ฉันลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในห้อง 206
พลางกวาดตามองรอบ ๆ ห้องใหม่ที่ต้องอยู่ไปอีกหลายเดือน
หอพักอยู่แถว รามอินทรา ค่อนข้างเงียบสงบ แต่อยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ มีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารตามสั่ง และวินมอเตอร์ไซค์ที่สามารถเรียกได้ง่าย ๆ ยามเย็นก็ไม่เงียบจนเกินไป พอมีคนเดินไปมาอยู่บ้าง บรรยากาศก็ยังดูคึกคักในแบบสบาย ๆ
ห้องนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก พื้นไม้สีเข้มที่มีรอยถลอกเล็กน้อย โต๊ะเขียนหนังสือเก่าที่มีรอยขูดขีด และเตียงที่ปูผ้าสีขาวสะอาด แต่กลิ่นอับจาง ๆ ในอากาศทำให้ต้องขมวดคิ้ว
“ห้องนี้พึ่งมีคนย้ายออกไปไม่นาน” เจ้าของหอพักพูดเสียงเรียบ ยืนอยู่ที่ประตูไม่เข้ามาข้างใน “ถ้ามีอะไรเสียหาย บอกได้นะครับ”
ฉันพยักหน้า ส่งยิ้มให้ ก่อนจะปิดประตูลง
แม้ห้องจะดูสะอาด แต่มีบางอย่างให้ความรู้สึก... แปลก
มันเหมือนกับว่าห้องนี้ไม่ใช่ "ห้องเปล่า" ที่พึ่งมีคนออกไป แต่มันให้ความรู้สึกเหมือน "ยังมีใครอยู่" ส่ายหัวให้กับความคิดบ้า ๆ ของตัวเอง แล้วก็เริ่มจัดของไปเรื่อย ๆ คงแค่คิดไปเองจากการย้ายเข้ามาใหม่ก็เท่านั้นแหละ...
ตอนที่เปิดลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือ เจอสมุดบันทึกเก่าเล่มหนึ่ง
มันเป็นสมุดปกแข็ง สีซีดจาง ขอบกระดาษเหลืองกรอบเหมือนผ่านเวลามานาน แต่ไม่มีฝุ่นเกาะเลย...
ใครบางคนลืมมันไว้ที่นี่?
ฉันหยิบมันขึ้นมา เปิดดูหน้าปกด้านใน ไม่มีชื่อเจ้าของ มีเพียงลายมือหวัด ๆ ที่เขียนข้อความสั้น ๆ
"ถ้าเธอเข้ามาอยู่ที่นี่"
ฉันขมวดคิ้ว... แล้วก็พลิกหน้าต่อไปอย่างไม่ใสใจ แต่ก็นึกสงสัยว่า... เอ่อ... ทำไมถึงเขียนอะไรทิ้งไว้แบบนี้นะ?
คืนแรกผ่านไปอย่างเงียบสงบ… หรืออย่างน้อยก็เป็นแบบนั้น
แต่พอถึงคืนที่สอง ฉันเริ่มได้ยินบางอย่าง
แกรก… ครืด…
เสียงเสียดสีเบา ๆ ดังมาจากห้องน้ำ เหมือนมีอะไรบางอย่างขูดกับพื้นอ่าง ฉันสะดุ้งตื่น ลืมตาขึ้นในความมืด หัวใจเต้นแรง เงี่ยหูฟัง… คิดว่าตัวเองอาจจะคิดไปเอง แต่แล้ว—
แกรก… ครืด…
คราวนี้มันดังขึ้นอีก ฉันแน่ใจว่ามันไม่ใช่เสียงจากข้างนอก มันมาจากในห้องน้ำ ค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้น หรี่ตามองไปทางประตูห้องน้ำที่แง้มอยู่เล็กน้อย ห้องยังคงมืดสนิท มีเพียงแสงจากเสาไฟฟ้าด้านนอกส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่าง คว้าโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดไฟฉายส่องไปทางประตู พลางกลั้นหายใจ
เงียบ—
ไม่มีอะไร…
ฉันลุกขึ้น…เดินไปเปิดไฟห้องน้ำ ทุกอย่างดูปกติ มีเพียงแปรงสีฟันที่วางไว้ข้างอ่างล้างหน้า แต่มันถูกเลื่อนออกจากที่เดิม ขยับมาอยู่ชิดขอบอ่าง เหมือนมีใครเอามันมาใช้แล้ววางคืน
ฉันขมวดคิ้ว… หรือเผลอทำเอง?
ส่ายหน้าให้ตัวเองเบา ๆ แล้วเดินกลับไปที่เตียง แต่ก่อนที่จะล้มตัวลงนอน ฉันสังเกตเห็นบางอย่าง
แก้วน้ำ
จำได้ดีว่าเมื่อคืนก่อนนอน วางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง แต่ตอนนี้… มันไปอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือแทน
ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ เดินไปหยิบมันขึ้นมาดู ไม่มีร่องรอยอะไรผิดปกติ ไม่มีคราบน้ำ ไม่มีรอยเปื้อน ...หรือแก้วมันเดินเองได้วะ…
กลับไปนอน ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวแน่น พยายามไม่คิดอะไร ปล่อยให้ความง่วงพาหลับไปในที่สุด. …
วันต่อมา
ฉันตัดสินใจลองถามเจ้าของหอเกี่ยวกับผู้เช่าคนก่อน
“คนก่อนเหรอครับ?”
เจ้าของหอถามพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “อ๋อ… พึ่งย้ายออกไปได้ไม่นานเอง”
“เขาทิ้งสมุดบันทึกไว้ในห้องค่ะ ฉันแค่สงสัยว่า…”
เจ้าของหอเหมือนจะหยุดคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้ แต่รอยยิ้มของเขาดูพิกล
“สมุดบันทึก…ทำไมเหรอครับ…?” เขาถามเสียงแหบเล็กน้อย สายตาของเขามองข้าง ๆ เหมือนจะหลีกเลี่ยงคำถาม
“แค่สงสัยนิดหน่อยค่ะ... ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ฉันยิ้มแห้ง ๆ แล้วพยายามไม่ให้ตัวเองแสดงความสงสัยออกไปมากกว่านี้
เขากลับมายิ้มบาง ๆ แล้วทำท่าทีผ่อนคลายขึ้น แต่สายตาของเขายังดูไม่สบายใจเท่าไหร่ รู้สึกเหมือนเขากำลังพยายามปิดบังบางอย่าง
“คนก่อนเป็นคนยังไงเหรอคะ?” ฉันถามเบา ๆ เพื่อเปิดทางให้คุยต่อ
เจ้าของหอถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะยักไหล่เหมือนกับไม่อยากพูดถึงมากนัก “ก็เป็นคนเงียบ ๆ ครับ ไม่ค่อยยุ่งกับใคร”
“เงียบ ๆ แบบไหนคะ?”
เขาหยุดไปอีกครั้ง คราวนี้เขาหันมามองฉันตรง ๆ ก่อนจะพูดเสียงเบา
“ไม่ค่อยออกจากห้องเท่าไหร่... ทำงานเสร็จก็กลับมาที่ห้อง บางทีก็ไม่มีเสียงอะไรจากห้องเลย แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ”
ฉันพยักหน้ารับ แต่สายตาของเขาที่เหลือบมองไปที่ประตูห้องดูแปลก ๆ
“แล้วเขามีปัญหาอะไรกับห้องไหมคะ?” ฉันถามต่อด้วยความสงสัย
เจ้าของหอยิ้มแบบไม่ค่อยเต็มที่
“เอ่อ…ไม่ครับ ห้องนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร คงแค่… เหมือนเขาจะไม่ได้อยู่บ่อยมาก”
“เหรอคะ”
ฉันไม่ได้ถามอะไรต่อ
ก่อนที่ฉันจะเดินออกไป เขาหันมาบอกว่า
“ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะครับ”
กลับมาที่ห้อง เปิดสมุดบันทึกเล่มนั้นขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ไล่สายตาอ่านมันอย่างจริงจัง
หน้าหลัง ๆ มีรอยขีดเขียนลวก ๆ คำบางคำถูกขีดฆ่า เหมือนคนเขียนลังเล แต่ข้อความสุดท้ายที่อยู่หน้าสุดท้ายของสมุดกลับทำให้ขนลุก
"ระวังให้ดี"
สองอาทิตย์ผ่านไป
ฉันเริ่มคุ้นชินกับห้อง 206...แต่ในความคุ้นเคย มันยังมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล บางอย่างที่ทำให้ไม่อาจรู้สึกว่า 'อยู่คนเดียว' ได้เลย
ฉันยังไม่คิดจะย้ายออกจากที่นี่ เพราะอย่างน้อยห้องนี้ก็สะดวกสบาย ทั้งเรื่องทำเลและค่าเช่าที่ไม่แพง ถ้าเทียบกับหอพักอื่นในย่านนี้ ถึงแม้จะยังได้ยินเสียงแปลก ๆ ในเวลากลางคืน — เสียงขูด เสียงกุกกัก เหมือนบางอย่างกำลังเคลื่อนที่อยู่ในเงามืด
บางคืน ฉันตื่นมาแล้วรู้สึกว่า มีบางอย่าง 'ยืนอยู่' ที่ข้างเตียง แต่พอเปิดไฟ ก็ไม่เห็นอะไร
แต่เรื่องพวกนี้ ถ้าเทียบกับการหาหอใหม่แล้ว ดูจะไม่คุ้มกันซักเท่าไหร่ แถมฉันก็ไม่ใช่คนกลัวผี เพราะยังไม่เคยเจอจัง ๆ เอาไว้ถ้าเจอ ก็ค่อยคุยกันว่า ใครจะย้ายออก
แล้วก็มีเรื่องเจ้าของหอ…
ตั้งแต่วันที่ถามเขาเรื่องผู้เช่าคนก่อน เขาก็เริ่มแสดงท่าทีไม่น่าไว้ใจ
คืนหนึ่ง ฉันกลับมาจากทำงานดึกกว่าปกติ ขณะที่ไขกุญแจเข้าห้อง เห็นประตูห้องแง้มอยู่เล็กน้อย…ก่อนออกไปฉันแน่ใจว่าล็อกแล้ว
หัวใจเต้นแรง ขณะค่อย ๆ ผลักประตูเข้าไป ห้องมืดสนิท แต่กลิ่นบางอย่างลอยอวลอยู่ในอากาศ — กลิ่นอับชื้นเจือกลิ่นเหม็นจาง ๆ เหมือนอะไรเน่าเสีย กวาดตามองไปรอบ ๆ ทุกอย่างดูปกติ… จนเห็นบางอย่างอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ
แก้วน้ำ…ข้างในมี 'น้ำ' อยู่… ก่อนออกจากห้อง ฉันเทออกไปแล้วนะ?
วันต่อมา
ขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ มองไปที่แก้วน้ำใบเดิมที่วางทิ้งไว้เมื่อคืน เริ่มคิดขึ้นว่า เรื่องทั้งหมดนี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเอง อาจจะมีใครบางคน… หรืออะไรบางอย่าง อยู่ในห้องนี้ ด้วยความที่เป็นคนอยากรู้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องชาวบ้าน ฉันจึงตัดสินใจหาคำตอบ…
ก่อนจะเข้านอน ฉันวางโทรศัพท์ไว้ที่มุมห้อง เปิดแอปพลิเคชันบันทึกวิดีโอ และตั้งกล้องให้จับภาพทั่วห้อง รวมถึงประตูทางเข้า
ฉันอยากรู้… ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่
(มีต่อ)
ห้อง 206 (นิยายผีเล่มละบาท)
พลางกวาดตามองรอบ ๆ ห้องใหม่ที่ต้องอยู่ไปอีกหลายเดือน
หอพักอยู่แถว รามอินทรา ค่อนข้างเงียบสงบ แต่อยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ มีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารตามสั่ง และวินมอเตอร์ไซค์ที่สามารถเรียกได้ง่าย ๆ ยามเย็นก็ไม่เงียบจนเกินไป พอมีคนเดินไปมาอยู่บ้าง บรรยากาศก็ยังดูคึกคักในแบบสบาย ๆ
ห้องนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก พื้นไม้สีเข้มที่มีรอยถลอกเล็กน้อย โต๊ะเขียนหนังสือเก่าที่มีรอยขูดขีด และเตียงที่ปูผ้าสีขาวสะอาด แต่กลิ่นอับจาง ๆ ในอากาศทำให้ต้องขมวดคิ้ว
“ห้องนี้พึ่งมีคนย้ายออกไปไม่นาน” เจ้าของหอพักพูดเสียงเรียบ ยืนอยู่ที่ประตูไม่เข้ามาข้างใน “ถ้ามีอะไรเสียหาย บอกได้นะครับ”
ฉันพยักหน้า ส่งยิ้มให้ ก่อนจะปิดประตูลง
แม้ห้องจะดูสะอาด แต่มีบางอย่างให้ความรู้สึก... แปลก
มันเหมือนกับว่าห้องนี้ไม่ใช่ "ห้องเปล่า" ที่พึ่งมีคนออกไป แต่มันให้ความรู้สึกเหมือน "ยังมีใครอยู่" ส่ายหัวให้กับความคิดบ้า ๆ ของตัวเอง แล้วก็เริ่มจัดของไปเรื่อย ๆ คงแค่คิดไปเองจากการย้ายเข้ามาใหม่ก็เท่านั้นแหละ...
ตอนที่เปิดลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือ เจอสมุดบันทึกเก่าเล่มหนึ่ง
มันเป็นสมุดปกแข็ง สีซีดจาง ขอบกระดาษเหลืองกรอบเหมือนผ่านเวลามานาน แต่ไม่มีฝุ่นเกาะเลย...
ใครบางคนลืมมันไว้ที่นี่?
ฉันหยิบมันขึ้นมา เปิดดูหน้าปกด้านใน ไม่มีชื่อเจ้าของ มีเพียงลายมือหวัด ๆ ที่เขียนข้อความสั้น ๆ
"ถ้าเธอเข้ามาอยู่ที่นี่"
ฉันขมวดคิ้ว... แล้วก็พลิกหน้าต่อไปอย่างไม่ใสใจ แต่ก็นึกสงสัยว่า... เอ่อ... ทำไมถึงเขียนอะไรทิ้งไว้แบบนี้นะ?
คืนแรกผ่านไปอย่างเงียบสงบ… หรืออย่างน้อยก็เป็นแบบนั้น
แต่พอถึงคืนที่สอง ฉันเริ่มได้ยินบางอย่าง
แกรก… ครืด…
เสียงเสียดสีเบา ๆ ดังมาจากห้องน้ำ เหมือนมีอะไรบางอย่างขูดกับพื้นอ่าง ฉันสะดุ้งตื่น ลืมตาขึ้นในความมืด หัวใจเต้นแรง เงี่ยหูฟัง… คิดว่าตัวเองอาจจะคิดไปเอง แต่แล้ว—
แกรก… ครืด…
คราวนี้มันดังขึ้นอีก ฉันแน่ใจว่ามันไม่ใช่เสียงจากข้างนอก มันมาจากในห้องน้ำ ค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้น หรี่ตามองไปทางประตูห้องน้ำที่แง้มอยู่เล็กน้อย ห้องยังคงมืดสนิท มีเพียงแสงจากเสาไฟฟ้าด้านนอกส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่าง คว้าโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดไฟฉายส่องไปทางประตู พลางกลั้นหายใจ
เงียบ—
ไม่มีอะไร…
ฉันลุกขึ้น…เดินไปเปิดไฟห้องน้ำ ทุกอย่างดูปกติ มีเพียงแปรงสีฟันที่วางไว้ข้างอ่างล้างหน้า แต่มันถูกเลื่อนออกจากที่เดิม ขยับมาอยู่ชิดขอบอ่าง เหมือนมีใครเอามันมาใช้แล้ววางคืน
ฉันขมวดคิ้ว… หรือเผลอทำเอง?
ส่ายหน้าให้ตัวเองเบา ๆ แล้วเดินกลับไปที่เตียง แต่ก่อนที่จะล้มตัวลงนอน ฉันสังเกตเห็นบางอย่าง
แก้วน้ำ
จำได้ดีว่าเมื่อคืนก่อนนอน วางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง แต่ตอนนี้… มันไปอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือแทน
ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ เดินไปหยิบมันขึ้นมาดู ไม่มีร่องรอยอะไรผิดปกติ ไม่มีคราบน้ำ ไม่มีรอยเปื้อน ...หรือแก้วมันเดินเองได้วะ…
กลับไปนอน ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวแน่น พยายามไม่คิดอะไร ปล่อยให้ความง่วงพาหลับไปในที่สุด. …
วันต่อมา
ฉันตัดสินใจลองถามเจ้าของหอเกี่ยวกับผู้เช่าคนก่อน
“คนก่อนเหรอครับ?”
เจ้าของหอถามพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “อ๋อ… พึ่งย้ายออกไปได้ไม่นานเอง”
“เขาทิ้งสมุดบันทึกไว้ในห้องค่ะ ฉันแค่สงสัยว่า…”
เจ้าของหอเหมือนจะหยุดคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้ แต่รอยยิ้มของเขาดูพิกล
“สมุดบันทึก…ทำไมเหรอครับ…?” เขาถามเสียงแหบเล็กน้อย สายตาของเขามองข้าง ๆ เหมือนจะหลีกเลี่ยงคำถาม
“แค่สงสัยนิดหน่อยค่ะ... ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ฉันยิ้มแห้ง ๆ แล้วพยายามไม่ให้ตัวเองแสดงความสงสัยออกไปมากกว่านี้
เขากลับมายิ้มบาง ๆ แล้วทำท่าทีผ่อนคลายขึ้น แต่สายตาของเขายังดูไม่สบายใจเท่าไหร่ รู้สึกเหมือนเขากำลังพยายามปิดบังบางอย่าง
“คนก่อนเป็นคนยังไงเหรอคะ?” ฉันถามเบา ๆ เพื่อเปิดทางให้คุยต่อ
เจ้าของหอถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะยักไหล่เหมือนกับไม่อยากพูดถึงมากนัก “ก็เป็นคนเงียบ ๆ ครับ ไม่ค่อยยุ่งกับใคร”
“เงียบ ๆ แบบไหนคะ?”
เขาหยุดไปอีกครั้ง คราวนี้เขาหันมามองฉันตรง ๆ ก่อนจะพูดเสียงเบา
“ไม่ค่อยออกจากห้องเท่าไหร่... ทำงานเสร็จก็กลับมาที่ห้อง บางทีก็ไม่มีเสียงอะไรจากห้องเลย แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ”
ฉันพยักหน้ารับ แต่สายตาของเขาที่เหลือบมองไปที่ประตูห้องดูแปลก ๆ
“แล้วเขามีปัญหาอะไรกับห้องไหมคะ?” ฉันถามต่อด้วยความสงสัย
เจ้าของหอยิ้มแบบไม่ค่อยเต็มที่
“เอ่อ…ไม่ครับ ห้องนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร คงแค่… เหมือนเขาจะไม่ได้อยู่บ่อยมาก”
“เหรอคะ”
ฉันไม่ได้ถามอะไรต่อ
ก่อนที่ฉันจะเดินออกไป เขาหันมาบอกว่า
“ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะครับ”
กลับมาที่ห้อง เปิดสมุดบันทึกเล่มนั้นขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ไล่สายตาอ่านมันอย่างจริงจัง
หน้าหลัง ๆ มีรอยขีดเขียนลวก ๆ คำบางคำถูกขีดฆ่า เหมือนคนเขียนลังเล แต่ข้อความสุดท้ายที่อยู่หน้าสุดท้ายของสมุดกลับทำให้ขนลุก
"ระวังให้ดี"
สองอาทิตย์ผ่านไป
ฉันเริ่มคุ้นชินกับห้อง 206...แต่ในความคุ้นเคย มันยังมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล บางอย่างที่ทำให้ไม่อาจรู้สึกว่า 'อยู่คนเดียว' ได้เลย
ฉันยังไม่คิดจะย้ายออกจากที่นี่ เพราะอย่างน้อยห้องนี้ก็สะดวกสบาย ทั้งเรื่องทำเลและค่าเช่าที่ไม่แพง ถ้าเทียบกับหอพักอื่นในย่านนี้ ถึงแม้จะยังได้ยินเสียงแปลก ๆ ในเวลากลางคืน — เสียงขูด เสียงกุกกัก เหมือนบางอย่างกำลังเคลื่อนที่อยู่ในเงามืด
บางคืน ฉันตื่นมาแล้วรู้สึกว่า มีบางอย่าง 'ยืนอยู่' ที่ข้างเตียง แต่พอเปิดไฟ ก็ไม่เห็นอะไร
แต่เรื่องพวกนี้ ถ้าเทียบกับการหาหอใหม่แล้ว ดูจะไม่คุ้มกันซักเท่าไหร่ แถมฉันก็ไม่ใช่คนกลัวผี เพราะยังไม่เคยเจอจัง ๆ เอาไว้ถ้าเจอ ก็ค่อยคุยกันว่า ใครจะย้ายออก
แล้วก็มีเรื่องเจ้าของหอ…
ตั้งแต่วันที่ถามเขาเรื่องผู้เช่าคนก่อน เขาก็เริ่มแสดงท่าทีไม่น่าไว้ใจ
คืนหนึ่ง ฉันกลับมาจากทำงานดึกกว่าปกติ ขณะที่ไขกุญแจเข้าห้อง เห็นประตูห้องแง้มอยู่เล็กน้อย…ก่อนออกไปฉันแน่ใจว่าล็อกแล้ว
หัวใจเต้นแรง ขณะค่อย ๆ ผลักประตูเข้าไป ห้องมืดสนิท แต่กลิ่นบางอย่างลอยอวลอยู่ในอากาศ — กลิ่นอับชื้นเจือกลิ่นเหม็นจาง ๆ เหมือนอะไรเน่าเสีย กวาดตามองไปรอบ ๆ ทุกอย่างดูปกติ… จนเห็นบางอย่างอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ
แก้วน้ำ…ข้างในมี 'น้ำ' อยู่… ก่อนออกจากห้อง ฉันเทออกไปแล้วนะ?
วันต่อมา
ขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ มองไปที่แก้วน้ำใบเดิมที่วางทิ้งไว้เมื่อคืน เริ่มคิดขึ้นว่า เรื่องทั้งหมดนี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเอง อาจจะมีใครบางคน… หรืออะไรบางอย่าง อยู่ในห้องนี้ ด้วยความที่เป็นคนอยากรู้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องชาวบ้าน ฉันจึงตัดสินใจหาคำตอบ…
ก่อนจะเข้านอน ฉันวางโทรศัพท์ไว้ที่มุมห้อง เปิดแอปพลิเคชันบันทึกวิดีโอ และตั้งกล้องให้จับภาพทั่วห้อง รวมถึงประตูทางเข้า
ฉันอยากรู้… ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่
(มีต่อ)