ราคากาแฟและอาหารปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลกในปี 2025
พึ่งขายเมล็ดกาแฟกะลา "อาราบิก้า"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กิโลกรัมละ 195 บาท



ราคากาแฟทั่วโลกพุ่งขึ้นกว่า 103% เนื่องจากปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในบราซิลและเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุด ส่งผลให้การผลิตลดลงอย่างชัดเจน คาดว่าในปี 2025 ราคากาแฟจะสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ สินค้าอาหารอื่นๆ อย่างน้ำส้ม เนย และเนื้อวัว ก็มีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศยังส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ทำให้ผลผลิตจากหลายประเทศลดลงและราคาสินค้าอาหารสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและภาคธุรกิจอย่างหนัก การวิจัยระบุว่าในอีกสิบปีข้างหน้า ราคาของอาหารอาจเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.9-3.2% ซึ่งเป็นผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวน
การรับมือกับวิกฤตนี้จึงต้องเร่งการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขณะเดียวกัน การเจรจาระหว่างประเทศในอนาคต เช่น การประชุม COP29 ก็จะเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นนี้
https://www.facebook.com/share/p/1CGDmDVERF/
พึ่งขายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคากาแฟและอาหารปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลกในปี 2025
พึ่งขายเมล็ดกาแฟกะลา "อาราบิก้า"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กิโลกรัมละ 195 บาท
ราคากาแฟทั่วโลกพุ่งขึ้นกว่า 103% เนื่องจากปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในบราซิลและเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุด ส่งผลให้การผลิตลดลงอย่างชัดเจน คาดว่าในปี 2025 ราคากาแฟจะสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ สินค้าอาหารอื่นๆ อย่างน้ำส้ม เนย และเนื้อวัว ก็มีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศยังส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ทำให้ผลผลิตจากหลายประเทศลดลงและราคาสินค้าอาหารสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและภาคธุรกิจอย่างหนัก การวิจัยระบุว่าในอีกสิบปีข้างหน้า ราคาของอาหารอาจเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.9-3.2% ซึ่งเป็นผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวน
การรับมือกับวิกฤตนี้จึงต้องเร่งการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขณะเดียวกัน การเจรจาระหว่างประเทศในอนาคต เช่น การประชุม COP29 ก็จะเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นนี้
https://www.facebook.com/share/p/1CGDmDVERF/