ผมขับรถออกจากหมู่บ้านเพื่อที่จะไปทำธุระข้างนอก ระหว่างจอดรอรถที่วิ่งผ่านไปผ่านมาให้ถนนโล่งเพื่อที่จะขับรถข้ามไปเลนฝั่งโน้นเพื่อที่จะออกถนนใหญ่ก่อนหน้านั้นมีมอไซค์จอดรออยู่ก่อนแล้วทางขวามือ ผมก็จอดรอไปปกติจนถนนโล่ง ผมก้ตบไฟเลี้ยวขวาไปปกติ ขยับรถออกไปเรื่อยๆช้าๆจนพอมาถึงกลางถนนจู่ๆล้อรถของผมที่มันหันออกทางด้านขวาไปดันรถมอไซค์ล้ม ผมก้เรียกประกันมา (ประกันรถผมชั้น1)  
เข้าเรื่องเลยละกันครับ 
ประกันของผมเคลียร์หมดทุกอย่างแล้ว เคลมรถ ค่าสินไหม ผมยอมรับว่าผมผิด ผมบอกให้เขาไปโรงพักด้วยกันเพื่อที่จะลงบันทึกประจำวันไว้  แต่เขาไม่ไป เขาบอกไม่เป็นไรอะไร จากนั้นก้คุยกันเสร้จ แยกย้ายกัน
วันต่อมาตอนเย็น เขาโทรมาหาผมแล้วบอกผมว่า ให้ผมเอารถเขาไปส่งที่ประกันวิริยะเพื่อให้ประกันถ่ายรูปและให้ผมเอารถเขาไปส่งที่ศูนย์ซ่อม เขาก้ยื่นข้อเสนอมาว่า เดี๋ยวเขาจะจ้างเพื่อนเขาที่มีรถกระบะมายกรถเขาไป ให้ผมจ่ายค่ารถค่าน้ำมันให้ 500 บาท แต่...ทั้งๆที่รถเขาไม่เป็นอะไรนะครับ ขี่ได้ปกติ ไม่ได้เป็นอุบัติเหตุร้ายแรง ล้อรถผมไปโดนช่วงที่จังหวะเลี้ยวแล้วทำให้เขาล้มแปะ มีแค่ถลอก แต่เขาบอกว่าไม่สามารถขับรถไปหาประกันได้ แบบนี้ผมต้องรับผิดชอบด้วยรึป่าวครับ เพราะว่าตอนคุยกันประกันก้คุยกับจบหมดแล้ว  ส่วนตัวผมคิดว่ามันควรจะเป็นหน้าที่ของเขาเองรึป่าวครับ ที่จะต้องไปเบิกเงินกับประกันเองที่บริษัทประกัน ระยะทางไม่ได้ไกลเลยครับ จากคลอง3 คลองหลวง ไปบริษัทประกันที่ตลาดไอยรา คลองหลวง ระยะทางแค่8กิโล

ผมเลยมาสอบถามพี่ๆว่า ผมต้องเอารถเขาขึ้นรถกระบะผม และพาไปส่งที่บริษัทประกันเพื่อถ่ายรูป และพาไปส่งที่ศูนย์ซ่อมอีก  มันควรเป็นหน้าที่ของผม หรือ มันเป็นหน้าที่ของเขาครับ 
เปิดกล้องหน้ารถผมมาดู เขาผิดเต็มๆเลยครับ แต่ผมยอมรับผิดไปเพราะไม่อยากวุ่นวาย
สอบถามเขาทีหลังเขาบอกเขาจะเข้าซอยตรงข้าม ผมชิดขวาแล้วเพื่อที่จะเลี้ยวไปทางขวา แต่เขาดันมาอยู่ทางขวามือผม ก้เท่ากับว่าเขาตัดหน้ารถผม (ดูจากกล้องหน้ารถ)
รบกวนพี่ๆที่มีความรู้ หรือ มีประสบการณ์ ช่วยชี้แนะผมหน่อยครับ