เปิดลิสต์ประเทศให้ ‘วีซ่าทอง’ สิทธิพิเศษแลกลงทุน สู่กรีนการ์ด
“โดนัลด์ ทรัมป์” เสนอ “วีซ่าบัตรทอง” ให้นักลงทุนต่างชาติ สามารถซื้อในราคา 5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งสู่ขอสัญชาติอเมริกัน แล้วทั่วโลก มีประเทศไหนใช้ไอเดียนี้
โครงการบัตรวีซ่าทอง เป็นสิ่งที่ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งใจจะเพิ่มโควตาแทนที่โครงการ วีซ่านักลงทุนผู้อพยพ ซึ่งต้องถือวีซ่าประเภท EB-5 โดยปัจจุบันกำหนดให้ต้องลงทุนขั้นต่ำ 800,000 ดอลลาร์ เพื่อขอใบอนุญาตมีถิ่นฐานที่อยู่ถาวรในสหรัฐ
แนวคิดนี้ มักเรียกกันว่า “การพำนักโดยการลงทุน” หรือ “วีซ่าทอง” จะช่วยให้ผู้ถือวีซ่านี้ มีอภิสิทธิ์สูง และได้รับโอกาสพำนักที่อยู่ชั่วคราว หรือถาวรในต่างประเทศได้
รายชื่อประเทศสำคัญๆ เสนอ บัตรวีซ่าทอง เพื่อดึงดูดการลงทุนจากผู้ร่ำรวย และเศรษฐีจากทั่วโลก
สหภาพยุโรป
- กรีซ เปิดตัวโครงการในปี 2556 เพื่ออนุญาตให้ต่างชาติ สามารถขอใบอนุญาตพำนักถาวรได้ในประเทศ
การได้รับใบอนุญาต ต้องเข้าเกณฑ์ข้อกำหนดที่ต้องลงทุนอสังหาริมทรัพย์ขั้นต่ำประมาณ 250,000 ยูโร หรือประมาณ 262,800 ดอลลาร์ และจะต้องต่ออายุทุกๆ 5 ปี
- มอลตา มอบสัญชาติให้กับบุคคลต่างชาติที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ โดยกำหนดให้ชาวต่างชาติต้องจ่ายเงินอย่างน้อย 600,000 ยูโร สำหรับการทำนัดเป็นระยะระยะเวลาขั้นต่ำ 36 เดือน
- อิตาลี โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อนักลงทุนต่างชาติที่มุ่งมั่นจะมีส่วนร่วมและสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะได้รับสิทธิ์พำนักในอิตาลี และประเทศที่ร่วมเชงเก้นในยุโรปโดยไม่ต้องมีวีซ่า ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิ์ต้องลงทุนขั้นต่ำระหว่าง 250,000 - 2 ล้านยูโร ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน
- ไซปรัส เสนอบัตรวีซ่าทองให้กับชาวต่างชาติที่ลงทุนขั้นต่ำ 300,000 ยูโร
ตะวันออกกลาง
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อนุญาตให้ชาวต่างชาติลงทุนขั้นต่ำ 2 ล้านดิรฮัม หรือประมาณ 544,602 ดอลลาร์ ในประเทศอ่าวเปอร์เซีย และสมัครขอใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วีซ่าทองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
แคริบเบียน
- โดมินิกา กำหนดให้ผู้ลงทุนต้องมีเงินสนับสนุนทางเศรษฐกิจของประเทศขั้นต่ำอยู่ที่ 200,000 ดอลลาร์โดยผู้สมัครและครอบครัวจะได้รับสัญชาติเต็มรูปแบบ
- เกรเนดา กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครต้องจ่ายเงินสมทบเข้าประเทศขั้นต่ำ 235,000 ดอลลาร์ ผู้ถือวีซ่าสามารถเดินทางไปยังเกรเนดา จีน รัสเซีย สิงคโปร์ อังกฤษ และประเทศในชิงเก้นของยุโรปได้ เป็นต้น
- เซนต์คิตส์และเนวิส ได้มีโครงการนี้ในปี 2527 โดยกำหนดให้ผู้สมัครต้องบริจาคเงินขั้นต่ำ 250,000 ดอลลาร์ให้กับประเทศ โดยผู้สมัครและครอบครัวจะได้สัญชาติเต็มรูปแบบ
- เซนต์ลูเซีย ออกโครงการเพื่อการลงทุนนี้เพื่อออกสัญชาติให้ผู้สมัคร ซึ่งต้องบริจาคเงินขั้นต่ำ 240,000 ดอลลาร์ให้กับประเทศ โดยผู้สมัครและครอบครัวจะได้รับสัญชาติเต็มรูปแบบ แต่ทั้งนี้ต้องผ่านกระบวนการสมัครที่เข้มงวด และตรวจสอบประวัติด้วย
- แอนติกาและบาร์บูดา ออกหลักเกณฑ์นี้ให้กับพลเมือง ซึ่งถือเป็นผู้สมัครเป้าหมายหลักที่จะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปี และต้องจ่ายเงินสมทบขั้นต่ำ 230,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ยังมีบางประเทศในเอเชีย มอบอภิสิทธิ์ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว แม้ว่าจะไม่ได้มอบสิทธิทางพลเรือน หรือสัญชาติอย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็ได้รับ สิทธิพิเศษที่จะพำนักในประเทศได้ในระยะเวลานาน
เอเชีย
- ประเทศไทย เสนอโครงการ Thailand Privilege Residence ซึ่งให้สิทธิ์ผู้สมัครในการพำนักอาศัยได้นานถึง 20 ปี และสามารถเข้าถึงบริการและสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ ด้วยการลงทุนขั้นต่ำ 650,000 บาท หรือประมาณ 19,299 ดอลลาร์
นอกจากนี้ การลงทุนขั้นต่ำ 50,000 บาทยังสามารถเข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ Long Term Residence Program ซึ่งอนุญาตให้บุคคลสามารถอาศัยและทำงานในประเทศได้นานถึง 10 ปี โดยมีข้อกำหนดการบริหารที่ลดลงและสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- อินโดนีเซีย เปิดตัวโครงการวีซ่าระยะยาวในปี 2567 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยให้เงินสนับสนุนสูงสุด 10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ได้รับวีซ่า 10 ปี และสามารถเข้าถึงเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้
https://www.bangkokbiznews.com/world/1169101?anm&fbclid=IwY2xjawI3wwFleHRuA2FlbQIxMQABHShcwW9pV-HlpP4aky8pEDUv2xJrtX2gQsdRLX4P3VouDty9tLYWnkSV1g_aem_gKXRNvlb0RQC_S8ihfU9jQ
เปิดลิสต์ประเทศให้ ‘วีซ่าทอง’ สิทธิพิเศษแลกลงทุน สู่กรีนการ์ด
“โดนัลด์ ทรัมป์” เสนอ “วีซ่าบัตรทอง” ให้นักลงทุนต่างชาติ สามารถซื้อในราคา 5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งสู่ขอสัญชาติอเมริกัน แล้วทั่วโลก มีประเทศไหนใช้ไอเดียนี้
โครงการบัตรวีซ่าทอง เป็นสิ่งที่ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งใจจะเพิ่มโควตาแทนที่โครงการ วีซ่านักลงทุนผู้อพยพ ซึ่งต้องถือวีซ่าประเภท EB-5 โดยปัจจุบันกำหนดให้ต้องลงทุนขั้นต่ำ 800,000 ดอลลาร์ เพื่อขอใบอนุญาตมีถิ่นฐานที่อยู่ถาวรในสหรัฐ
แนวคิดนี้ มักเรียกกันว่า “การพำนักโดยการลงทุน” หรือ “วีซ่าทอง” จะช่วยให้ผู้ถือวีซ่านี้ มีอภิสิทธิ์สูง และได้รับโอกาสพำนักที่อยู่ชั่วคราว หรือถาวรในต่างประเทศได้
รายชื่อประเทศสำคัญๆ เสนอ บัตรวีซ่าทอง เพื่อดึงดูดการลงทุนจากผู้ร่ำรวย และเศรษฐีจากทั่วโลก
สหภาพยุโรป
- กรีซ เปิดตัวโครงการในปี 2556 เพื่ออนุญาตให้ต่างชาติ สามารถขอใบอนุญาตพำนักถาวรได้ในประเทศ
การได้รับใบอนุญาต ต้องเข้าเกณฑ์ข้อกำหนดที่ต้องลงทุนอสังหาริมทรัพย์ขั้นต่ำประมาณ 250,000 ยูโร หรือประมาณ 262,800 ดอลลาร์ และจะต้องต่ออายุทุกๆ 5 ปี
- มอลตา มอบสัญชาติให้กับบุคคลต่างชาติที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ โดยกำหนดให้ชาวต่างชาติต้องจ่ายเงินอย่างน้อย 600,000 ยูโร สำหรับการทำนัดเป็นระยะระยะเวลาขั้นต่ำ 36 เดือน
- อิตาลี โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อนักลงทุนต่างชาติที่มุ่งมั่นจะมีส่วนร่วมและสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะได้รับสิทธิ์พำนักในอิตาลี และประเทศที่ร่วมเชงเก้นในยุโรปโดยไม่ต้องมีวีซ่า ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิ์ต้องลงทุนขั้นต่ำระหว่าง 250,000 - 2 ล้านยูโร ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน
- ไซปรัส เสนอบัตรวีซ่าทองให้กับชาวต่างชาติที่ลงทุนขั้นต่ำ 300,000 ยูโร
ตะวันออกกลาง
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อนุญาตให้ชาวต่างชาติลงทุนขั้นต่ำ 2 ล้านดิรฮัม หรือประมาณ 544,602 ดอลลาร์ ในประเทศอ่าวเปอร์เซีย และสมัครขอใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วีซ่าทองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
แคริบเบียน
- โดมินิกา กำหนดให้ผู้ลงทุนต้องมีเงินสนับสนุนทางเศรษฐกิจของประเทศขั้นต่ำอยู่ที่ 200,000 ดอลลาร์โดยผู้สมัครและครอบครัวจะได้รับสัญชาติเต็มรูปแบบ
- เกรเนดา กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครต้องจ่ายเงินสมทบเข้าประเทศขั้นต่ำ 235,000 ดอลลาร์ ผู้ถือวีซ่าสามารถเดินทางไปยังเกรเนดา จีน รัสเซีย สิงคโปร์ อังกฤษ และประเทศในชิงเก้นของยุโรปได้ เป็นต้น
- เซนต์คิตส์และเนวิส ได้มีโครงการนี้ในปี 2527 โดยกำหนดให้ผู้สมัครต้องบริจาคเงินขั้นต่ำ 250,000 ดอลลาร์ให้กับประเทศ โดยผู้สมัครและครอบครัวจะได้สัญชาติเต็มรูปแบบ
- เซนต์ลูเซีย ออกโครงการเพื่อการลงทุนนี้เพื่อออกสัญชาติให้ผู้สมัคร ซึ่งต้องบริจาคเงินขั้นต่ำ 240,000 ดอลลาร์ให้กับประเทศ โดยผู้สมัครและครอบครัวจะได้รับสัญชาติเต็มรูปแบบ แต่ทั้งนี้ต้องผ่านกระบวนการสมัครที่เข้มงวด และตรวจสอบประวัติด้วย
- แอนติกาและบาร์บูดา ออกหลักเกณฑ์นี้ให้กับพลเมือง ซึ่งถือเป็นผู้สมัครเป้าหมายหลักที่จะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปี และต้องจ่ายเงินสมทบขั้นต่ำ 230,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ยังมีบางประเทศในเอเชีย มอบอภิสิทธิ์ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว แม้ว่าจะไม่ได้มอบสิทธิทางพลเรือน หรือสัญชาติอย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็ได้รับ สิทธิพิเศษที่จะพำนักในประเทศได้ในระยะเวลานาน
เอเชีย
- ประเทศไทย เสนอโครงการ Thailand Privilege Residence ซึ่งให้สิทธิ์ผู้สมัครในการพำนักอาศัยได้นานถึง 20 ปี และสามารถเข้าถึงบริการและสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ ด้วยการลงทุนขั้นต่ำ 650,000 บาท หรือประมาณ 19,299 ดอลลาร์
นอกจากนี้ การลงทุนขั้นต่ำ 50,000 บาทยังสามารถเข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ Long Term Residence Program ซึ่งอนุญาตให้บุคคลสามารถอาศัยและทำงานในประเทศได้นานถึง 10 ปี โดยมีข้อกำหนดการบริหารที่ลดลงและสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- อินโดนีเซีย เปิดตัวโครงการวีซ่าระยะยาวในปี 2567 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยให้เงินสนับสนุนสูงสุด 10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ได้รับวีซ่า 10 ปี และสามารถเข้าถึงเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้
https://www.bangkokbiznews.com/world/1169101?anm&fbclid=IwY2xjawI3wwFleHRuA2FlbQIxMQABHShcwW9pV-HlpP4aky8pEDUv2xJrtX2gQsdRLX4P3VouDty9tLYWnkSV1g_aem_gKXRNvlb0RQC_S8ihfU9jQ