สมมุติว่า

มีหุ้น ปตท. อยู่ 100,000 บาท ต้นทุนเดิม 45 บาท จำนวนหุ้น 2,222 หุ้น 
ปัจจุบันราคาหุ้นลงมาเหลือ 30 บาท ทำให้ขาดทุนทางบัญชี 33,333 บาท 
(ไม่ขายไม่ขาดทุนแต่ก็จะติดอยู่แบบนี้ รับเงินปันผลไปเรื่อย ๆ)

-ถ้าจะซื้อเพิ่มในพอร์ตเดิมเพราะราคาหุ้นลงมาต่ำมาก สมมุติซื้อที่ราคา 30 บาท 100,000 บาท จะได้หุ้น 3,333 หุ้น
ต้นทุนเก่าจะลดลงจาก 45 บาท เหลือ 36 บาทต่อหุ้น 
-ถ้าจะซื้อเพิ่มในพอร์ตเดิม 50,000 บาท จะได้หุ้น 1,666 หุ้น
ต้นทุนเก่าจะลดลงจาก 45 บาท เหลือ 38.57 บาทต่อหุ้น 
 
ถ้าต้องการขายในพอร์ตเก่า ระบบจะบังคับให้ขายที่ต้นทุนเดิม 2,222 หุ้น ในราคา 45 บาทให้หมดเสียก่อน จึงจะขายในส่วนราคาใหม่ที่ซื้อเพิ่มได้ นั่นคือถ้าราคาหุ้นขึ้นไปเกิน 30 บาทแต่ไม่เกิน 45 บาท (เกินต้นทุนใหม่แต่ก็ยังต่ำกว่าต้นทุนเก่า) ก็จะขายขาดทุนจนกว่าต้นทุนเก่าจะหมด จึงจะได้กำไรจากการขายต้นทุนใหม่

แต่ถ้าซื้อเพิ่มในพอร์ตใหม่ ก็จะสามารถขายทำกำไรได้ทันทีเมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 30 บาทต่อหุ้น โดยไม่ต้องรอขายหุ้นเก่าก่อน แต่ถ้าขายพอร์ตเก่าต้นทุนเก่าก็จะยังขาดทุนในพอร์ตเก่าอยู่
 
คำถามให้เลือก คือ
 
1. ซื้อหุ้น ปตท เพิ่มในพอร์ตใหม่เพื่อจะได้ขายทำกำไรได้ทันทีเมื่อราคาขึ้น ไม่ต้องไปรอขายหุ้นเก่าที่ราคาเก่าก่อน เพื่อจะได้กำไรมาชดเชยการขาดทุนในพอร์ตเก่า (แต่ก็ชดเชยไม่ได้ทั้งหมด อาจจะได้สัก 50% +- ของจำนวนที่ขาดทุน)

2. ซื้อหุ้น ปตท เพิ่มในพอร์ตเก่าเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุนเก่าให้ลดลง จากนั้นค่อยขายตัดขาดทุนหุ้นเก่าออกไปเมื่อราคาปรับขึ้นจนกว่าสัดส่วนหุ้นเก่าหุ้นใหม่จะใกล้เคียงกัน เพื่อให้ราคาต้นทุนต่ำที่สุด วิธีนี้จะไม่มีกำไรมาชดเชยขาดทุนเหมือนข้อ 1. แต่ก็จะมีกำไรเกิดขึ้นแฝงอยู่ในพอร์ตเก่า

3. หุ้น ปตท ในพอร์ตเก่าถือขาดทุนไปเรื่อย ๆ รับเงินปันผลไป หวังว่าสักวันราคาหุ้นจะกลับมาเท่าเดิม ส่วนหุ้นใหม่ราคา    
ใหม่ก็ซื้อเพิ่มในพอร์ตเดิมเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุนเก่าให้ลดลงบ้าง แต่ไม่ต้องซื้อถึง 100,000 บาท อาจจะซื้อแค่ครึ่งหนึ่ง คือ 50,000 บาทก็พอเพื่อไม่ให้สัดส่วนหุ้น ปตท มากเกินไปเพราะไม่ได้ตัดขายออกมีแต่ซื้อเพิ่ม (ต้นทุนเก่าจะลดลงจาก 45 บาท เหลือ 38.57 บาทต่อหุ้น ถ้าซื้อเพิ่ม 100,000 บาท ต้นทุนจะเหลือ 36 บาท) จากนั้นก็ถือรับเงินปันผลไปเรื่อย ๆ หวังว่าสักวันราคาหุ้นจะกลับมาทำให้ขาดทุนลดลงจึงค่อยตัดสินใจขาย

เพื่อน ๆ มีแนวคิดการบริหารพอร์ตแบบนี้อย่างไรกันบ้าง