วิธีเลี้ยงหอยขมยักษ์ – การดูแล, อาหาร, และการเพาะพันธุ์
หอยขมยักษ์เป็นหอยน้ำจืดที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว
และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในแง่อาหารและเศรษฐกิจ

หากต้องการเลี้ยงเพื่อบริโภคหรือเพาะพันธุ์ขาย ควรมีการเตรียมบ่อที่เหมาะสม และดูแลตามหลักที่ถูกต้อง
1. การเตรียมบ่อเลี้ยงหอยขมยักษ์
✅ ประเภทบ่อที่เหมาะสม
บ่อดิน: ใช้ดินเหนียวหรือดินร่วนซุย ขนาด 2×3 เมตร หรือใหญ่กว่านั้น
บ่อซีเมนต์: ใช้ขนาด 1×2 เมตร ลึก 50 ซม. หรือใช้กะละมังพลาสติกขนาดใหญ่
กระชังในแหล่งน้ำธรรมชาติ: เหมาะกับการเลี้ยงในแม่น้ำหรือบึงที่มีน้ำไหลเวียนดี
✅ การเตรียมน้ำ
ใช้น้ำสะอาดที่ไม่มีสารเคมี เช่น คลอรีนหรือยาฆ่าแมลง
ระดับน้ำควรลึก 30-50 ซม.
หมั่นเปลี่ยนน้ำบางส่วนทุก 3-5 วัน หรือใช้ระบบกรองน้ำเพื่อรักษาคุณภาพ
✅ พื้นบ่อ
ใส่โคลนหรือดินเหนียวลงไปประมาณ 10-15 ซม. เพื่อให้หอยขมฝังตัว
สามารถใส่ใบไม้แห้ง เช่น ใบตองหรือใบไผ่ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมธรรมชาติ
2. การเลือกหอยขมยักษ์สำหรับเลี้ยง
ควรเลือกหอยที่มีเปลือกแข็ง ไม่มีรอยแตกหรือเน่า
หอยควรมีขนาดใกล้เคียงกันเพื่อให้เติบโตพร้อมกัน
หลีกเลี่ยงการนำหอยจากแหล่งที่มีสารพิษมาปล่อยในบ่อ
3. อาหารของหอยขมยักษ์
✅ อาหารหลัก
เศษพืชน้ำ เช่น ผักบุ้ง, ผักกระเฉด, แหนแดง
ใบไม้ผุ เช่น ใบตองแห้ง ใบไผ่ ใบหูกวาง
ตะไคร่น้ำ และจุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นเองในบ่อ
✅ อาหารเสริม
รำข้าวละเอียด (วันละ 1 กำมือ/ตารางเมตร)
ผักต้ม เช่น ฟักทอง ตำลึง ผักกาดขาว
เศษผลไม้ เช่น กล้วย ฟักทอง แตงโม
✅ วิธีให้อาหาร
ให้อาหารวันละครั้งช่วงเย็น
ไม่ควรให้มากเกินไป เพราะจะทำให้น้ำเน่าเสีย
หากอาหารเหลือควรตักออก
4. การเพาะพันธุ์หอยขมยักษ์
✅ เงื่อนไขการผสมพันธุ์
หอยขมยักษ์สามารถผสมพันธุ์เองได้ ไม่ต้องแยกเพศ
อุณหภูมิน้ำที่เหมาะสม: 25-30°C
ต้องมีแหล่งอาหารที่สมบูรณ์
หลังจากผสมพันธุ์ หอยจะปล่อยลูกหอยขนาดเล็กออกมา (ออกลูกเป็นตัว)
✅ การดูแลลูกหอย
ควรมีพืชน้ำในบ่อเพื่อให้ลูกหอยเกาะและกินเศษอาหาร
หลีกเลี่ยงปลาหรือสัตว์น้ำอื่นที่อาจกินลูกหอย
แยกบ่อลูกหอยเมื่อเริ่มโต เพื่อป้องกันการแข่งขันอาหาร
5. การดูแลและป้องกันโรค
✅ ปัญหาที่พบบ่อย
น้ำเน่าเสีย: เกิดจากอาหารเหลือ ควรเปลี่ยนน้ำบางส่วนทุก 3-5 วัน
ศัตรูของหอย: เช่น ปลาช่อน กบ หรือสัตว์น้ำอื่นๆ ควรใช้ตาข่ายคลุมบ่อ
เชื้อราและแบคทีเรีย: หากพบว่าหอยมีอาการผิดปกติ เช่น ไม่เคลื่อนที่ หรือมีเมือกผิดปกติ ควรเปลี่ยนน้ำทันที
6. การเก็บเกี่ยวและจำหน่าย
✅ ระยะเวลาเลี้ยง
หอยขมยักษ์ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3-5 เดือน จึงโตเต็มที่
คัดขนาดหอยที่โตแล้วออกขาย ส่วนหอยเล็กสามารถเลี้ยงต่อไปได้
✅ ตลาดและราคาขาย
ขายส่งให้ร้านอาหารหรือพ่อค้าในตลาด
ขายแบบแพ็กกิโลกรัม ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและคุณภาพ
ขายในรูปแบบหอยสดหรือหอยต้มพร้อมกิน
สรุป
✅ หอยขมยักษ์เลี้ยงง่าย โตเร็ว เหมาะกับการเลี้ยงในบ่อดินหรือบ่อซีเมนต์
✅ อาหารหลักเป็นพืชน้ำ ตะไคร่น้ำ และรำข้าว
✅ ผสมพันธุ์เองได้ และออกลูกเป็นตัว
✅ ดูแลเรื่องคุณภาพน้ำและป้องกันศัตรูให้ดี
✅ สามารถเก็บเกี่ยวได้ใน 3-5 เดือน
คนไทยเข้มแข็ง พึ่งพาตนเอง ไม่ต้องเป็นทาส ตอน หอยขมยักษ์
หอยขมยักษ์เป็นหอยน้ำจืดที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว
และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในแง่อาหารและเศรษฐกิจ
หากต้องการเลี้ยงเพื่อบริโภคหรือเพาะพันธุ์ขาย ควรมีการเตรียมบ่อที่เหมาะสม และดูแลตามหลักที่ถูกต้อง
1. การเตรียมบ่อเลี้ยงหอยขมยักษ์
✅ ประเภทบ่อที่เหมาะสม
บ่อดิน: ใช้ดินเหนียวหรือดินร่วนซุย ขนาด 2×3 เมตร หรือใหญ่กว่านั้น
บ่อซีเมนต์: ใช้ขนาด 1×2 เมตร ลึก 50 ซม. หรือใช้กะละมังพลาสติกขนาดใหญ่
กระชังในแหล่งน้ำธรรมชาติ: เหมาะกับการเลี้ยงในแม่น้ำหรือบึงที่มีน้ำไหลเวียนดี
✅ การเตรียมน้ำ
ใช้น้ำสะอาดที่ไม่มีสารเคมี เช่น คลอรีนหรือยาฆ่าแมลง
ระดับน้ำควรลึก 30-50 ซม.
หมั่นเปลี่ยนน้ำบางส่วนทุก 3-5 วัน หรือใช้ระบบกรองน้ำเพื่อรักษาคุณภาพ
✅ พื้นบ่อ
ใส่โคลนหรือดินเหนียวลงไปประมาณ 10-15 ซม. เพื่อให้หอยขมฝังตัว
สามารถใส่ใบไม้แห้ง เช่น ใบตองหรือใบไผ่ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมธรรมชาติ
2. การเลือกหอยขมยักษ์สำหรับเลี้ยง
ควรเลือกหอยที่มีเปลือกแข็ง ไม่มีรอยแตกหรือเน่า
หอยควรมีขนาดใกล้เคียงกันเพื่อให้เติบโตพร้อมกัน
หลีกเลี่ยงการนำหอยจากแหล่งที่มีสารพิษมาปล่อยในบ่อ
3. อาหารของหอยขมยักษ์
✅ อาหารหลัก
เศษพืชน้ำ เช่น ผักบุ้ง, ผักกระเฉด, แหนแดง
ใบไม้ผุ เช่น ใบตองแห้ง ใบไผ่ ใบหูกวาง
ตะไคร่น้ำ และจุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นเองในบ่อ
✅ อาหารเสริม
รำข้าวละเอียด (วันละ 1 กำมือ/ตารางเมตร)
ผักต้ม เช่น ฟักทอง ตำลึง ผักกาดขาว
เศษผลไม้ เช่น กล้วย ฟักทอง แตงโม
✅ วิธีให้อาหาร
ให้อาหารวันละครั้งช่วงเย็น
ไม่ควรให้มากเกินไป เพราะจะทำให้น้ำเน่าเสีย
หากอาหารเหลือควรตักออก
4. การเพาะพันธุ์หอยขมยักษ์
✅ เงื่อนไขการผสมพันธุ์
หอยขมยักษ์สามารถผสมพันธุ์เองได้ ไม่ต้องแยกเพศ
อุณหภูมิน้ำที่เหมาะสม: 25-30°C
ต้องมีแหล่งอาหารที่สมบูรณ์
หลังจากผสมพันธุ์ หอยจะปล่อยลูกหอยขนาดเล็กออกมา (ออกลูกเป็นตัว)
✅ การดูแลลูกหอย
ควรมีพืชน้ำในบ่อเพื่อให้ลูกหอยเกาะและกินเศษอาหาร
หลีกเลี่ยงปลาหรือสัตว์น้ำอื่นที่อาจกินลูกหอย
แยกบ่อลูกหอยเมื่อเริ่มโต เพื่อป้องกันการแข่งขันอาหาร
5. การดูแลและป้องกันโรค
✅ ปัญหาที่พบบ่อย
น้ำเน่าเสีย: เกิดจากอาหารเหลือ ควรเปลี่ยนน้ำบางส่วนทุก 3-5 วัน
ศัตรูของหอย: เช่น ปลาช่อน กบ หรือสัตว์น้ำอื่นๆ ควรใช้ตาข่ายคลุมบ่อ
เชื้อราและแบคทีเรีย: หากพบว่าหอยมีอาการผิดปกติ เช่น ไม่เคลื่อนที่ หรือมีเมือกผิดปกติ ควรเปลี่ยนน้ำทันที
6. การเก็บเกี่ยวและจำหน่าย
✅ ระยะเวลาเลี้ยง
หอยขมยักษ์ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3-5 เดือน จึงโตเต็มที่
คัดขนาดหอยที่โตแล้วออกขาย ส่วนหอยเล็กสามารถเลี้ยงต่อไปได้
✅ ตลาดและราคาขาย
ขายส่งให้ร้านอาหารหรือพ่อค้าในตลาด
ขายแบบแพ็กกิโลกรัม ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและคุณภาพ
ขายในรูปแบบหอยสดหรือหอยต้มพร้อมกิน
สรุป
✅ หอยขมยักษ์เลี้ยงง่าย โตเร็ว เหมาะกับการเลี้ยงในบ่อดินหรือบ่อซีเมนต์
✅ อาหารหลักเป็นพืชน้ำ ตะไคร่น้ำ และรำข้าว
✅ ผสมพันธุ์เองได้ และออกลูกเป็นตัว
✅ ดูแลเรื่องคุณภาพน้ำและป้องกันศัตรูให้ดี
✅ สามารถเก็บเกี่ยวได้ใน 3-5 เดือน