วิทยาศาสตร์กับสังคมไทยในปัจจุบัน

อย่างที่เรารู้กันแก่นแท้ของวิทยาศาสตร์ คือ การคิดวิเคราะห์ การใช้ตรรกะและเหตุผล

แต่หลายปีมานี้เราจะเห็นว่ามีข่าวเรื่องความเชื่องมงายอะไรต่างๆนานาเยอะมาก ทั้งเรื่องกรณีน้องหญิงที่ยิงธนูแล้วทำเสียง งืดๆ หรืออย่างล่าสุดก็เรื่องการไหว้หุ่นยนต์ออพติมัส คือยากบอกว่ามันค่อหุ่นยนต์ในภาพยนต์ที่เขาแต่งเรื่องขึ้นมา มันไม่ได้มีชีวิตอยู่จริง จะไปกราบไหว้ขอพรมันทำไม ถ้ากราบไหว้พระพุทธรูปยังพอเข้าใจได้ว่าเป็นการระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า หรืออย่างล่าสุดที่ช่อง 7 ลงข่าวในเฟสบุ๊คกรณียาน Blue Ghost ของ Firefly Aerospace ลงจอดบนดวงจันทร์ แล้วคอมเม้นท์ส่วนใหญ่ใต้โพสจะไปในแนว สร้างภาพ ลวงโลก โกหกบ้างอะไรบ้าง หนักสุดคือคอมเมนต์ที่บอกว่าโลกดึงดูดทุกอย่างไว้แล้วจะส่งจรวดออกไปได้ยังไง อยากจะบอกคนที่คอมเมนต์มากว่า กลับไปเรียนฟิสิกส์ ม.ปลาย มาใหม่เถอะ จะได้รู้ว่าแรงโน้มถ่วงคืออะไร กฎแรงโน้มถ่วงของนิวตันเป็นยังไง จะได้เข้าใจว่าทำไม่ถึงส่งจรวดออกไปนอกโลกได้

ปัญหาคือว่า ประเทศไทยเราก็มีการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์มานานนับ 100 ปีแล้ว ประชาชนควรจะมีทักษะในการคิดวิเคราะห์บ้างว่าอะไรจริงไม่จริง อะไรควรเชื่อ อะไรไม่ควรเชื่อ ได้แล้ว แล้วอะไรที่ทำให้วิทยาศาสตร์ไม่สามารถเข้าถึงคนทั่วไปได้ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่