”แอปหาคู่” ปิดตายความโสด



ฝั่งคนโสดก็ขอใช้โอกาสนี้ในการตามหาใครสักคนมาปิดตายความเหงา และสานสัมพันธ์ เพื่อพัฒนาสถานะเป็นเจ้าของหัวใจ

ถ้าไม่ได้ด้วยพรหมลิขิต ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีกลายเป็นตัวช่วยของทุกสิ่ง บรรดาเหล่าคนโสดก็มีตัวช่วย เป็น “แอปหาคู่” (Dating App)
สอดคล้องกับข้อมูลของแอปหาคู่ชื่อดัง “ทินเดอร์” (Tinder) ที่ระบุว่า ช่วงใกล้เทศกาลวาเลนไทน์ (1 ม.ค.-14 ก.พ.) เป็นช่วงพีกของการใช้ Tinder เรียกได้ว่าคึกคักมากที่สุดในรอบปีก็ว่าได้

จากข้อมูลเชิงพฤติกรรมที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า “แอปหาคู่” เข้ามามีอิทธิพลกับการสร้างความสัมพันธ์มากขึ้นเรื่อย ๆ จากที่คนโสดเคยใช้แพ็กเกจ แบบ “Freemium” ตามหาคนใหม่ ๆ แบบหอมปากหอมคอ มีไม่น้อยที่ขยับขึ้นมาเป็นแพ็กเกจ “Premium” ยอมจ่ายค่า Subscription เพื่อให้เจอคนที่ใช่ พร้อมสานสัมพันธ์ในระยะยาว

นำไปสู่การเติบโตของธุรกิจแอปหาคู่ ทั้งในแง่ของมูลค่าตลาด และความหลากหลายที่เจาะไปตามเซ็กเมนต์ของผู้ใช้แต่ละกลุ่ม เช่น Grindr เน้นฐานผู้ใช้กลุ่ม LGBTQ+ และ Muzz สำหรับใช้งานในกลุ่มชาวมุสลิมโดยเฉพาะ รายงาน Dating App Report 2024 โดย Business Of Apps ระบุว่า มูลค่าตลาดแอปหาคู่ทั่วโลกปี 2023 อยู่ที่ 5.34 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (1.8 ล้านล้านบาท) โตจากปี 2022 กว่า 8% และมีผู้ใช้งานกว่า 349 ล้านราย

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจาะรายละเอียดมาที่ประเทศไทย อ้างอิงจากข้อมูลของ Statista จะพบว่า มูลค่าตลาดแอปหาคู่ปี 2025 มีโอกาสแตะถึง 10.45 ล้านเหรียญสหรัฐ (353 ล้านบาท) และโตต่อเนื่องเป็น 11.19 ล้านเหรียญสหรัฐ (378 ล้านบาท) ในปี 2029
ในแง่จำนวนผู้ใช้พบว่าปี 2025 มีอัตราการเข้าถึงบริการ (Penetration Rate) ที่ 4.3% ของจำนวนประชากร และจะขยับขึ้นเป็น 4.9% ภายในปี 2029 หรือประมาณ 3.3 ล้านคน

สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่าคนโสดยุคดิจิทัลจำนวนไม่น้อย หันมาพึ่งพิง “แอปหาคู่” มากขึ้น...

cr: https://www.prachachat.net/ict/news-1754703

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่