เมื่อวันที่ 7 ก.พ. เวลา 16.26 น.ถนนมี 2 ช่องทาง สวนกัน  รถมี 3 คัน
ขับตามกันมา
คันที่ 1 รถกะบะ คู่กรณี
คันที่ 2 รถเบ๊น 
คันที่ 3 รถแคมรี่ (รถของเรา)

เราเปิดไฟเลี้ยวขวา เพื่อแซงรถเบ๊นซ์ เมื่อเราแซงเบ๊นซ์ขึ้นมา เห็นรถกะบะชะลอและเปิดไฟจะเลี้ยวขวา ตรงเส้นเหลือง

เราอยู่เลนแซงอยู่ จึงตบไฟสูงใส่หลายครั้ง และคู่กรณีหลบให้ โดยกลับไปเลนเดิม และปิดไฟเลี้ยว พอเราแซงไปไกล้ถึง ด้วยความเร็ว 110  คู่กรณีก็เลี้ยวขวา มา เราหักหลับ จึงชน ท้าย รถกะบะ ฝั่งซ้ายไป
รถเราตกลงไปข้างทาง รถคู่กรณี ก็ตกลงไปข้างทางเหมือนกัน

คู่กรณี ให้การกับ ร้อยเวร ในวันเกิดเหตุ ว่า  
เห็นเราแซงขึ้นมา ด้วยความเร็ว ผมตกใจ  เขาพูดแบบนี้

ส่วนเราเอง ก็ยอมรับว่า ประมาท เพราะเราดันคิดว่า เค้าเห็นเราแล้ว เขาหลบให้แล้ว เขาคงไม่เลี้ยว

พอวันไกล่เกลี่ย คู่กรณี บอกกับร้อบเวร ว่า
วันนั้น เค้าเห็นแค่รถเบนซ์คันเดียว ไม่เห็นรถเรา แซงขึ้นมา
#คู่กรณีกลับคำ 

และต่างฝ่ายต่างไม่มีใบขับขี่ = ขับรถไม่เป็นทั้งคู่ไหม??

ต่างฝ่ายต่างเจ็บกันนิดหน่อย  แต่ตำรวจ หลังจะสรุป ว่า เราผิด เพียงเพราะ ว่า ตอนเราแซง เราไม่ได้บีบแตรขอทางคันหน้า ว่าเราทำไม่ครบ

ร้อยเวรบอกว่า หากมีทาง 2 ช่องทาง จะแซงคันหน้า ต้องเปิดไฟเลี้ยว ตบไฟหลายครั้ง และบีบแตร

แล้วตัดสินให้เราผิดฝ่ายเดียว ส่วนเรื่องใบขับขี่ พูดตำหนิแต่เราคนเดียว ว่า ทำไม่ยอมทำ แต่คู่กรณีไม่เห็นตำรวจพูดตำหนิเขาบ้างเลย 

ตำรวจควรให้ประมาทร่วมไหม เพราะรถเราก็เสียหายเยอะ เราก็ต้องซ่อมเอง

แบบนี้ ตำรวจตัดสินเป็นธรรมไหมค่า
ตอนแซง ต้องบีบแตร ด้วยจริงหรือ??

ช่วยแนะนำทีค่า จะไปแบบไหนต่อดี