลับมาทิ่มแทง ผมเจ็บปวดกว่าเหยื่อเหล่านั้นเป็นเท่าตัวและมีสองรายที่ทำผมลืมไม่ได้ไปชั่วชีวิต
รถเมล์สายชานเมืองขึ้นชื่อเรื่องขับเร็ว กระโชกโฮกฮาก เหมือนรถจะไม่มีห้ามล้อ หรือมีแต่ห้ามใช้บ่อยก็ไม่รู้ได้ แม้เมื่อได้ที่นั่งก็ยังไม่เรียกว่าสบายก้นเท่าใดนัก เวลารถขึ้นคอสะพาน อาจต้องเกร็งต้นขา ไม่งั้นก้นจะลอยตกมากระแทกเสียงดัง หรือตอนรถเบียดแซงรถอื่นจะเข้าป้ายนั้น หากหลับหรือเผลอไผลก็อาจถูกเหวี่ยงกระเด็นตกมาจากที่นั่งได้ไม่ยาก
รถที่ผมจับราวมาจอดนิ่งหน้าปากซอย 38 ถึงตอนนี้จะมีตอหม้อรถไฟฟ้าต้นมหึมามาบดบังทัศนียภาพเดิมแทบหมด แต่มันก็ไม่สามารถทำลายความทรงจำของผมกับซอยนี้ได้เลย ลึกเข้าไปร้อยเมตร มันเป็นบ้านไม้ริมคลองของไอ้เขียด คนที่ผมทั้งรักทั้งเกลียดมัน มันคือหัวหน้าแก๊ง หน้าหล่อขนาดไปเป็นพระเอกละครช่องไหนก็ได้ คนที่พาพวกผมไปไล่ตีไล่ต่อยกับโรงเรียนคู่ปรับ คนที่พาพวกผมหนีทั้งคู่ปรับและตำรวจสำเร็จหลายครั้งไม่เคยเกม จนมามั่วสุมอยู่ที่บ้านหลังนี้
“ไม่แดกออกแก๊งกูไป”
เขียดชอบพูดแบบนี้ ผมมั่นใจว่ามันคงจำใครเขามา เพราะเนื้อแท้มันเป็นคนซื่อ ๆ แต่การประกาศตัวเป็นผู้ใหญ่ด้วยสุรา ยาเมานั้น ผมก็ไม่รู้ว่าใครบัญญัติ เหมือนกัน มันเหมือนเป็นคัมภีร์วิถี ที่วัยเสเพลนั้นถือปฏิบัติต่อ ๆ กันมาอย่างนั้น เงินที่ต้องใช้เป็นค่าเทอม ค่าข้าว ค่ากับข้าวนั้น หมดไปกับค่าเหล้า บุหรี่ กัญชา และที่ขาดไม่ได้คือยากันยุง ยุงที่พร้อมใจกันบินมาจากน้ำคลำใต้ถุนบ้านมาสูบเลือดชั่วของพวกเรา ยามเราหลับไหลหมดสติ ผมสารภาพว่าผมไม่ได้ติดแอลกอฮอร์ แต่ลุ่มหลงในม่านสีเทานั้นแบบถอนตัวไม่ขึ้น คำด่าทอและคุณธรรมความดีของมนุษย์คนหนึ่ง ทำผมเจ็บปวดน้อยลง บ้านที่เคยกลับทุกวัน กลับไปให้เตี่ยด่าก็ค่อย ๆ ห่าง ซอย 38 เปรียบเหมือนบ้านผมเข้าไปทุกที

ที่บ้านหลังนี้ไม่ได้มีแต่พวกผม บางวันก็มีเด็กของเขียด หรือของเพื่อน ๆ มานอนค้างด้วย เด็กสาวบางคนมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงดูพวกเราได้เป็นอาทิตย์ก่อนเธอจะหายหน้าไปแล้วกลับมาใหม่ เรานอนเหยียดยาวเรียงกันไปยันหน้าห้องน้ำ เวลาใครจะมีกิจกรรมอะไรกันก็โรมรันกันอยู่ตรงนี้บ้าง ในห้องนอนเขียดบ้าง มันมีแค่เปลือกตาของพวกเราเท่านั้นที่จะปิดกั้นไม่มองอิสระเสรีเรื่องเสพสังวาสนี้ได้ เด็กสาวใจแตกที่นิยมฮีโร่ เสเพลแบบใครก็ได้ เซ็กส์ทั่วถึงนั้นมีอยู่จริงและมีอยู่มานานแล้ว
วันที่ผมห่างจากม่านสีเทา ห่างจากแก๊ง และห่างจากทุกอย่างได้เด็ดขาด เป็นบ่ายวันที่เขียดพาเด็กใหม่มาที่บ้าน ผมกำลังซอยเนื้อเผื่อเพื่อนๆ อย่างอารมณ์ดี พอมุกดาปรากฏตัว ความทรงจำของผมที่มีต่อเธอพลันหม่นหมอง กิจกรรมของวัยอยากรู้ อยากลอง อยากรู้ อยากเห็น เกิดขึ้นได้ไม่ยาก เมื่อมีสิ่งชั่วช้าเร้าหรือ เสียงที่ไม่อยากได้ยินก็ได้ยิน จนผมต้องเอาวอล์คแมนเปิดฟังเพลงของวงเนื้อกับหนัง เอาปลายนิ้วดันวอลลุ่มเสียงไปจนสุด
“โครตเด็ด”
ไอ้ช้างตะโกนเมื่อขยับตัวที่เหงื่อท่วมออกจากรูผนังห้องเขียด น้ำเสียงมันบ่งบอกถึงประสบการณ์ที่ไม่คาดฝัน ซ้ำช่วยตัวเองไปรอบหนึ่งแล้ว รอยคราบขาวข้นเห็นชัดอยู่ที่พื้น ไอ้ลามก ไอ้โสมม ผมก่นด่าเหมือนคนบ้า ใครจะไปรู้ไอ้คนลามก สกปรก สัปดน คนที่ชอบแอบถ่ายคลิปใต้กระโปรงสาว ๆ ส่งขายอย่างช้าง จะกลายมาเป็นเชพชื่อดังในตอนนี้
ผมนั่งทอดอาลัยนานเท่าไรไม่รู้ ได้แต่ปล่อยควันเทาออกมา ไม่รู้สึกเอร็ดอร่อย หมดรสชาติที่คุ้นเคย ผมเขวี้ยงบ้องไผ่ลงคลอง กลิ่นน้ำครำลอยฟุ้ง คว้าเป้ขึ้นรถเมล์กลับบ้านแบบคนใจสลาย ขณะที่เพื่อนในแก๊งคึกคักผิดปกติ ไอ้ช้างพยายามเอาไม้ไฝ่ที่เป็นราวตากผ้าเขี่ยบ้องนั้นกลับมา และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมพบพวกเขาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
รถเมล์ห้อตะบึงพาผมออกมายังพื้นที่ที่เรียกว่ากันว่าปริมณฑล ปริมณฑลที่เงาของหนอนไฟฟ้ายักษ์ยังพาดผ่านถึง ข้างทางมีรถขายใบกระท่อม น้ำกระท่อมกันจอดเป็นแนวยาว มีป้ายโฆษณาหาเสียง ภาพชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มคือเพื่อนรักชื่อบัง เซียนต้มน้ำท่อม บ้านมันอยู่หลังสุเหร่าหลังป้ายนี้ บังเป็นมือหาของอย่างกัญชาที่ในสมัยนั้นยังเป็นของผิดกฎหมายมาขายให้พวกเรา มันเคยบอกผมว่า
“มีเรื่องไร มาหากู”
เหมือนเหงื่อจะซึมออกมือแต่ก็ไม่มี อาการเหมือนคนเสี้ยนของเสียอย่างนั้น อากาศในรถอบอ้าว เมื่อก่อน บัง ตาหวาน มันคงสันทัดแค่เรื่องหาของอะไรทำนองนั้น มันคงไม่รู้ตัวว่าหรอกมันจะสามารถให้ผมพึ่งพาได้หรือไม่ได้ มันแค่พูดเอาเท่ตอนเมาไปอย่างนั้นเอง ถ้าผมมีปัญญาไปหาตอนเป็นไอ้บัง ผู้รักกัญชาดุจชีวิต มันคงจำผมได้
แต่ตอนนี้มันเป็นท่านผู้มีอำนาจบารมีทางการเมืองไปเสียแล้ว ผมก็ไม่รู้จะมีเรื่องอะไรไปหามันได้อีก อีกอย่างมันจะจำผมได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ทั้งที่สนิทเป็นคอพี้ คอปุ๊นกันมาแต่ไหนแต่ไร นายเขาให้มาวันนี้ได้ก็บุญแล้วจะออกนอกส้นทางนั้นไม่ได้ ปัจจุบันคนที่เป็นเงาของบังแทนผมคือถวิล คนที่เคมีไม่ตรงกับบังเลยสักอย่าง
ถวิล ชื่อคล้ายผู้หญิง แต่มันเด็ดเดี่ยวและใจถึงอย่างหาใครเปรียบได้ยาก ฉายามันคือ หวิน อีโบ๊ะ ในกลุ่มผมดูเหมือนทุกคนจะเกรงมันมากกว่าเขียดด้วยซ้ำไป มันเป็นคนเดียวที่มาจากต่างจังหวัดและมาเข้าแก๊งเป็นคนสุดท้าย
ใจเย็น พูดน้อย ดื่มหนัก ที่สำคัญไม่รู้ในใจมันคิดอะไร แต่ที่ผมรู้อย่างชัดแจ้งคือมันเป็นห่วงผม และโจทก์เก่าทีตามเอาคืนของหวินทำเอาพวกเราต้องรบและพกของเวลาออกไปนอกโรงเรียนทุกครั้ง
หวินเรียนช่างยนต์ เรียนมาหลายที่ ถนัดเรื่องปืนผาหน้าไม้ มีดพก ของประจำตัวคือลูกซองสั้น ที่สำคัญมันเป็นคนที่ให้ผมพกปืนไทยประดิษฐ์อีกกระบอกไปโรงเรียนด้วย เพราะมันบอกว่าครูไม่เขาไม่ตรวจหรอกตี๋และดวงไม่แข็ง
ถ้าผมจะบอกว่าหวินทำให้ผมโตขึ้นท่ามกลางความห่วงใยและสนับสนุนของมันก็คงไม่ผิด เพราะผมได้พกสามแปดหักลำพร้อมลูกปืนมาห้านัด เวลาต่อยตีกัน เมื่อเพลี้ยงพล้ำ ผมก็ใช้ตราควายนี่แหละ ยิงเปิดทางหนี ยิงใส่อริ ความมีตัวตนของผมชัดเจนขึ้นในแก๊ง ทุกคนดูเกรงใจ จะจิกหัว เรียกใช้แบบก่อนก็หมดไป แต่การมีมัจจุราชจากถวิลติดตัวไปด้วยทุกครั้งก็อาจไม่ใช่เรื่องดี
วันนั้นยังไม่ทันจะห้าโมงเย็นระหว่างทางกลับบ้าน รถเมล์สายนี้ได้ต้อนรับกลุ่มนักเรียนช่างกลขึ้นมากลุ่มหนึ่ง ผมโล่งใจเมื่อรู้ว่าไม่ใช่โจทก์ เราไม่เคยมีเรื่องกันมา แต่การมาตามลำพังและสายตาปรือฉ่ำของเด็กใส่เสื้อช็อบตัวเท่าลูกหมาอาจไม่เป็นที่ถูกใจของพวกเขา ผมถูกแซวหาเรื่อง และเข้ามาผลัก ผมล้มลงจากนั้นสหบาทาจึงเริ่มขึ้น ปากแตกบวม จุกเสียดทั้งลำตัว ตากร่ำแดง ผมคิดถึงหวิน เขียด ช้าง บัง เหลือเกิน
ตอนตะกายรีบหนีเอาตัวรอดลงจากรถ พวกเขาพยายามยื้อแย่งเป้ ผมปล่อยเป้เปล่าไป ขณะยกสามแปดหักลำขึ้นขู่ มัจจุราชรมดำทำเอาพวกเขาถอยผงะ และเสียงวี้ดว้ายของผู้โดยสารคนอื่นเริ่มขึ้นเมื่อมีคนตะโกนขึ้นว่าปืน
“ปัง”
เสียงดังขึ้นประกาศว่ากระสุนได้ผ่านลำกล้องออกมายุติเหตุการณ์นั้น ผมทรุดตัวลงกองตรงบันไดรถ พร้อมกับเด็กช่างกลร่างใหญ่ที่บ้าดีเดือดโถมเข้ามาแย่งปืน
ผมเดินไปตอนหน้ารถ เห็นมุกดานั่งข้างคนขับและยกกระติกน้ำส่งให้ คนขับมีเค้าหน้าตาหล่อเหลาอยู่มาก เพียงแต่หน้าผากกว้างขึ้นตามวัย ดูจากภาพตรงหน้าทุกคนก็คงเดาได้ไม่ยากว่า รถเมล์ร่วมบริการคันนี้ มีคนขับและกระเป๋ารถเป็นสามีภรรยากัน
ผมยิ้ม เมื่อเดินตามผู้โดยสารคนอื่นทยอยกันลง คายเหรียญสิบบาทจากปาก บรรจงวางไว้ที่พื้นรถเป็นค่าโดยสาร ผมเคยบอกแล้วว่าผมเป็นคนความจำดี ผมจำรอยสักที่แขนขวารูปสันติภาพ และ ชื่อย่อโรงเรียนของพวกเราได้ ดีใจที่ทั้งสองยังรักกัน อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ป้ายบอกทางเข้าสุสาน แดดร้อนน้อยลง ไม่มีอาการเสี้ยนยาแล้ว ยังคิดแต่เรื่องของเพื่อน ๆ และมุกดา เสียดายอยากจะทักทายเธอและเขียด แต่ก็ทำไม่ได้
ข้างหน้า นายผมในชุดขาวสะอาดตายืนรออยู่หน้าป้ายทางเข้าสุสาน ปีนี้เป็นปีที่ดีที่นายอนุญาตให้ได้มางานรวมญาติ กรรมจากการยิงคนตายไปสองศพต้องชดใช้ยาวนาน ดีใจ ได้เจอแม่เ จอเตี่ยและอากง ได้ขึ้นรถคันที่ผมได้มีลมหายใจสุดท้าย ได้เห็นภาพความทรงจำในช่วงอายุสิบเก้าปีแจ่มชัด ก่อนจะได้ไปเกิดใหม่ แต่จะไปรถเมล์สายไหน ไปเกิดเป็นอะไรที่ไหน ยังไม่รู้
เรื่องสั้น : "Final Line สาย . 38"