JJNY : ไอซ์รักชนก แฉบอร์ดแพทย์│วิโรจน์โล่ง หลังแจง ป.ป.ช.│"วิโรจน์" เผยมีสว.ร่วมถอดถอน "ปธ.ป.ป.ช." │"IMF" ชี้ศก.ไทยโตช้า

ไอซ์รักชนก แฉบอร์ดแพทย์ สปส.จ่อบินอิตาลีทิ้งทวน พิพัฒน์ เชื่อไปดูงาน ไม่ใช่เที่ยว
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9643689
 
 
ไอซ์รักชนก กระซิบบอก ‘พิพัฒน์’ บอร์ดแพทย์ สำนักงานประกันสังคม จ่อบินอิตาลี ทิ้งทวนก่อนหมดวาระ เจ้ากระทรวงมั่นใจ ไปดูงาน ไม่ใช่เที่ยว
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ ดำเนินรายการโดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน และไอซ์ รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน ร่วมรายการ
 
ช่วงหนึ่งมีการพูดถึงการใช้งบประมาณของคณะกรรมการการแพทย์ (บอร์ดแพทย์) สำนักงานประกันสังคม เดินทางไปศึกษาดูงานในประเทศอังกฤษและสกอตแลนด์ โดยเข้าพักในโรงแรม Hilton manchester deansgate ระหว่างวันที่ 16-22 ส.ค.2566
 
น.ส.รักชนก กล่าวว่า ตนเชื่อว่าผู้ประกันตนสงสัย รู้แล้วว่าหมายกำหนดการเป็นแบบนี้ ตนไม่สงสัยแล้ว แต่เห็นแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับการดูงานของสส.ตนว่าแปลกๆ เพราะ สส.เราก็โดนด่าเรื่องดูงาน เราเลยทำให้ไม่มีวันว่างเลย เพราะถ้าเปิดหมายออกมาแล้วจะโดนวิพากษ์วิจารณ์ เราก็ดูงานเช้ากลางวันเย็น แต่อันนี้คือว่าง 3 วัน สรุปงาน 3 วัน กลับมาสรุปที่ไทยได้หรือไม่ จะได้ไม่ต้องเสียค่าที่พัก

ดิฉันจึงขอฟ้องท่านรัฐมนตรีว่า มีการนำเงินผู้ประกันตนไปใช้แบบนี้ ท่านรัฐมนตรีจะไปออกนโยบายกับบอร์ดแพทย์หรือไม่ ว่าให้เบาๆ หน่อย เพราะล่าสุดได้ข้อมูลว่าจะทิ้งทวนวาระด้วยการไปอิตาลี มีการพูดว่าจะเป็นการให้ของขวัญการทำงานของบอร์ดแพทย์ชุดนี้” น.ส.รักชนก กล่าว
 
ด้านนายพิพัฒน์ กล่าวว่า การตรวจสอบตรงนี้ ตนขอดูรายละเอียด ซึ่งทางบอร์ดแพทยังส่งมาให้ไม่หมด ตนไม่อยากไปสาธยายว่า 5-6 วันที่ไปดูงานไปทำงานอะไรบ้าง ก็เห็นตามตารางที่ สส.นำมาให้ดู
 
น.ส.รักชนก จึงถามว่าแล้วท่านว่าเหมาะสมหรือไม่
 
นายพิพัฒน์ กล่าวตอบว่า เหมาะสมหรือไม่ต้องไปดูไส้ในว่าการที่เขาลงตารางไว้ เนื้อในอาจจะมีรายละเอียด เพราะการดูงาน เข้าอาจดู 1 ชั่วโมง แล้วอาจถูกคั่นดูระยะเวลาของการเดินทาง แล้วนำผลมาสรุปว่าสิ่งที่เราไปดูมาในวันนี้มันมีอะไรที่เราสามารถนำกลับไปพัฒนา
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่น.ส.รักชนก เสนอว่านำมาสรุปที่กรุงเทพฯ ก็ได้ นายพิพัฒน์ ตอบว่า “ไม่ครับ อีกส่วนหนึ่งต้องทำในเอกสารฉบับเต็ม แต่ถ้าอยู่ในสถานที่ มีเวลาว่าง คุณจะใช้เวลาว่าง ถ้าไม่งั้นก็จะหาว่าเอาเวลาว่างไปชอปปิง ก็เอาเวลานั้นมาทำการสรุปแต่ละเรื่องไป แต่ผมคิดว่าการไปดูงาน ไม่ว่างานมากหรือน้อย ผมเชื่อว่าได้ประโยชน์ ซึ่งอย่างที่ท่านสส.บอกว่า ไปดูงานแล้วเกี่ยวอะไรกับการลงทุน”
 
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า แต่นี่คือสิ่งที่เป็นเป้าหมายที่เราต้องการแทรกเข้าไป เพราะกองทุนฯ มีการลงทุนในบริษัททั่วโลก เราก็ควรไปพบเขาเพื่อให้นำเสนอว่าสิ่งที่เราลงทุนไปเป็นอย่างไร เพื่อพิจารณาในการลงทุนเพิ่มเติม
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าบอร์ดแพทย์ จะต้องพิจารณาการลงทุนอะไร นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เขาไปด้วย เขาเป็นหัวหน้าคณะไป และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน ร่วมคณะไปด้วย ฉะนั้น ในสิ่งต่างๆ เมื่อไปแล้ว เราจะไม่เอาเวลาที่เหลืออยู่บางเวลา เชิญเขามานำเสนอให้เราฟังหารือไม่ แล้วก็นำกลับมาสรุปในเมืองไทยอีกครั้ง แล้วนำเสนอในบอร์ดใหญ่
 
ด้านน.ส.รักชนกกล่าวว่า “ดิฉันจะบอกท่านรัฐมนตรีว่า สรุปการศึกษาดูงาน มันก็คือชอปปิง คือเวลาว่าง ท่านอาจว่าไม่ใช่ แต่ดิฉันตั้งข้อสังเกตว่า เวลาว่าง เขาจะเอาไปทำอะไรก็ได้ ถ้าจะประชุมก็ใส่ในหมายได้ แต่จริงๆ แล้วการสรุปงาน ดิฉันกระซิบบอกท่านรัฐมนตรีว่ามันคือเวลาว่าง ท่านไม่ต้องแก้ตัวแทนเขา
 
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนเข้าใจในสิ่งที่ท่านพูด แต่ผมกำลังกลัวว่าผู้ประกันตน จะเข้าใจผิดคำว่าการไปดูงานคือการไปเที่ยว ไปชอปปิง ตรงนี้ก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะหากมีเวลาว่างกลับจากดูงาน แล้วห้างสรรพสินค้ายังเปิด ก็ไปได้ ไม่ใช่เหมาว่าการที่ไป คือไปเที่ยว ไปชอปปิง มันไม่ใช่ การบอร์ดแพทย์ที่ไปอาจมีตัวแทนของ รพ.เอกชน ที่เรายอมรับเขาในบอร์ด ดังนั้น ก็เป็นสิทธิของเขาที่เบาจะไปทำหน้าที่ของเขา
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าท่านรัฐมนตรีไม่เชื่อใช่หรือไม่ว่าเวลาว่างคือเวลาไปเที่ยว นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ไม่ใช่การไปเที่ยว เชื่อว่าคนที่ไปดูงานทุกคณะ ต้องมีเวลาว่างถึงไปเที่ยว แต่มีองค์ประกอบของงานที่จะต้องเป็นเวลา เวลาของงานนั่นเป็นสิทธิ์
 
น.ส.รักชนก กล่าวว่า วันนี้ตนอยากมาปกป้องรัฐมนตรี ถ้าหลายอย่างไม่ใช่รัฐมนตรีตัดสินใจ แต่ตนนำข้อมูลมาให้รัฐมนตรีเห็นว่า มันเกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นจากการใช้งบประมาณของประกันสังคม
 
รมว.แรงงาน กล่าวว่า “การดูงานของบอร์ดแพทย์ ผมไม่ขอไม่ก้าวล่วงส่วนนั้น แต่ถ้าลงรายละเอียดจริงๆ โดยเฉพาะบอร์ดแพทย์ที่เป็นวิชาชีพเฉพาะ และเชื่อว่าการดูงาน มีการพัฒนาตลอดเวลา งานวันนี้ก็เป็นการพัฒนาจากชุดก่อนๆ
 

 
วิโรจน์ โล่ง หลังแจง ป.ป.ช. 2 ชม. ปมแก้ ม.112 ลั่นเจตนาบริสุทธิ์
https://www.matichon.co.th/politics/news_5059744

วิโรจน์ โล่ง หลังแจง ป.ป.ช. 2 ชม. ปมแก้ ม.112 ลั่นเจตนาบริสุทธิ์ให้สัมภาษณ์สื่อ มั่นใจ หาก 25 ส.ส.ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่อาจชะงักบ้างแต่ก็ไปต่อได้เพราะปูทางไว้ดี
 
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวภายหลังการเข้ารับฟังข้อกล่าวหาคดี 44 ส.ส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ว่า เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างตน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่เข้าใจซึ่งกันและกัน สำหรับข้อกล่าวหาก็ไม่ได้เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
 
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การทำหน้าที่ ส.ส.ใช้อำนาจนิติบัญญัติแก้ไขกฎหมาย ม.112 ซึ่งข้อกล่าวหาก็เน้นไปที่การแก้ไขเนื้อหาสาระของกฎหมายเป็นหลัก ดังนั้น ในกรณีนี้ ก็ไม่ได้กังวลใจอะไร เพราะการแก้ไขเนื้อหาสาระ มีการปรึกษากับนักกฎหมายอยู่แล้ว และเป็นการศึกษาอำนาจนิติบัญญัติโดยชอบ
 
เมื่อถามว่า มีการซักถามประเด็นอื่นด้วยหรือไม่ อย่างกรณีที่เห็นว่าเป็นกระบวนการต่อเนื่อง นายวิโรจน์ กล่าวว่า สำหรับกรณีของตนคนเดียว มีเรื่องการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ สำนักข่าว เพราะการที่เราแสดงเหตุผลอย่างเปิดเผยต่อสื่อสาธารณะ เป็นเรื่องที่เรายืนยันเจตนาสุจริตของเรามากกว่า ส่วนการให้สัมภาษณ์ของตน ก็ไม่ได้กังวลอะไร เมื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ตนก็เบาใจ
 
เมื่อถามว่า ป.ป.ช.มีการถามถึงกรณีการใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวให้กลุ่มผู้ชุมนุม ที่เคลื่อนไหวเรื่องการแก้ไข ม.112 หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่มี เรื่องหลักอยู่ที่การแก้ไข ม.112 ในส่วนเนื้อหาสาระ ซึ่งเราก็พร้อมที่จะชี้แจง รวมถึงในการยื่นญัตติ เราก็มีการระบุถึงเหตุผลในการดำเนินการอยู่แล้วเช่นกัน
 
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าเบาใจ เพราะตรงกับข้อต่อสู้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่ แต่เป็นเพราะข้อกล่าวหาที่มีความตรงไปตรงมา โดยสุดท้าย ได้มีการตรวจพยานหลักฐานจำนวน 106 แผ่น ส่วนเรื่องระยะเวลา ก็ได้หารือกับ ป.ป.ช.แล้ว ตลอดจนมีการพูดคุยกันในรายละเอียดตามข้อกล่าวหา และการชี้แจงของตน ก็มีการระบุถึงหลักฐานอ้างอิงต่างๆ ด้วย
 
เมื่อถามว่า คาดว่า ป.ป.ช.จะมัดรวมคดี หรือพิจารณาเป็นรายบุคคล นายวิโรจน์ กล่าวว่า คงคาดการณ์ลำบาก แต่มองว่าน่าจะเป็นรายบุคคล ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่า จะสามารถหักล้างได้ทุกประเด็น นายวิโรจน์ กล่าวว่า เท่าที่ดูคร่าวๆ ไม่ได้มีความกังวล และฝ่ายกฎหมายมีการแนะนำว่า ให้ชี้แจงอย่างความตรงไปตรงมา
 
เมื่อถามถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์อำนาจของ ป.ป.ช. นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นหนึ่งในหน้าที่ของ ส.ส.อยู่แล้ว เชื่อว่าหากมีใบสั่ง หรืออะไรไม่ชอบมาพากลตามที่กังวลกัน ข้าราชการคงไม่ทำ
 
เมื่อถามว่า หาก 25 ส.ส.ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะกระทบต่องานสภา และการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องการปรับระบบรูปแบบการทำงาน ทำมาตั้งแต่สมัยพรรค ก้าวไกลแล้ว แต่เดิม ส.ส.ของเราบางคนมักจะทำงานแบบฉายเดี่ยวหมื่นลี้ ตอนนี้มาทำงานเป็นทีมแล้ว ก็ต้องถ่ายทอดค่ายกล จินบู๊ 7 ตัดทอน ของสำนักบู๊ตึ๊ง หมายความว่าหากมีความจำเป็นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จริง ก็จะมีช่วงรอยต่อ ถ้าเราทำตอนต้นไว้ดี การไปต่อสุดทางคงไม่ยาก แต่การที่มีใครหายไป อาจทำให้มีการชะงักเล็กน้อย ยืนยันว่า สามารถไปต่อได้แน่นอน



"วิโรจน์" เผยมีสว.ร่วมลงชื่อยื่นถอดถอน "ประธาน ป.ป.ช." ยันไม่เกี่ยวปมถูกสอบคดี 44 สส.
https://siamrath.co.th/n/602824

วันที่ 21 ก.พ. 68 ที่สำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พรรคประชาชน มีการรวบรวมรายชื่อเสนอถอดถอน นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ออกจากตำแหน่ง และการถูกตรวจสอบเรื่องคดี 44 สส. จะไม่ทำให้เรื่องนี้สะดุดใช่หรือไม่ ว่า เป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญของสมาชิกรัฐสภา ตามมาตรา 236 ถอดเรื่องการถูกตรวจสอบออกจากสารบบก็ได้ หากมีเหตุการณ์ที่ประธานขององค์กร ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่นในประเทศนี้ของข้าราชการแทบทุกคนในประเทศนี้ และมีกรณีคลิปเสียงดังกล่าวเกิดขึ้น จะไม่ให้สงสัยเลยก็ไม่ได้อยู่แล้ว และยิ่งไปพบกับประธานรัฐสภา เพราะฉะนั้นจะให้ละเลยคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นทั้งสองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน ต่อให้ไม่มีเรื่อง 43 สส.ก็ต้องดำเนินการ
 
เมื่อถามว่า มีสส.พรรคการเมืองอื่นร่วมลงชื่อด้วยหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต้องดูรายชื่อ แต่เข้าใจว่าจะมีสว.จำนวนหนึ่ง มาร่วมลงชื่อด้วยเช่นกัน เพราะเป็นสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา และเป็นผลดีกับทุกฝ่าย เพราะบุคคลในคลิปจะได้มีโอกาสชี้แจง ว่าประโยคที่พูดสื่อถึงอะไร เราก็ไม่อยากให้สังคมตีความไปเอง เพราะฉะนั้นควรตรวจสอบเรื่องนี้อย่างโปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรม ตามสโลแกนของป.ป.ช.เป็นเรื่องที่ดีที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่