อุทาหรณ์คนลอบเผาป่า... ศาลพิพากษา จำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา ต้องจ่ายค่าปรับ 133,237,390 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี

ถ้าไม่มีตังจ่ายค่าปรับ จะทำอย่างไร ติดคุกหักค่าปรับวันละ๕๐๐บาท ต้องใช้เวลา๗๓๐ปี
เท่าที่ค้นๆดู ศาลจะสั่งให้ทำงานบริการสังคมแทนค่าปรับหากศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลยและจำเลยไม่มีเงินชำระค่าปรับ จำเลยจะถูกกักขังแทนค่าปรับอัตรา 500 บาท ต่อ 1 วัน แต่ปัจจุบันประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 30/1 ถึง มาตรา 30/3 กำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ผู้ต้องโทษปรับทำงานบริการสังคมฯ แทนค่าปรับ ในกรณีที่ผู้นั้นไม่มีเงินชำระค่าปรับ

พิษณุโลก – อุทาหรณ์คนลอบเผาป่า..ศาลพิพากษา มือจุดไฟเผาเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขากระดู่ จำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา ต้องจ่ายค่าปรับ 133,237,390 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี
  
ศาลจังหวัดพิษณุโลกได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 67 ไม่มีผู้ใดอุทธรณ์ บัดนี้คดีถึงที่สุดแล้ว จึงออกหนังสือไว้เป็นสำคัญลงวันที่ 21 กุมภาพันธุ์ 2568 ระบุว่า พนักงานเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย - เขาประดู่ ได้ทำการจับกุมผู้กระทำผิด 1 ราย ตรวจพบการแผ้วถาง ตัดฟันต้นไม้ จุดไฟเผาต้นไม้และใบไม้แห้ง ซึ่งเป็นป่าเบญจพรรณผสมเต็งรัง มีต้นไม้อยู่จำนวนมากบริเวณพื้นที่ป่าด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน บ้านไร่สุขสมบูรณ์ หมู่ที่ 10 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าและอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อยและอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า (ขหล.) เขาน้อย-เขาประดู่
จนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้เผาไหม้ป่าเป็นบริเวณกว้าง เนื้อที่ที่ถูกทำลายเสื่อมสภาพก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อยและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ จำนวน 2,166.02 ไร่ คิดมูลค่าความเสียหายทางสิ่งแวดล้อม เป็นเงิน 133,237,390 บาท และเป็นการทำอันตรายแก่สัตว์ป่า ทำให้เกิดการเสื่อมเสียแก่สภาพภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า

คดีดังกล่าว ศาลจังหวัดพิษณุโลกได้พิพากษาตามคดีหมายเลขแดงที่ สวอ21/2567 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พรบ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54, 72 ตรี วรรคสอง พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง, 31 วรรคสอง พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 มาตรา 67 (2), 103 วรรคหนึ่ง จำคุก 8 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี
 
พิเคราะห์รายงานสืบเสาะและพินิจจำเลยแล้ว เห็นว่า แม้ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้โทษจำคุกมาก่อน แต่การกระทำผิดของจำเลยก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างต่อทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรป่าไม้ของชาติ พฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่เห็นสมควรรอการลงโทษ ริบของกลางทั้งหมด ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายหรือเสียหายเป็นเงิน 133,237,390 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
รวมทั้งให้จำเลยและบริวารของจำเลย ออกไปจากเขตป่าสงวนแห่งชาติที่เกิดเหตุภายใน 30 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งให้เป็นพับ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกไม่มีผู้ใดอุทธรณ์ คดีถึงที่สุดแล้ว



อ่านข่าวเต็มๆได้ที่นี่ https://mgronline.com/local/detail/9680000022158
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่