น่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่ ... ในกลุ่มแม่และเด็กที่พาเด็กน้อยเที่ยว
หลายคนก็พาลูกเที่ยวตั้งแต่ยังตัวน้อย ซึ่งหลายคนก็จะบอกตรงกันว่า รถเข็นเด็กเป็นสิ่งจำเป็นมาก !!
.
แต่เนื่องจากครอบครัวผม เจ้าตัวน้อยไม่สามารถนั่งรถเข็นนานๆได้ ต้องออกมาวิ่ง ปีนป่ายรถ จนมีก็เหมือนไม่มี
ดังนั้น ทริปญี่ปุ่นล่าสุด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พาเด็กเล็กไป จึงตัดใจไม่เอาไป ทั้งที่ซื้อรถเข็นแบบโหลดขึ้นเครื่องไว้ได้
... แต่ผมไปใช้ hip seat แทน

อย่างไรก็ตาม ผมไปเที่ยวญี่ปุ่นหลายรอบแล้ว
แต่การที่ต้องจัดทริปที่มีเด็กน้อย ส่วนตัวผมต้องคิดเผื่อไว้เยอะจริงๆ

เริ่มตั้งแต่การเดินทางเลยครับ
1. การขึ้นเครื่องบิน ... ครั้งนี้ผมเลือกบินตรงไปลง FUK ซึ่งเดินทางในเวลากลางคืน ออกตี1 ถึง ตอนเช้า
แต่ผมไม่ได้มีที่นั่งสำหรับเด็กเพราะอายุตอนเดินทาง ยังไม่ถึง 2ขวบถ้วน แต่แอร์ใจดีหาที่นั่งเพิ่มให้ เนื่องจากวันเดินทางมีที่ว่างพอสมควร
.
จากคำแนะนำของหลายๆท่าน เด็กมักจะหลับไปเอง .. ซึ่งก็จริงครับ !
แต่ ... หลับแบบดิ้นไปมาบนตัวผู้ปกครองนะครับ 
.
ผลสรุป คือ เด็กนอนได้...บ้าง แต่ผู้ปกครองไม่ได้นอน ครับ 

2. การเดินทางไปเที่ยวต่างๆ ... เนื่องจากแผนการเดินทางผมใช้รถไฟเยอะและข้ามภูมิภาคไปทั้ง Kyushu Chugoku Kansai
เด็กน้อยก็ชอบกับการอยู่ใน hip seat บางทีก็หลับไปเลย จึงไม่ได้เป็นปัญหาเท่าไร หรือถ้านั่งยาวๆก็อุ้มออกมานอนบนรถ
.
แต่ผู้ปกครองต้องมีเหนื่อยและเมื่อยแน่นอน ต้องแบกน้ำหนัก 10 กก. ไว้
อย่างไรก็ตาม ส่วนมากตามห้าง หรือ aquarium ในญี่ปุ่น จะมีรถเข็นเด็ก (stroller) ให้เช่า หรือให้ยืม อยู่แล้ว
ผมก็ยืมเป็นบางครั้ง แม้เด็กน้อยจะไม่นั่ง ก็เอาไว้วางของแทน
.
ผลสรุป hip seat สะดวกกับการเดินทางมาก ทั้งรถไฟ รถราง รถบัส แต่เมื่อยมาก ต้องมีแวะพักให้เด็กน้อยมาวิ่งปล่อยพลัง
ถ้าเด็กน้อยบ้านไหน ไม่ชอบนั่งรถเข็น สุดท้ายจะเป็นแค่ที่วางของ

3. ควรเช่ารถขับไหม ... การมีรถย่อมสะดวกกว่า เช่าคาร์ซีทพร้อมไปเลย เพราะไปถึงจุดหมาย อุ้มลงรถ จบ สัมภาระก็ไว้ในรถเอาครับ
แต่ในเมืองใหญ่ๆ เช่น Osaka Kyoto รถค่อนข้างติด และ ค่าที่จอดรถสูง
.
ผลสรุป เช่าก็ดี แต่ค่าใช้จ่ายสูง เหมาะกับเที่ยวตามเมืองรอบนอกมากกว่า เพราะผมเช่าแค่บางวันไป Oita Beppu ก็สะดวกดี

.
.
ส่วนเรื่องอื่นๆ 

4. อาหารการกิน ... เป็นเรื่องที่แล้วแต่ครอบครัวจริงๆ บางคนก็กินยาก บางคนก็กินง่าย
แต่ส่วนมาก ร้านอาหารในญี่ปุ่นจะค่อนข้างต้อนรับเด็ก มีแค่ร้านบางอย่างที่เด็กไปกินอาจจะลำบาก เช่น พวกร้านที่มีแต่ counter
แต่เด็กน้อยก็จะทานเลอะเทอะหน่อย ผมก็ช่วยเก็บเศษอาหารกันไป

5. นม ... อันนี้ก็แล้วแต่คน เพราะที่บ้าน ทานนมวัวได้แล้ว ก็ไปหาตามมินิมาร์ทเอา 
อร่อยกว่าไทย แต่ก็ราคาสูง บ้านไหนทานยี่ห้อไหน ก็อาจต้องลองดูกันครับเพราะเด็กบางคนก็ไม่ทานยี่ห้ออื่น

6. การจัดแผนเที่ยว ... ส่วนตัวผมก็ไม่ได้จัดไว้หลวมมาก แต่ต้องเผื่อเวลากินข้าวไว้เยอะหน่อย 
ที่พัก ควรจะพักที่เดียวกันทั้งหมด หากไม่อยากเหนื่อย ... (ส่วนตัวผมไปพัก 4เมือง เพราะเที่ยวเยอะ ค่อนข้างเหนื่อย)
บางสถานที่ มันไม่เหมาะกับรถเข็นจริงๆ เช่นพวกวัด ศาลเจ้า เช่น วันที่ผมไป Nara ก็เห็นกวางรุมรถเข็นนักท่องเที่ยว



สัมภาระผม .. กระเป๋าลาก1 ไว้เก็บช่องบนชินคังเซน25inch .. เป้1
hipseat กับเด็กน้อย ไว้เวลาขึ้นลงรถครับ

ท่านใดอยากแชร์ก็ยินดีครับ ...