ChatGPT ผู้ใช้แตะ 400 ล้าน OpenAI เตรียมปล่อยGPT-5 มีลุ้นโอเพนซอร์ส
bangkokbiznews.com
ผู้ใช้ ChatGPT พุ่ง 400 ล้าน! OpenAI เตรียมเปิดตัว GPT-5 รวมโมเดลภาษาและการวิเคราะห์ พร้อมพิจารณาโมเดลโอเพนซอร์ส และยังยืนยันไม่ขายกิจการให้มัสก์

แบรด ไลท์แคป (Brad Lightcap) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Open AI ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า บริษัทกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วแม้จะเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นในอุตสาหกรรมเอไอ โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งาน ChatGPT ประจำ ทะลุ 400 ล้านคน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เพิ่มขึ้น 33% จาก 300 ล้านคนจากเดือนธันวาคม 2567
อย่างไรก็ตาม ยอดของผู้สมัครสมาชิกแบบองค์กรยังเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านราย ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเดือนกันยายน 2567 ไลท์แคปชี้ว่า “พนักงานส่วนใหญ่มักจะเริ่มใช้ ChatGPT ในระดับส่วนตัวก่อน แล้วจึงแนะนำให้บริษัทของตนนำเครื่องมือเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในองค์กร”
เตรียมเปิดตัว GPT-5 พัฒนาสู่เอเจนต์เอไอ
ไลท์แคปยังประกาศแผนที่จะปล่อย GPT-4.5 และ GPT-5 โดยเปิดเผยว่า GPT-5 จะเป็นการผสานรวมความสามารถระหว่างโมเดล GPT กับซีรีส์ o เข้าด้วยกัน แทนที่จะแยกพัฒนาเป็นสองโมเดลแบบที่ผ่านมา (ซึ่ง GPT ใช้สำหรับการสนทนา ส่วน o-series เน้นด้านการวิเคราะห์)
“เรากำลังจะรวมความสามารถทั้งสองเข้าด้วยกันเป็นโมเดลเดียว” ไลท์แคปกล่าว พร้อมเผยว่า จะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานได้ฟรีแบบไม่จำกัด ในขณะที่ผู้ใช้แบบเสียเงิน (Plus) จะได้รับสิทธิพิเศษในการใช้งานโมเดลที่ระดับสติปัญญาที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ การเติบโตของโมเดลแบบให้เหตุผล (Reasoning) ก็มียอดการใช้งาน API เพิ่มขึ้น 5 เท่า หลังจากเปิดตัว o3-mini ไลท์แคปจึงสรุปได้ว่า ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์นิยมใช้โมเดลเหล่านี้ในงานที่ต้องการการวิเคราะห์ซับซ้อนมากขึ้น โดยปัจจุบัน OpenAI มีลูกค้าองค์กรชั้นนำอย่าง Uber, Morgan Stanley, Moderna และ T-Mobile
ไลท์แคปได้เปรียบเทียบรูปแบบการเติบโตนี้กับการเติบโตของบริการคลาวด์ที่ Amazon Web Services บุกเบิกเมื่อสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยอธิบายว่า แม้ธุรกิจในภาคผู้บริโภคอาจเติบโตได้เร็วกว่าเนื่องจากผู้คนสามารถนำไปใช้ได้ทันทีตามความต้องการ แต่ธุรกิจภาคองค์กรก็กำลังอยู่ในกระบวนการเติบโตที่มั่นคงเช่นกัน
ทาง Open AI มีแผนที่จะพัฒนาเอไอให้ทำงานในรูปแบบของผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถทำงานหลายขั้นตอนได้อย่างอิสระ เช่น การค้นหาข้อมูล วางแผน และดำเนินการต่างๆ ด้วยตัวเอง แทนที่จะเป็นเพียงโมเดลที่ตอบคำถามหรือโต้ตอบแบบเดิม ซึ่งความสามารถนี้เรียกว่า “ความสามารถด้านเอเจนต์ (Agent capabilities)”
ขณะเดียวกัน แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI กำลังพิจารณาว่าบริษัทควรจะพัฒนาโมเดลเอไอในรูปแบบเปิดเผยซอร์สโค้ด (Open Source) หรือไม่ โดยเขาได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่าพวกเขาต้องการโมเดลระดับ o3-mini ที่ต้องใช้การ์ดจอประมวลผล หรือต้องการโมเดลขนาดเล็กที่สามารถทำงานบนโทรศัพท์มือถือมากกว่า
มุมมองต่อการแข่งขันในตลาดเอไอ
แม้ว่า OpenAI จะเผชิญกับแรงกดดันจากคู่แข่งหน้าใหม่อย่าง DeepSeek จากประเทศจีน ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดหุ้นเทคโนโลยีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ไลท์แคปยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “OpenAI ไม่ได้เปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงานแต่อย่างใด”
สถานการณ์การแข่งขันในวงการเอไอยังคงดุเดือดอย่างต่อเนื่อง โดย xAI ได้เปิดตัว Grok-3 ให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานได้ฟรี จนสามารถขึ้นแท่นเป็นแอปพลิเคชันอันดับหนึ่งบนแอปสโตร์ แซงหน้าทั้ง ChatGPT และ DeepSeek
นอกจากนี้ ผลการทดสอบจากหน่วยงานอิสระยังพบว่า Grok 3 สามารถทำคะแนนเหนือกว่า Google Gemini 2 Pro, DeepSeek V3, Claude 3.5 Sonnet และ GPT-4 ในหลายการทดสอบอีกด้วย
เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับข้อพิพาทกับ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ที่ยื่นข้อเสนอซื้อสินทรัพย์ของ OpenAI ในมูลค่าสูงถึง 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์ ไลท์แคปตอบอย่างกระชับว่า “มัสก์เป็นคู่แข่งของเรา เขากำลังแข่งขันกับเรา เพียงแต่เขาใช้วิธีที่แปลกประหลาดเท่านั้นเอง” ในขณะที่ทาง OpenAI ได้ยืนยันจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “บริษัทไม่มีความประสงค์ที่จะขาย”
ChatGPT ผู้ใช้แตะ 400 ล้าน OpenAI เตรียมปล่อย GPT-5 *มีลุ้นโอเพนซอร์ส(ฟรี)*
bangkokbiznews.com
ผู้ใช้ ChatGPT พุ่ง 400 ล้าน! OpenAI เตรียมเปิดตัว GPT-5 รวมโมเดลภาษาและการวิเคราะห์ พร้อมพิจารณาโมเดลโอเพนซอร์ส และยังยืนยันไม่ขายกิจการให้มัสก์
แบรด ไลท์แคป (Brad Lightcap) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Open AI ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า บริษัทกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วแม้จะเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นในอุตสาหกรรมเอไอ โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งาน ChatGPT ประจำ ทะลุ 400 ล้านคน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เพิ่มขึ้น 33% จาก 300 ล้านคนจากเดือนธันวาคม 2567
อย่างไรก็ตาม ยอดของผู้สมัครสมาชิกแบบองค์กรยังเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านราย ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเดือนกันยายน 2567 ไลท์แคปชี้ว่า “พนักงานส่วนใหญ่มักจะเริ่มใช้ ChatGPT ในระดับส่วนตัวก่อน แล้วจึงแนะนำให้บริษัทของตนนำเครื่องมือเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในองค์กร”
เตรียมเปิดตัว GPT-5 พัฒนาสู่เอเจนต์เอไอ
ไลท์แคปยังประกาศแผนที่จะปล่อย GPT-4.5 และ GPT-5 โดยเปิดเผยว่า GPT-5 จะเป็นการผสานรวมความสามารถระหว่างโมเดล GPT กับซีรีส์ o เข้าด้วยกัน แทนที่จะแยกพัฒนาเป็นสองโมเดลแบบที่ผ่านมา (ซึ่ง GPT ใช้สำหรับการสนทนา ส่วน o-series เน้นด้านการวิเคราะห์)
“เรากำลังจะรวมความสามารถทั้งสองเข้าด้วยกันเป็นโมเดลเดียว” ไลท์แคปกล่าว พร้อมเผยว่า จะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานได้ฟรีแบบไม่จำกัด ในขณะที่ผู้ใช้แบบเสียเงิน (Plus) จะได้รับสิทธิพิเศษในการใช้งานโมเดลที่ระดับสติปัญญาที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ การเติบโตของโมเดลแบบให้เหตุผล (Reasoning) ก็มียอดการใช้งาน API เพิ่มขึ้น 5 เท่า หลังจากเปิดตัว o3-mini ไลท์แคปจึงสรุปได้ว่า ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์นิยมใช้โมเดลเหล่านี้ในงานที่ต้องการการวิเคราะห์ซับซ้อนมากขึ้น โดยปัจจุบัน OpenAI มีลูกค้าองค์กรชั้นนำอย่าง Uber, Morgan Stanley, Moderna และ T-Mobile
ไลท์แคปได้เปรียบเทียบรูปแบบการเติบโตนี้กับการเติบโตของบริการคลาวด์ที่ Amazon Web Services บุกเบิกเมื่อสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยอธิบายว่า แม้ธุรกิจในภาคผู้บริโภคอาจเติบโตได้เร็วกว่าเนื่องจากผู้คนสามารถนำไปใช้ได้ทันทีตามความต้องการ แต่ธุรกิจภาคองค์กรก็กำลังอยู่ในกระบวนการเติบโตที่มั่นคงเช่นกัน
ทาง Open AI มีแผนที่จะพัฒนาเอไอให้ทำงานในรูปแบบของผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถทำงานหลายขั้นตอนได้อย่างอิสระ เช่น การค้นหาข้อมูล วางแผน และดำเนินการต่างๆ ด้วยตัวเอง แทนที่จะเป็นเพียงโมเดลที่ตอบคำถามหรือโต้ตอบแบบเดิม ซึ่งความสามารถนี้เรียกว่า “ความสามารถด้านเอเจนต์ (Agent capabilities)”
ขณะเดียวกัน แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI กำลังพิจารณาว่าบริษัทควรจะพัฒนาโมเดลเอไอในรูปแบบเปิดเผยซอร์สโค้ด (Open Source) หรือไม่ โดยเขาได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่าพวกเขาต้องการโมเดลระดับ o3-mini ที่ต้องใช้การ์ดจอประมวลผล หรือต้องการโมเดลขนาดเล็กที่สามารถทำงานบนโทรศัพท์มือถือมากกว่า
มุมมองต่อการแข่งขันในตลาดเอไอ
แม้ว่า OpenAI จะเผชิญกับแรงกดดันจากคู่แข่งหน้าใหม่อย่าง DeepSeek จากประเทศจีน ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดหุ้นเทคโนโลยีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ไลท์แคปยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “OpenAI ไม่ได้เปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงานแต่อย่างใด”
สถานการณ์การแข่งขันในวงการเอไอยังคงดุเดือดอย่างต่อเนื่อง โดย xAI ได้เปิดตัว Grok-3 ให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานได้ฟรี จนสามารถขึ้นแท่นเป็นแอปพลิเคชันอันดับหนึ่งบนแอปสโตร์ แซงหน้าทั้ง ChatGPT และ DeepSeek
นอกจากนี้ ผลการทดสอบจากหน่วยงานอิสระยังพบว่า Grok 3 สามารถทำคะแนนเหนือกว่า Google Gemini 2 Pro, DeepSeek V3, Claude 3.5 Sonnet และ GPT-4 ในหลายการทดสอบอีกด้วย
เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับข้อพิพาทกับ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ที่ยื่นข้อเสนอซื้อสินทรัพย์ของ OpenAI ในมูลค่าสูงถึง 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์ ไลท์แคปตอบอย่างกระชับว่า “มัสก์เป็นคู่แข่งของเรา เขากำลังแข่งขันกับเรา เพียงแต่เขาใช้วิธีที่แปลกประหลาดเท่านั้นเอง” ในขณะที่ทาง OpenAI ได้ยืนยันจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “บริษัทไม่มีความประสงค์ที่จะขาย”