คนขับแอพ indriver โมโหใส่ผู้โดยสาร

เรื่องเกิดขึ้นที่เชียงใหม่ เรื่องมีอยู่ว่าเราเรียกรถจากมหาลัยกลับไปที่คอนโด ตอนที่ขึ้นรถคนขับดูเฟรนชี่มากตอนขึ้นรถทักทายปกติแถมยังพูดกับเราอีกว่าวันนี้ดีที่มีเด็กนักศึกษาเรียกรถเพราะเด็กรู้ทางมากกว่า GPS คนขับบอกไม่อยากขับตาม GPS เพราะว่า GPS ชอบบอกทางที่ต้องขับไกล เราก็ไม่ได้อะไรมากบอกทางปกติ พอออกจากมหาลัยนึกว่าคนขับจะไม่ถาม แล้วเป็นเวลาเดียวกับที่เรากำลังดูโทรศัพท์และตอบข้อความ คนขับพูดขึ้นมาว่าเลี้ยวซ้ายใช่มั้ย ด้วยความที่เรากำลังยุ่งอยู่แล้วไม่ได้มองทางก็เลยตอบว่าใช่เพราะนึกว่าคนขับจะดู GPS แล้วถามเราให้แน่ใจ พอเราเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ ก็เลยบอกกับคนขับว่าต้องเลี้ยวขวาค่ะถ้ามาทางนี้จะไกล หลังจากนักคนขับก็โมโหแล้วก็ขึ้นเสียงใส่ว่า"ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก ลุงก็ถามดีๆรู้มั้ยมันเสียเวลา ค่าโดยสารก็ไม่ได้เก็บเพิ่ม ถ้าแบบนี้ลุงไม่ไปแล้ว ลงจากรถไปเลย เดี๋ยวลุงจะคอมเพลนไปที่แอพด้วย" ความที่คนหนึ่งโมโหเราก็เลยต้องเย็นมากๆเพราะไม่อยากมีปัญหาหลังจากลุงแกพูดจบ แกก็จับโทรศัพท์ดู GPS แล้วขับรถแบบโมโหมาก บีบแตรไล่รถแทบทุกคัน ขับแบบเร็วมากๆซึ่งตอนนั้นะลาดมากที่ไม่ได้ถ่ายวีดีโอ ซึ่งเราเป็นคนหัวร้อนเหมือนกับแต่ทำอะไรมากไม่ได้เพราะกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆอยู่ด้วย ด้วยความที่แกขับรถแบบเร็วและไม่ชะลอ ไม่หลบหลุมไม่ชะลอตรงที่มีลูกระนาด สิ่งที่คิดคืออยากให้ถึงเร็วเพราะห่วงลูกในท้องด้วย พอถึงคอนโดด้วยความที่เราเสียงสั่นเราก็ขอคิวอาร์โค้ดเพื่อจ่าย แกก็หยิบออกมาแบบโมโห พอโอนเสร็จเราก็โชว์ให้ดู แกก็ทำท่าไม่พอใจและไม่สนใจ พอเสร็จเราเลยคอมเพลนไปยังแอพทางแอพบอกจะทำเรื่องให้  สุดท้ายอยากจะบอกว่าทำงานบริการต้องใจเย็นมากกว่านี้ตั้งแต่ใช้แอพนี้มาตั้งแต่ปี 3 ถึง ปี4 ไม่เคยเจอคนขับแบบนี้มาก่อน คุณควรดู GPS เพราะว่าบางทีไม่ใช่หน้าที่ผู้โดยสารที่จะมาบอกทางให้คุณและไม่ใช่ทุกคนที่จะทนได้  และอยากบอกทุกคนการอัดวีดีโอกับการตั้งสติเป็นสิ่งสำคัญมากถ้าไม่มีหลักฐานก็เหมือนเรื่องที่แต่งขึ้นมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่