เป็นเรื่องราวที่ดีมากๆ เลยครับ อยากแชร์
เพจเฟซบุ๊ก "จ๋อแจ๊ะจับโจร" โพสต์เล่าเรื่องราวเทวดาบนดิน “กุมารแพทย์หญิง” ผู้ชุบชีวิต “ทารกน้อย” จากแดนไกลในยุค 90 ผ่านเสียงโทรศัพท์ของพ่อในปี1993 เด็กทารกชายคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่แข็งแรง ป่วยออดๆ แอดๆ จนอาการแย่ลงเข้าขั้นวิกฤต กุมารแพทย์ที่เมืองพิษณุโลกในเวลานั้นพยายามช่วยชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผลนัก กระทั่งถึงค่ำคืนวันที่ 1 พ.ย. ที่คล้ายจะเป็นจุดสุดท้ายของชีวิตทารกน้อย พ่อได้พยายามหาหนทางช่วยเหลือ จนทราบว่ามีหมอคนหนึ่งที่วิจัยเกี่ยวกับทารกอยู่ที่กรุงเทพ
"ชื่อวันดี เป็นกุมารเวช โรงพยาบาลรามามหิดล"
ยุค 90 ที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีโทรศัพท์มือถือ “สมุดหน้าเหลือง” จึงเป็นหนทางเดียวในสมัยนั้นที่จะหาช่องทางติดต่อกับโรงพยาบาลในกรุงเทพได้ พ่อของทารกน้อยโบกรถรับจ้างไปไซส์งานใน จ.กำแพงเพชร เพื่อเข้าไปใช้โทรศัพท์และต่อสายหาโรงพยาบาลหลายครั้ง จนได้เบอร์โทรศัพท์ของออฟฟิศแพทย์หญิงวันดีและแล้วเช้าวันที่ 2 พ.ย. พ่อของทารกน้อยก็ได้ยิน “เสียงสวรรค์” แพทย์หญิงวันดี รับสายหลังจากพ่อกระหน่ำโทรไปตลอดคืน พ่อแนะนำตัวและแจ้งอาการของทารกน้อยให้หมอฟังด้วยความร้อนรน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ
แพทย์หญิงวันดีได้ถามกลับว่า “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” พ่อตอบกลับไปว่า “ผมโทรมาจากกำแพงเพชร ตอนนี้อยู่ในป่า ถ้าต้องพาลูกไปกรุงเทพจะต้องรอรถเมล์ 2 ชั่วโมง แล้วนั่งไปอีก 2 ชั่วโมงจากกำแพงเพชรเข้าไปที่พิษณุโลก เพื่อรับลูกและจะพาขึ้นเครื่องบินที่มีวันละ 1 เที่ยวถึงจะไปถึงกรุงเทพ”
แพทย์หญิงวันดีตอบกลับว่า “คุณไม่ต้องมาเด็กจะเสียระหว่างทาง หมอจะรักษาผ่านทางโทรศัพท์ เราจะกระตุ้นให้ลำไส้เริ่มกลับมาทำงาน ก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต รีบกลับไปทำตามที่หมอบอก จากนั้นได้เริ่มบอก “สูตรอาหารผสม” และวิธีการรักษาเบื้องต้น ให้กับพ่อของทารกน้อยที่จดทุกสิ่งทุกอย่างลงในกระดาษโน้ตแล้วพับเก็บใส่กระเป๋า ก่อนจะรีบออกจากไซส์งานขึ้นรถเมล์กลับไปที่เมืองพิษณุโลกทันที
“ปาฏิหาริย์ยามบ่าย” เมื่อพ่อกลับมาถึงแล้วพบว่าทารกน้อยยังไม่สิ้นใจ จึงรีบนำอาหารผสมสูตรหมอวันดีใส่ปากรักษาทารกน้อยตามโพยหมอ แม้ยังไม่เห็นผลทันตา แต่ทารกก็ยังไม่จากไป พ่อจดทุกอากัปกิริยาของทารกน้อย ก่อนจะรีบโบกรถข้ามจังหวัดกลับไปไซส์งานเพื่อโทรศัพท์ไปหาหมอ
การเทียวไปเทียวมา 2 จังหวัดเพื่อรักษาผ่านทางโทรศัพท์ได้เริ่มต้นขึ้นทุก 7 โมงเช้าของทุกวัน ตลอด 3 เดือน แพทย์หญิงวันดีจะใช้เวลาทุกเช้าก่อนเข้างานรอรับสายโทรศัพท์จากพ่อ เพื่อติดตามรักษาอาการและปรับเปลี่ยนสูตรผสมอาหารตามอาการ จนทารกน้อยดีวันดีคืน ผิวหนังที่เหี่ยวก็กลับมาเต่งตึง
กระทั่งปลายเดือน ม.ค.1994 พ่อรายงานอาการของทารกน้อยให้หมอวันดีฟังอย่างเช่นทุกๆ วัน ก่อนเสียงปลายสายของหมอตอบกลับว่า “ยินดีด้วยนะลูกคุณหายแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ
กระดาษโน้ตวันวานชุบชีวิต “สารวัตรแจ๊ะ” ภารกิจตามหาผู้มีพระคุณ
เพจเฟซบุ๊ก "จ๋อแจ๊ะจับโจร" โพสต์เล่าเรื่องราวเทวดาบนดิน “กุมารแพทย์หญิง” ผู้ชุบชีวิต “ทารกน้อย” จากแดนไกลในยุค 90 ผ่านเสียงโทรศัพท์ของพ่อในปี1993 เด็กทารกชายคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่แข็งแรง ป่วยออดๆ แอดๆ จนอาการแย่ลงเข้าขั้นวิกฤต กุมารแพทย์ที่เมืองพิษณุโลกในเวลานั้นพยายามช่วยชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผลนัก กระทั่งถึงค่ำคืนวันที่ 1 พ.ย. ที่คล้ายจะเป็นจุดสุดท้ายของชีวิตทารกน้อย พ่อได้พยายามหาหนทางช่วยเหลือ จนทราบว่ามีหมอคนหนึ่งที่วิจัยเกี่ยวกับทารกอยู่ที่กรุงเทพ
"ชื่อวันดี เป็นกุมารเวช โรงพยาบาลรามามหิดล"
ยุค 90 ที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีโทรศัพท์มือถือ “สมุดหน้าเหลือง” จึงเป็นหนทางเดียวในสมัยนั้นที่จะหาช่องทางติดต่อกับโรงพยาบาลในกรุงเทพได้ พ่อของทารกน้อยโบกรถรับจ้างไปไซส์งานใน จ.กำแพงเพชร เพื่อเข้าไปใช้โทรศัพท์และต่อสายหาโรงพยาบาลหลายครั้ง จนได้เบอร์โทรศัพท์ของออฟฟิศแพทย์หญิงวันดีและแล้วเช้าวันที่ 2 พ.ย. พ่อของทารกน้อยก็ได้ยิน “เสียงสวรรค์” แพทย์หญิงวันดี รับสายหลังจากพ่อกระหน่ำโทรไปตลอดคืน พ่อแนะนำตัวและแจ้งอาการของทารกน้อยให้หมอฟังด้วยความร้อนรน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แพทย์หญิงวันดีได้ถามกลับว่า “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” พ่อตอบกลับไปว่า “ผมโทรมาจากกำแพงเพชร ตอนนี้อยู่ในป่า ถ้าต้องพาลูกไปกรุงเทพจะต้องรอรถเมล์ 2 ชั่วโมง แล้วนั่งไปอีก 2 ชั่วโมงจากกำแพงเพชรเข้าไปที่พิษณุโลก เพื่อรับลูกและจะพาขึ้นเครื่องบินที่มีวันละ 1 เที่ยวถึงจะไปถึงกรุงเทพ”
แพทย์หญิงวันดีตอบกลับว่า “คุณไม่ต้องมาเด็กจะเสียระหว่างทาง หมอจะรักษาผ่านทางโทรศัพท์ เราจะกระตุ้นให้ลำไส้เริ่มกลับมาทำงาน ก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต รีบกลับไปทำตามที่หมอบอก จากนั้นได้เริ่มบอก “สูตรอาหารผสม” และวิธีการรักษาเบื้องต้น ให้กับพ่อของทารกน้อยที่จดทุกสิ่งทุกอย่างลงในกระดาษโน้ตแล้วพับเก็บใส่กระเป๋า ก่อนจะรีบออกจากไซส์งานขึ้นรถเมล์กลับไปที่เมืองพิษณุโลกทันที
“ปาฏิหาริย์ยามบ่าย” เมื่อพ่อกลับมาถึงแล้วพบว่าทารกน้อยยังไม่สิ้นใจ จึงรีบนำอาหารผสมสูตรหมอวันดีใส่ปากรักษาทารกน้อยตามโพยหมอ แม้ยังไม่เห็นผลทันตา แต่ทารกก็ยังไม่จากไป พ่อจดทุกอากัปกิริยาของทารกน้อย ก่อนจะรีบโบกรถข้ามจังหวัดกลับไปไซส์งานเพื่อโทรศัพท์ไปหาหมอ
การเทียวไปเทียวมา 2 จังหวัดเพื่อรักษาผ่านทางโทรศัพท์ได้เริ่มต้นขึ้นทุก 7 โมงเช้าของทุกวัน ตลอด 3 เดือน แพทย์หญิงวันดีจะใช้เวลาทุกเช้าก่อนเข้างานรอรับสายโทรศัพท์จากพ่อ เพื่อติดตามรักษาอาการและปรับเปลี่ยนสูตรผสมอาหารตามอาการ จนทารกน้อยดีวันดีคืน ผิวหนังที่เหี่ยวก็กลับมาเต่งตึง
กระทั่งปลายเดือน ม.ค.1994 พ่อรายงานอาการของทารกน้อยให้หมอวันดีฟังอย่างเช่นทุกๆ วัน ก่อนเสียงปลายสายของหมอตอบกลับว่า “ยินดีด้วยนะลูกคุณหายแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้