- ประเด็นที่ 1 : เราจะท้าวความก่อนว่าทางบ้านเราได้เข้าไปเซ้งกิจการต่อญาติตั้งราคาไว้จำนวนหนึ่ง แต่ทางเราได้ชำระไปแค่จำนวนครึ่งหนึ่ง เท่ากับหุ้นส่วนกันไหมค่ะ?
- ประเด็นที่ 2 : คนลงทุนตอนแรกเป็นแม่เราให้เราลงงานแทน แต่แม่กับทางญาติเราเกิดปัญหากันเลยเป็นเรามารับช่วงแทน
*แต่เราไม่ได้มีเงินเยอะเท่าแม่เรามีการของผ่อนส่วนที่เหลือแบบรายปี
ในส่วนของเรา ค่อยข้างจะใช้ใจแลกใจอยู่เราไม่สอบถามจำนวนการขายต่อวัน(ทางนั้นค่อนข้างยืนยันว่าเขาไม่โกงไม่ต้องแจ้งก็ได้ ช่วงแรกเราให้เขาแจ้งซึ่งค่อยข้างเบียดประเด็น)
*ล่าสุดเกิดการคุยกันว่าผ่อนรายเดือนได้ไหม? ซึ่งเราคำนวนมันไม่ค่อยคุ้มกับแรงที่เราเสียไป ตอนนี่เราอายุที่อยากเก็บเงินซึ่งระยะเวลาที่ผ่อนคือ 2 ปี แต่ทางนั้นเคยพูดประมาณนั้นว่าหลังจากยกกิจการให้แล้วอีก 2 ปีติองส่งเงินให้จำนวน.... อารมณ์เหมือนว่าเราทดแทนบุญคุณ
*ในความคิดเราคือ เอาเรามาฝึกทำงานเงินเดือนปกติแล้วให้เราส่งให้ใช้รายเดือนหลังจากยกกิจการให้ เราโอเคน่ะในกรณีนี้ ถึงทางแม่เราจะจ่ายไปครึ่งนึงแล้วก็ตาม แต่ในส่วนผัญหามันคือของทางผู้ใหญ่
แต่นี้เราเราต้องจ่ายค่าเซ้งและถ้าทำข้อตกลงต่างๆอีก รายได้ที่เข้าก็ไม่ชัดเจน ตอนนี่อะไรที่ต้องลงทุนในร้านเราจ่ายครึ่งนึง อาทิ อย่างลูกจ้างตอนนี้ใช้เงินกองกลางจ่าย แต่ถ้าอยากขยายกิจการแล้วต้องจ้างลูกจ้างเพิ่มคือต้องเอาเงินส่วนของเราจ่าย ตอนนี้เราปล่อยกิจการนิ่งๆเลยไม่ขยับขยายอะไรเพิ่มเพรารู้สึกเสียเปรียบ แต่การทำงานดูแลเราที่เด็กกว่าญาติเราดูแลดีไม่แย่
*เรารู้สึกว่าเหมือนมาเป็นแรงงานไม่ใช่หุ้นส่วน มีการปรึกษากับแม่แล้วว่าจะยังไงต่อซึ่งแม่เราให้เราทิ้งเงินส่วนนั้นไปเลย
แต่เราอยากจ้างลูกจ้างแล้วหาลงทุนอะไรเองถึงรายได้จะได้ไม่เท่านี้แต่ไม่รู้สึกอึดอัด เพื่อเลี้ยงกิจการไว้แล้วเมื่อครบกำหนดเรารับช่วงต่อ จะดูน่าเกลียดไหมค่ะ
เรารู้สึกว่า 2 ปีถ้าเราทำแบบนี้จะมีเงินเก็บเยอะกว่าและสบายใจกว่า
คิดแบบนี้ผิดมาไหมค่ะ จะเนรคุณกับทางญาติไหมค่ะ อยากถามความคิดเห็นค่ะ
การเซ้งกิจการถ้ามีแนวทางไปเชิงลบทำยังไงดี? #เซ้งกิจการ #ทำธุรกิจ #ครอบครัว
- ประเด็นที่ 2 : คนลงทุนตอนแรกเป็นแม่เราให้เราลงงานแทน แต่แม่กับทางญาติเราเกิดปัญหากันเลยเป็นเรามารับช่วงแทน
*แต่เราไม่ได้มีเงินเยอะเท่าแม่เรามีการของผ่อนส่วนที่เหลือแบบรายปี
ในส่วนของเรา ค่อยข้างจะใช้ใจแลกใจอยู่เราไม่สอบถามจำนวนการขายต่อวัน(ทางนั้นค่อนข้างยืนยันว่าเขาไม่โกงไม่ต้องแจ้งก็ได้ ช่วงแรกเราให้เขาแจ้งซึ่งค่อยข้างเบียดประเด็น)
*ล่าสุดเกิดการคุยกันว่าผ่อนรายเดือนได้ไหม? ซึ่งเราคำนวนมันไม่ค่อยคุ้มกับแรงที่เราเสียไป ตอนนี่เราอายุที่อยากเก็บเงินซึ่งระยะเวลาที่ผ่อนคือ 2 ปี แต่ทางนั้นเคยพูดประมาณนั้นว่าหลังจากยกกิจการให้แล้วอีก 2 ปีติองส่งเงินให้จำนวน.... อารมณ์เหมือนว่าเราทดแทนบุญคุณ
*ในความคิดเราคือ เอาเรามาฝึกทำงานเงินเดือนปกติแล้วให้เราส่งให้ใช้รายเดือนหลังจากยกกิจการให้ เราโอเคน่ะในกรณีนี้ ถึงทางแม่เราจะจ่ายไปครึ่งนึงแล้วก็ตาม แต่ในส่วนผัญหามันคือของทางผู้ใหญ่
แต่นี้เราเราต้องจ่ายค่าเซ้งและถ้าทำข้อตกลงต่างๆอีก รายได้ที่เข้าก็ไม่ชัดเจน ตอนนี่อะไรที่ต้องลงทุนในร้านเราจ่ายครึ่งนึง อาทิ อย่างลูกจ้างตอนนี้ใช้เงินกองกลางจ่าย แต่ถ้าอยากขยายกิจการแล้วต้องจ้างลูกจ้างเพิ่มคือต้องเอาเงินส่วนของเราจ่าย ตอนนี้เราปล่อยกิจการนิ่งๆเลยไม่ขยับขยายอะไรเพิ่มเพรารู้สึกเสียเปรียบ แต่การทำงานดูแลเราที่เด็กกว่าญาติเราดูแลดีไม่แย่
*เรารู้สึกว่าเหมือนมาเป็นแรงงานไม่ใช่หุ้นส่วน มีการปรึกษากับแม่แล้วว่าจะยังไงต่อซึ่งแม่เราให้เราทิ้งเงินส่วนนั้นไปเลย
แต่เราอยากจ้างลูกจ้างแล้วหาลงทุนอะไรเองถึงรายได้จะได้ไม่เท่านี้แต่ไม่รู้สึกอึดอัด เพื่อเลี้ยงกิจการไว้แล้วเมื่อครบกำหนดเรารับช่วงต่อ จะดูน่าเกลียดไหมค่ะ
เรารู้สึกว่า 2 ปีถ้าเราทำแบบนี้จะมีเงินเก็บเยอะกว่าและสบายใจกว่า
คิดแบบนี้ผิดมาไหมค่ะ จะเนรคุณกับทางญาติไหมค่ะ อยากถามความคิดเห็นค่ะ