จะใช้ชื่อย่อหุ้นว่าว่ายังไงดี PANTHAI , PTHAI
PTG ปักธงรุก Non-Oil จ่อปั้น “พันธุ์ไทย” เข้าตลาดหุ้นภายในปี 2570
PTG กางแผนปี 2568 ตั้งงบลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท รุกธุรกิจ Non-Oil โตต่อเนื่อง ดัน Gross Profit เพิ่มเป็น 50% ภายในปี 2571 แย้มเตรียมนำ “พันธุ์ไทย” เข้าตลาดหุ้น ภายในปี 2570
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยในงาน “PTG Drive for Tomorrow: Max Card. Max Growth. Max World.” ว่า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 6,000 – 7,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรงวางงบฯไว้ที่ 4,000 ล้านบาทโดยพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจกิจในปัจจุบัน สัดส่วน 2 ใน 3 ของเงินลงทุนเป็นการเน้นหนักในกลุ่มธุรกิจ non-oil
โดยบริษัทตั้งเป้าสัดส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Profit) ในธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในปี 71 จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 25% ซึ่งจะมาจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ของกําไรขั้นต้น (Gross Profit) พร้อมกับธุรกิจ Non-Oil อื่นๆอีก 25%
โดยการเพิ่มในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มีปัจจัยมาจากการขยายกาแฟพันธุ์ไทยสู่ 5,000 สาขา ภายในปี พ.ศ. 2571 ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาไม่น้อยกว่า 600 สาขา เพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย 2,000 สาขาภายในปลายปีนี้ ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา กาแฟพันธุ์ไทย เติบโตมากกว่า 36% มีการขยายสาขาเกือบ 500 สาขา สิ้นปี 67 มีจำนวนรวม 1,347 สาขา
นอกจากนี้ ได้เตรียมความพร้อมที่จะนำ “กาแฟพันธุ์ไทย” ภายใต้บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายในปี 2570
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้า Spin-Off บริษัทลูก 7-8 บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต โดยขณะนี้บริษัทแอตลาส เอ็นเนอยี (ATLAS อยู่ในกระบวนการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. จำนวน 1 บริษัทแล้วคาดว่าจะเข้าเทรดในปีนี้ และในปลายปี 2569 เตรียมยื่นไฟลิ่งบริษัทลูกอีก 2 บริษัทเพื่อเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงปีถัดไปจำนวน 1-2 บริษัท ซึ่งเป็นการทำให้บริษัทลูกเติบโตได้ด้วยตนเอง
อีกทั้งในปีนี้ บริษัทฯ วางแผนเปิดตัวสถานีบริการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แห่งแรกในประเทศไทย ที่ลาดพร้าว-วังหิน จำนวน 1 แห่ง
สำหรับปี 2567 ที่ผ่านมา PTG สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมี PT Max Card และ PT Max Card Plus กว่า 25 ล้านสมาชิกธุรกิจ Oil ของ PTG ทำสถิติใหม่ด้านปริมาณการจำหน่ายน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,548 ล้านลิตร เติบโต 12.9% จากปีก่อน สูงกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมกว่า 10 เท่า (ตลาดเติบโต 0.4% จากปีก่อน)
พร้อมครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 21.9% จาก Same-Store Sales Growth (SSSG) กว่า 11.6% จากปีก่อน โดยมี PT Max Card เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ดึงดูดลูกค้าให้กลับมาเติมน้ำมันมากขึ้น บ่อยขึ้น และต่อเนื่องขึ้น
ขณะที่ธุรกิจ Non-Oil เติบโตอย่างแข็งแกร่งครอบคลุมทุกมิติ ในมุมของปริมาณทางฝั่งธุรกิจ Non-Oil มีรายได้เติบโต 31.2% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของ GDP 10 เท่า (GDP เติบโต 2.5% จากปีก่อน) ขณะที่กำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อน
โดยมีกาแฟพันธุ์ไทยเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจ Non-Oil ด้วยการเติบโตที่โดดเด่นของกำไรขั้นต้นซึ่งเพิ่มขึ้น 80.2% จากปีก่อน จากการขยายสาขาเฉลี่ยกว่า 1.3 สาขาต่อวันไปยังสถานีบริการน้ำมันและภายนอกสถานีบริการน้ำมันที่มีศักยภาพ
https://www.prachachat.net/economy/news-1769303
PTG ปักธงรุก Non-Oil จ่อปั้น “พันธุ์ไทย” เข้าตลาดหุ้นภายในปี 2570
PTG ปักธงรุก Non-Oil จ่อปั้น “พันธุ์ไทย” เข้าตลาดหุ้นภายในปี 2570
PTG กางแผนปี 2568 ตั้งงบลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท รุกธุรกิจ Non-Oil โตต่อเนื่อง ดัน Gross Profit เพิ่มเป็น 50% ภายในปี 2571 แย้มเตรียมนำ “พันธุ์ไทย” เข้าตลาดหุ้น ภายในปี 2570
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยในงาน “PTG Drive for Tomorrow: Max Card. Max Growth. Max World.” ว่า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 6,000 – 7,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรงวางงบฯไว้ที่ 4,000 ล้านบาทโดยพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจกิจในปัจจุบัน สัดส่วน 2 ใน 3 ของเงินลงทุนเป็นการเน้นหนักในกลุ่มธุรกิจ non-oil
โดยบริษัทตั้งเป้าสัดส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Profit) ในธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในปี 71 จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 25% ซึ่งจะมาจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ของกําไรขั้นต้น (Gross Profit) พร้อมกับธุรกิจ Non-Oil อื่นๆอีก 25%
โดยการเพิ่มในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มีปัจจัยมาจากการขยายกาแฟพันธุ์ไทยสู่ 5,000 สาขา ภายในปี พ.ศ. 2571 ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาไม่น้อยกว่า 600 สาขา เพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย 2,000 สาขาภายในปลายปีนี้ ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา กาแฟพันธุ์ไทย เติบโตมากกว่า 36% มีการขยายสาขาเกือบ 500 สาขา สิ้นปี 67 มีจำนวนรวม 1,347 สาขา
นอกจากนี้ ได้เตรียมความพร้อมที่จะนำ “กาแฟพันธุ์ไทย” ภายใต้บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายในปี 2570
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้า Spin-Off บริษัทลูก 7-8 บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต โดยขณะนี้บริษัทแอตลาส เอ็นเนอยี (ATLAS อยู่ในกระบวนการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. จำนวน 1 บริษัทแล้วคาดว่าจะเข้าเทรดในปีนี้ และในปลายปี 2569 เตรียมยื่นไฟลิ่งบริษัทลูกอีก 2 บริษัทเพื่อเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงปีถัดไปจำนวน 1-2 บริษัท ซึ่งเป็นการทำให้บริษัทลูกเติบโตได้ด้วยตนเอง
อีกทั้งในปีนี้ บริษัทฯ วางแผนเปิดตัวสถานีบริการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แห่งแรกในประเทศไทย ที่ลาดพร้าว-วังหิน จำนวน 1 แห่ง
สำหรับปี 2567 ที่ผ่านมา PTG สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมี PT Max Card และ PT Max Card Plus กว่า 25 ล้านสมาชิกธุรกิจ Oil ของ PTG ทำสถิติใหม่ด้านปริมาณการจำหน่ายน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,548 ล้านลิตร เติบโต 12.9% จากปีก่อน สูงกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมกว่า 10 เท่า (ตลาดเติบโต 0.4% จากปีก่อน)
พร้อมครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 21.9% จาก Same-Store Sales Growth (SSSG) กว่า 11.6% จากปีก่อน โดยมี PT Max Card เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ดึงดูดลูกค้าให้กลับมาเติมน้ำมันมากขึ้น บ่อยขึ้น และต่อเนื่องขึ้น
ขณะที่ธุรกิจ Non-Oil เติบโตอย่างแข็งแกร่งครอบคลุมทุกมิติ ในมุมของปริมาณทางฝั่งธุรกิจ Non-Oil มีรายได้เติบโต 31.2% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของ GDP 10 เท่า (GDP เติบโต 2.5% จากปีก่อน) ขณะที่กำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อน
โดยมีกาแฟพันธุ์ไทยเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจ Non-Oil ด้วยการเติบโตที่โดดเด่นของกำไรขั้นต้นซึ่งเพิ่มขึ้น 80.2% จากปีก่อน จากการขยายสาขาเฉลี่ยกว่า 1.3 สาขาต่อวันไปยังสถานีบริการน้ำมันและภายนอกสถานีบริการน้ำมันที่มีศักยภาพ
https://www.prachachat.net/economy/news-1769303