~~~See Angkor Wat and die (เพราะ PM 2.5)~~~
( 2 คนนี้ คือใครไม่รู้ ถ่ายติดมาเฉย ๆ)
เช้านี้เฮียตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุก 04.30 รีบอาบน้ำแปลงฟันเพราะเรามีนัดสำคัญ ต้องไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ปราสาทนครวัด
ช่วงเวลาประมาณ 05.00 นักท่องเที่ยวก็เริ่มหลั่งไหลมาจับจองพื้นที่เพื่อรับชมพระอาทิตย์ขึ้น หากใครจะไปช่วงเวลานี้ต้องเตรียมยากันยุงไปนะครับ ยุงหามมาก
ความบรรลัยในช่วงเดือนที่ไปคือเป็นช่วงมหกรรม PM 2.5 และกัมพูชาเองยังเป็นประเทศต้น ๆ ที่มีการเผาสร้างมลพิษทำให้ทัศนียภาพเต็มไปด้วยหมอกพิษตลอดทริป
ประมาณ 06.30 พระอาทิตย์ก็ขึ้น ภาพออกมาไม่สวยเท่าไร เพราะช่วงที่เฮียไปนี้เต็มไปด้วย PM 2.5 แต่ไม่เป็นไร เพราะมันทำให้เฮียตระหนักว่า See Angkor Wat and die ประโยคสุดคลาสสิคของ Arnold Joseph Toynbee เป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะ ถ้าใครมาช่วงมีนาคมให้ตรงกับ วันวิษุวัตนี่คือที่สุด เพราะดวงอาทิตย์จะขึ้นตรงกึ่งกลางปรางค์ประธานองค์กลางเลยครับ แต่แน่นอนถ้ามาวันนั้น ก็ต้องแย่งที่กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่หมายปองมาเก็บบรรยากาศในวันนั้นเป็นหมื่นคน
Angkor Wat เป็นคำที่ฝรั่งเศสได้ยินเพี้ยนมาจาก “นครวัด” ที่นี่เป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดนับแต่กาลสร้างสรรค์ของมวลมนุษยชาติ โดยถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าสูรยวรมันที่ 2 เพื่อบูชาพระวิษณุ และเป็นสถานที่ฝังพระศพของพระเจ้าสูรยวรมันที่ 2 โดยนครวัดมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “บรมวิษณุโลก” หรือ “พระวิษณุโลกา” อันหมายถึงสถานที่ประทับของพระวิษณุ
คติการสร้างคือนครวัดเป็นศูนย์กลางของจักรวาล โดยมีองค์ปรางประธานที่สูงกว่า 60 เมตร เป็นเขาพระสุเมรุ ปางบริวารทั้ง 4 เป็นตัวแทนมหาทวีปทั้ง 4 ชมพูทวีป อมรโคยานทวีป ปุพพวิเทหะทวีป และ อุตรกุถรุทวีป และรอบกำแพงนครวัดยังมีคูน้ำขนาดใหญ่ยาว 4 กิโล เป็นตัวแทนของมหาสมุทรที่ล้อมจักรวาลเอาไว้
เมื่อเข้ามาเราจะเจอระเบียงคตที่สลักภาพเรื่องเล่าทั้ง 4 ด้าน เป็นวิถีชีวิต ขบวนแห่ รามายณะ มหาภารตะ ไตรภูมินรก - สวรรค์ ซึ่งยอมรับว่ารอบนี้เฮียถ่ายมาแบบไม่ได้ละเอียดมากนัก เอาเฉพาะส่วนที่ตัวเองคิดว่าชอบ
เสร็จจากระเบียงคตเราจะเข้าสู่ชั้นในของตัวปราสาท เพื่อเดินต่อไปยังชั้นบนตัวปราสาท ข้อดีของทีนี่คือแม้พื้นที่จะใหญ่ แต่ความชันและทางขึ้นค่อนข้างสะดวกสบายครับ
ที่ชั้น 3 นครวัด ได้ประดิษฐาน พระพุทธรูปไว้ทุกทิศ ถึงตรงนี้เพื่อน ๆ อาจจะคิดว่า ไหนบอกเป็นศาสนสถานสำหรับพระวิษณุไง ใช่แล้วครับ แต่ในยุคหลัง นครวัดได้ถูกผสมผสานความเชื่อแบบพุทธเข้าไป และในรัชสมัยของนักองค์จันท์ หรือ สมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี ผู้ศรัทธาในพุทธศาสนาก็ได้มีการบูรณะเพิ่มความเป็นพุทธเข้าไปในตัวปราสาท
แต่ความจริงแล้ว ก่อนหน้านั้น นครวัดเองก็ได้ถูกทิ้งร้างความสำคัญ แต่หาได้ร้างลาผู้คน ที่นี่ยังคงเป็นศาสนสถานที่เหล่าพระภิกษุและผู้แสวงบุญนิยมเดินทางมา และได้รับการขุดสำรวจบูรณะโดยชาวฝรั่งเศสในภายหลังครับ
[CR] เฮียโจตะลุยอาณาจักรเขมร See Angkor Wat and die (เพราะ PM 2.5) Part 4
ความบรรลัยในช่วงเดือนที่ไปคือเป็นช่วงมหกรรม PM 2.5 และกัมพูชาเองยังเป็นประเทศต้น ๆ ที่มีการเผาสร้างมลพิษทำให้ทัศนียภาพเต็มไปด้วยหมอกพิษตลอดทริป
คติการสร้างคือนครวัดเป็นศูนย์กลางของจักรวาล โดยมีองค์ปรางประธานที่สูงกว่า 60 เมตร เป็นเขาพระสุเมรุ ปางบริวารทั้ง 4 เป็นตัวแทนมหาทวีปทั้ง 4 ชมพูทวีป อมรโคยานทวีป ปุพพวิเทหะทวีป และ อุตรกุถรุทวีป และรอบกำแพงนครวัดยังมีคูน้ำขนาดใหญ่ยาว 4 กิโล เป็นตัวแทนของมหาสมุทรที่ล้อมจักรวาลเอาไว้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น