ช่วงปลายปี 2023 เป็นช่วงปิดเทอมฤดูหนาว ผมเลยไปเที่ยวเม็กซิโกเพื่อหลบหนีความหนาวที่ยาวนานของเทือกเขารอกกี้ โดยทริปนี้ไป 4 เมืองเลยทีเดียว คือมี Mexico City, Puebla, Cholula และ Cancun รวมแล้ว 11 วัน เป็นทริปที่นานที่สุด และไปหลายเมืองที่สุดด้วย วันสุดท้ายถึงกับเป็นไข้ ฮ่าๆ โดยวันนนี้จะขอเล่าถึงเมืองเล็กๆ ใกล้ Mexico City ที่สวยงาม เก่าแก่ และมีประวัติศาสตร์ นั่นคือ Cholula นั่นเองครับ

  

Cholula เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงอย่างเม็กซิโกซิตี้ และอยู่ติดกับเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆของประเทศอย่าง Puebla (ปัวบลา) ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วคนจึงนิยมมาเที่ยวที่เมืองนี้แบบไปเช้าเย็นกลับ ติดมาเป็นแพ็คคู่กับ Puebla ผมเองก็เช่นกัน โดยวิธีเดินทางจาก Puebla มาที่ Cholula ก็ง่ายมาก นั่นคืออูเบอร์ ฮ่าๆ เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดแล้ว แต่ราคาก็แรงอยู่ จำได้ว่าไปกลับก็ 35 USD เลย แต่เดิมทีจะมีรถไฟที่ตรงมาจาก Puebla เลย  แต่เหมือนจะขาดทุนยับ เพราะค่าโดยสารถูกเกิน ตอนนี้เลยเลิกวิ่งไปแล้ว เสียดายมาก 

ผมออกจาก Puebla ช่วงสายๆ พอมาถึง Cholula ก็เดินเล่นโบสต์ในเมืองก่อน โบสต์ Convento de San Gabriel Arcángel จะอยู่ข้างๆสวนของเมือง เป็นโบสต์ใหญ่ที่น่าจะใช้จัดงานของเมือง เพราะตอนผมไปก็มีการประกอบพิธีบางอย่าง โดยโบสต์นี้จะไม่ได้สร้างในแบบที่เราคุ้นเคย และมีกลุ่มอาคารอื่นยื่นออกมาด้วยนะครับ  

สวนด้านข้างโบสต์ จะเห็นว่ามีการต่อเติมออกมาจนเป็นหมู่อาคาร 

ด้านหน้าของโบสต์ เก่าแก่มากก ผมร็สึกขลังสุดๆ เหมือนย้อนเวลากลับไปเดินเข้าโบสต์ในช่วงปี 1700 เลย 

เดินดูโบสต์จนทั่วก็มาเดินเล่นสวนข้างๆบ้าง Plaza de la Concordia เป็นทั้งสวนและจัตุรัสในตัว ตอนนั้นเริ่มเข้าเทศกาลคริสต์มาส ก็มีการประดับไฟ และตกแต่งสถานที่แล้ว ตอนกลางคืนน่าจะสวยอยู่ 

จัตุรัสกลางเมือง ซ้ายมีอคือร้านอาหารเรียงกันไป

ข้ามฝั่งถนนมาจะเป็นถนนสายหลัก มีร้านค้ามากมายที่ขายของต่างกันไป งานฝีมือ อัญมนี ร้านอาหารต่างๆ ผมเดินดูสักพักก็เที่ยงแล้ว เลยแวะร้านหนึ่งที่ตกแต่งสวยงาม และดูน่านั่ง นั่งเลือกอาหารอยู่นาน เห็น Aztec soup น่าสนใจมาก ไหนลองดูซิ ซุปของชาวแอซเท็ค ระหว่างรออาหารก็มีพนักงานมาชวนคุยด้วยท่าทางเขินๆ ถามว่ามาจากไหน ชื่ออะไร ผมก็บอกไปว่า Richard (ช่วงที่เรียนที่อเมริกาผมใช้ชื่อนี้) พนักงานก็ถามว่ารู้ไหมชื่อเธอในภาษาสเปนคืออะไร ผมก็บอกไม่รู้ เขาก็บอกว่ามันคือ...ไงล่ะ จากนั้นมาผมก็ใช้ชื่อนั้นแทนตัวเองมาโดยตลอด เพื่อนๆลองทายได้นะครับว่าชื่อผมเวอร์ชั่นภาษาสเปนคืออะไร 

ถนนสายหลักของเมือง มองไปมองมาก็เหมือนเมืองเก่าภูเก็ตบ้านเราอยู่นะผมว่า

ซุปแอซเท็ค อร่อยเลยนะ เค็ม เผ็ด นัว ที่เห็นขาวๆคือครีม ส่วนเส้นดำๆบนครีมคือพริก jalapeno อร่อยมากก อยากขอเพิ่ม อ้อ ขนมปังฟรีนะครับ แกะได้เลย ซึ่งผมก็แกะเลย เสี่ยงดวงไปก่อน เพราะมันไม่อิ่ม 55555 

ทานข้าวเที่ยงเสร็จก็ได้เวลาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองแล้ว นั้นคือ Zona Arqueológica de Cholula โดยสถานที่นี้คือซากอารยธรรมเก่าแก่ที่ถูกทับถมจนเป็นภูเขาเล็กๆ ชาวสเปนซึ่งเข้ามาก็ไม่รู้ นึกว่าเป็นภูเขาธรรมดา ต่อมาถูกพบว่าแท้จริงแล้วมีซากสถานที่โบราณอยู่ข้างใน จึงมีการขุดค้น แต่ก็ทำได้เพียงบางส่วน เพราะชาวสเปนได้สร้างโบสต์ไว้บนยอดเขานั่นเอง เนื่องจากทั้งโบสต์และซากอารยธรรมโบราณต่างก็มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ทั้งคู่ จะให้ทำลายโบสต์เพื่อขุดซากอารยธรรมก็คงไม่ได้  

ซากอารยธรรมที่มีถูกถมจนคนคิดว่าเป็นภูเขา ก็เลยสร้างโบสต์ทับเลย สุดท้ายอ้าว มีซากเมืองอยู่ข้างล่าง เลยเป็นที่มาของชื่อกระทู้นั่นเอง

โบสต์บนยอดเขา Santuario de la Virgen de los Remedios สีเหลืองโดดเด่น 

วิวด้านบนยอดเขา มองไปจะเห็นว่ามีภูเขาอยู่ แต่วันนี้เมฆเยอะ เลนยเห็นแค่ฐาน ก่อนหน้านี้ผมเห็นทั้งลูกตอนนั่งรถบัสมาจากเม็กซิโกซิตี้แล้ว

สวยสะกดใจมากก

เที่ยวเสร็จก็เกือบเย็นแล้ว ขอลาไปด้วยรูปนี้ครับ ผมรู้สึกว่ามันมีชีวิตชีวามาก ผู้คนนั่งดื่มด่ำกันตอนกลางวัน มีดนตรีบรรเลง ท่ามกลางสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์

ผมพบว่าเมือง Cholula นี้เป็นเมืองที่น่ามาเยี่ยมชมมาก เมืองสามารถปรับให้การท่องเที่ยว วิถีชีวิต และผู้คนสามารถเดินไปพร้อมกันได้ ทั้งยังเป็นเมืองเล็กๆที่สามารถเดินได้ทั่ว มีสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ แปลกตา อย่างโบสค์ Santuario de la Virgen de los Remedios ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งตั้งอยู่บนซากอารยธรรมแอซเท็คอีกที สำหรับผมแล้วเป็นเมืองที่น่ามาสักครั้งหาว่าได้มาเที่ยวในแถบนี้ เพื่อนๆที่เคยไปมาแล้ว มีแผนจะไป หรือมีข้อสงสัยอะไรอย่างลืมมาแลกเปลี่ยนกันที่ด้านล่างได้เลยนะครับ ยังเหลืออีก 3 เมือง เดี๋ยวผมจะทยอยมาเล่าให้ฟังนะครับ