ด่วน! ‘ครม.‘ ส่งความเห็นถึง ‘แบงก์ชาติ’ อีกรอบ จี้ กนง.ลดดอกเบี้ย

กระทู้สนทนา

https://www.facebook.com/bangkokbiznews/posts/1051636170335302

เป็นอีกประเด็นที่ต้องจับตา หลังจากในวันนี้ (25 ก.พ. 68) ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการส่งหนังสือถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แสดงความเห็นเกี่ยวกับการทำนโยบายการเงิน ที่ต้องคำนึงถึงเป้าหมายกรอบเงินเฟ้อที่ 1-3% รวมถึงจะต้องสอดคล้องกับนโยบายทางการคลังด้วย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในปี 2568
 
นโยบายการเงินและการคลังต้องสอดประสาน
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า รัฐบาลคาดหวังให้การปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 26 ก.พ. นี้ กนง.จะพิจารณาการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง โดยรัฐบาลตั้งเป้าให้การลดดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 1-3% ซึ่งเป็นกรอบที่รัฐบาลตั้งไว้ และอัตราเงินเฟ้อของไทยได้อยู่ในระดับต่ำมากมานาน
นอกจากนี้ นายเผ่าภูมิยังย้ำว่า นโยบายการเงินและการคลังต้องทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มแรงส่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน
“นโยบายการเงินและการคลังไม่สามารถทำงานขาเดียวได้ เราต้องประสานการทำงานระหว่างทั้งสองภาคส่วน เพื่อสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอย่างมีพลังให้ฟื้นตัวและเติบโต ดังนั้นทั้ง 2 ขาต้องช่วยกัน”

ลดดอกเบี้ย ค่อยเป็นค่อยไป
นายเผ่าภูมิได้ระบุว่า แม้ว่ารัฐบาลคาดหวังให้กนง.ปรับลดดอกเบี้ย แต่ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องลดลงในระดับเท่าไหร่ เพราะต้องยอมรับว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแต่ละครั้ง มีส่วนสำคัญและเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจค่อนข้างมาก โดยช่วยให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจเคลื่อนตัวได้ แต่การลดดอกเบี้ยต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆ ด้าน เช่น อัตราเงินเฟ้อ, อัตราแลกเปลี่ยน และการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยจะต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้สามารถติดตามผลกระทบและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
“เห็นได้จากผลที่เกิดขึ้นจากการปรับลดดอกเบี้ยครั้งก่อนที่ลดลง 0.25% มีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมและช่วยให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ดีขึ้น”
มุมมองจากสภาพัฒน์
แม้ว่าสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ จะเสนอให้กนง.คงอัตราดอกเบี้ยไว้เพื่อเก็บกระสุนไว้พร้อมในการรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคต แต่นายเผ่าภูมิมองว่า ปัจจุบันไทยยังมีช่องว่างในนโยบายการเงินที่สามารถลดดอกเบี้ยได้อีก ซึ่งการลดดอกเบี้ยในเวลานี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดียิ่งขึ้น
เราไม่ต้องประหยัดมากเกินไป ช่องว่างทางนโยบายการเงินของเรายังมีเหลือเฟือ ไม่ต้องประหบัดมาก ขณะเดียวอัตราเงินเฟ้อของไทยในปัจจุบันซึ่งอยู่ในระดับต่ำมานาน และยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับว่าเงินเฟ้อของไทยต่ำมาก และต่ำเกินไป หากทำอะไรช้าเกินไปอาจไม่ทันการณ์
การส่งหนังสือถึงธปท.เป็นครั้งที่ 2
การส่งหนังสือถึงธปท.ในครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการครั้งที่ 2 ภายใต้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งรัฐบาลได้ส่งสัญญาณให้ธปท.พิจารณาการลดดอกเบี้ย โดยคำนึงถึงกรอบเงินเฟ้อที่ตั้งไว้และความสอดคล้องกับนโยบายการคลัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
https://www.posttoday.com/business/720080

ถ้าไม่ลด set น่าจะไม่รอดหลุด 1,200
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่