ฆ่าตัวตายเพื่อไม่ให้เป็นภาระที่บ้าน กรรมหนักมั้ย

ทางผมมีญาติเพิ่งจะจบชีวิตลงไป พี่เขาเป็นอัมพฤตครึ่งซีกอยู่ 7-8 ปี ซึ่งทางพี่เขาตัดสินใจจบชีวิตเนื่องจากไม่อยากเป็นภาระที่บ้าน  เพราะมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับตัวเขามาก ซึ่งถ้าเอาตามความจริงถ้าพี่เขาไม่อยู่ที่บ้านคงจะสบายกว่านี้

ก่อนตายทางเขาได้ทำความสะอาดบ้าน อาบน้ำ จัดบ้านเรียบร้อย และได้กินข้าวมื้อสุดท้าย ยังชมแฟนตัวเองว่าทำกับข้าวเก่งเหมือนเดิม ก่อนตอนเช้าขังตัวเองอยู่ในห้องจนจบชีวิตตัวเองลง (ทางบ้านไม่รู้ว่าเขาตั้งใจนบชีวิตในวันนั้น)

เคสแบบนี้ทางพี่เขาได้ทำใจมาระยะหนึ่งแล้ว และเขาพร้อมที่จะตาย ทางพระพุทธศาสนาเป็นไปได้มั้ยถ้าพี่เขาจะไปอยู่ในภพภูมิที่ดีเพราะว่าก่อนตายเขาได้ทำใจเรียบร้อยแล้วว่าพร้อมจะตาย และที่บ้านคงจะดีขึ้น เหมือนหมดห่วงแล้ว (ประหยัดค่าใช้จ่ายการรักษาไปได้มากๆ)
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
เรื่องของการจบชีวิตตนเองเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะเมื่อผู้กระทำมีความตั้งใจเพราะไม่อยากเป็นภาระของครอบครัว

.

ตามหลักพระพุทธศาสนา การจบชีวิตของตนเองถือว่าเป็นกรรมหนัก เนื่องจากเป็นการตัดรอนโอกาสแห่งการพัฒนาชีวิตและการสร้างบุญบารมีต่อไป อย่างไรก็ตาม กรรมของแต่ละบุคคลไม่ได้พิจารณาแค่การกระทำครั้งเดียว แต่ขึ้นอยู่กับเจตนาและกรรมสะสมที่เคยกระทำมา

.

ในกรณีของพี่เขาที่มีอาการอัมพฤตครึ่งซีกมานานหลายปี ชีวิตอาจเต็มไปด้วยความทุกข์กายทุกข์ใจ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดความคิดว่าหากจากไปแล้วครอบครัวจะสบายขึ้น และได้เตรียมตัวอย่างดีทั้งในเรื่องของจิตใจและสภาพแวดล้อมก่อนจากไป

.

คำถามสำคัญคือ "เขาจะไปอยู่ในภพภูมิที่ดีได้หรือไม่" ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเจตนาและสภาวะจิตก่อนตายเป็นสำคัญ พระพุทธเจ้าตรัสว่า "จิตสุดท้ายก่อนตาย" (มรณัสสติ) เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อภพภูมิถัดไป

.

หากพี่เขามีจิตสงบ ไม่โกรธ ไม่อาฆาต ไม่เศร้าหมอง และเต็มไปด้วยความหวังดีต่อครอบครัว นั่นเป็นจิตที่มีคุณภาพดี ซึ่งอาจช่วยให้ไปสู่สุคติภูมิได้ แต่หากยังมีความกังวล ลังเล หรือทุกข์ใจอยู่ ก็อาจนำไปสู่ภพภูมิที่ไม่ดีได้

.

พระไตรปิฎกมีตัวอย่างมากมายที่กล่าวถึงคนที่จบชีวิตตนเอง บางรายก็เกิดใหม่ในภพที่ดีขึ้น แต่บางรายก็ต้องไปอยู่ในภพที่ต่ำลงตามแรงกรรมของตนเอง

.

ดังนั้น คำตอบไม่ได้ตายตัวว่าพี่เขาจะไปสู่สุคติแน่นอนหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับสภาพจิตขณะสิ้นใจ รวมถึงบุญกรรมที่ได้สั่งสมมาตลอดชีวิต

.

การช่วยเหลือดวงวิญญาณของพี่เขาที่ดีที่สุด คือการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ เช่น การถวายสังฆทาน การสวดมนต์แผ่เมตตา การบริจาคสิ่งของเพื่อเป็นกุศลผลบุญส่งไปให้

.

นอกจากนี้ คนในครอบครัวยังสามารถทำจิตใจให้สงบ ไม่จมอยู่กับความเศร้าโศก เพราะจิตของผู้ล่วงลับอาจยังรับรู้พลังงานของคนที่ยังอยู่ หากเราสงบ เขาก็จะสงบ หากเราทุกข์ เขาก็อาจจะเป็นห่วงและติดค้างอยู่

.

สิ่งสำคัญคือ การเข้าใจว่าชีวิตเป็นอนิจจัง ทุกข์และสุขล้วนเป็นธรรมดา หากพี่เขาได้มีเจตนาดีต่อครอบครัว ได้ทำบุญและมีจิตใจที่สงบก่อนตาย ก็อาจช่วยให้เขาไปสู่ภพภูมิที่ดีได้

.

ดังนั้น การกระทำของเขาเป็นกรรมหนักตามหลักพุทธศาสนา แต่ผลของกรรมนั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง จิตสุดท้ายและบุญกรรมที่ทำไว้เป็นตัวกำหนดเส้นทางของเขาหลังความตาย

.

สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือ ส่งบุญให้พี่เขาด้วยความรักและเมตตา เพื่อช่วยให้เขาไปสู่ภพภูมิที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่