iPhone 16e เป็น iPhone รุ่นใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพที่ดีในราคาที่คุ้มค่า แม้จะมีการตัดคุณสมบัติบางอย่างออกไป แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการชิป A18, จอ OLED และ Face ID ผู้ใช้ควรพิจารณาความต้องการและงบประมาณของตนเองก่อนตัดสินใจซื้อ



Apple ได้เปิดตัว iPhone 16e ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่มาแทนที่ iPhone SE พร้อมอัปเกรดหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น ชิป A18, รองรับ Apple Intelligence, และใช้โมเด็ม 5G แบบ C1 ที่ออกแบบโดย Apple เอง
แต่ถึงแม้ว่าจะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากมาย ก็ยังมีรายละเอียดบางอย่างที่หลายคนอาจมองข้ามไป ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึก 8 สิ่งที่คุณอาจพลาดเกี่ยวกับ iPhone 16e:

1. ไม่มีการรองรับ MagSafe
หนึ่งในข้อสังเกตที่สำคัญคือ iPhone 16e ไม่รองรับ MagSafe ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่สามารถใช้ อุปกรณ์เสริม MagSafe เช่น MagSafe Charger หรือ MagSafe Wallet ได้
อย่างไรก็ตาม iPhone 16e ยังคงรองรับ การชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi ทำให้สามารถใช้แท่นชาร์จไร้สายทั่วไปได้

2. GPU 4 คอร์
แม้ว่า iPhone 16e จะมาพร้อมกับ ชิป A18 เหมือนกับ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญคือ GPU ของ iPhone 16e มีเพียง 4 คอร์ ในขณะที่ iPhone 16 รุ่นมาตรฐานใช้ GPU แบบ 5 คอร์
สิ่งนี้อาจส่งผลต่อ ประสิทธิภาพด้านกราฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เล่นเกมหรือใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการพลังประมวลผลกราฟิกสูง

3. ความจุเริ่มต้น 128GB
Apple ได้เพิ่ม ความจุเริ่มต้นของ iPhone 16e เป็น 128GB ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดที่สำคัญเมื่อเทียบกับ iPhone SE รุ่นก่อน ที่มี ความจุเริ่มต้นเพียง 64GB
การเพิ่มความจุนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บรูปภาพ วิดีโอ และแอปพลิเคชันได้มากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพื้นที่จัดเก็บที่จำกัด

4. รองรับ Visual Intelligence ผ่านปุ่ม Action
แม้ว่า iPhone 16e จะไม่มีปุ่ม Camera Control เหมือนกับรุ่นที่สูงกว่า แต่ยังสามารถใช้งาน Visual Intelligence ผ่าน ปุ่ม Action ได้
Visual Intelligence เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สแกนและวิเคราะห์ข้อมูลจากกล้อง ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การแปลข้อความแบบเรียลไทม์ หรือ การระบุวัตถุในภาพ

5. ไม่มีชิป Ultra Wideband
หนึ่งในข้อจำกัดของ iPhone 16e คือ ไม่มีชิป Ultra Wideband (UWB) ซึ่งหมายความว่า ไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ Precision Finding สำหรับการค้นหาอุปกรณ์ที่รองรับ AirTag ได้อย่างแม่นยำ
อย่างไรก็ตาม iPhone 16e ยังคงสามารถใช้ Find My Network เพื่อค้นหาอุปกรณ์ที่สูญหายได้ผ่าน Bluetooth และ Wi-Fi

6. ความสว่างหน้าจอสูงสุด 800 nits
หน้าจอของ iPhone 16e มีความสว่างสูงสุด 800 nits สำหรับการใช้งานทั่วไป ซึ่งต่ำกว่า iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ที่มี ความสว่างสูงสุด 1,000 nits
ความแตกต่างนี้อาจส่งผลต่อ การมองเห็นหน้าจอในที่กลางแจ้ง โดยเฉพาะในสภาพแสงจ้า อย่างไรก็ตาม iPhone 16e ยังคงรองรับ HDR และสามารถเพิ่มความสว่างสูงสุดได้ถึง 1,200 nits เมื่อดูเนื้อหา HDR

7. รองรับ Wi-Fi 6 เท่านั้น
iPhone 16e รองรับเพียง Wi-Fi 6 ในขณะที่ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro รองรับ Wi-Fi 7 ซึ่งมีความเร็วและประสิทธิภาพที่ดีกว่า
ถึงแม้ว่า Wi-Fi 6 จะยังคงให้ความเร็วที่ดีและเสถียร แต่หากคุณต้องการ ประสิทธิภาพเครือข่ายที่ดีที่สุด อาจต้องพิจารณารุ่นที่สูงกว่านี้



iPhone 16e เหมาะกับใคร?
iPhone 16e เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ iPhone รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีในราคาที่คุ้มค่า แม้จะไม่มีคุณสมบัติบางอย่าง แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการชิป A18, จอ OLED และ Face ID

เปรียบเทียบ iPhone 16e กับ iPhone SE

ชิป: iPhone 16e ใช้ชิป A18 ในขณะที่ iPhone SE ใช้ชิป A15 หรือ A16 (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
จอภาพ: iPhone 16e ใช้จอ OLED ในขณะที่ iPhone SE ใช้จอ LCD
Face ID: iPhone 16e รองรับ Face ID ในขณะที่ iPhone SE ใช้ Touch ID
MagSafe: iPhone 16e ไม่รองรับ MagSafe ในขณะที่ iPhone SE ก็ไม่รองรับ MagSafe เช่นกัน
ราคา: iPhone 16e มีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่า iPhone SE

ที่มา :
iPhone16e เหมาะกับใคร