
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ดิฉันมีสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ มาแนะนำค่ะ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าวันหยุดยาวนี้จะไปไหนหรือใครที่กำลังวางแผนจะออกเดินทางไปยังภาคใต้ในช่วงฤดูร้านที่กำลังจะมาถึงนี้ ดิฉันขอแนะนำเพื่อนๆ ให้ลองปักหมุดมาที่จังหวัดสงขลาเลยค่ะ “สงขลาเมืองดีที่มีมากกว่าทะเล”
หากเราจะพูดถึงจังหวัดสงขลาหลายๆ คนก็จะนึกถึง หาดสมิหลาที่มีนางเงือก เกาะหนูเกาะแมวตำนานนิทานสุดฮิต หรือตลาดกิมหยงศูนย์กลางทางการค้าสุดยิ่งใหญ่ เมื่อมาถึงตรงนี้เพื่อนๆ บางคนคงหยุดคิดแล้วใช่ไหมคะว่า เอ๊ะ! นอกจากสถานที่เที่ยวเหล่านี้ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเหรอใช่ ค่ะ ดิฉันอยากจะบอกว่าวัดในจังหวัดสงขลาก็น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน และวัดที่ดิฉันหยิบยกมาให้ชมในวันนี้ ดิฉันนำมาจากวรรณกรรมชุมชนเพื่อการเรียนรู้จังหวัดสงขลา ของทางสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ หนังสือที่นำเอาตำนาน และเรื่องราวในชุมชนออกมาเผยแพร่ให้ผู้คนเข้าถึง เข้าใจ และสำนึกรักในวัฒนธรรมของตนเอง ดังนั้นเพื่อนๆ จึงมั่นใจได้เลยค่ะว่าวัดทั้ง 10 ที่ดิฉันจะแนะนำในวันนี้จะเป็นวัดพื้นถิ่นที่เพื่อนๆ อาจจะยังไม่รู้จัก วัดเหล่านี้ต่างมีตำนานเล่าขานสืบต่อมาเรียกได้ว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ใครที่ชื่นชอบตำนานเรื่องเล่าหรือใครที่เป็นสายมู รักในการกราบไหว้ขอพร ดิฉันเชื่อว่าต้องชอบแน่นอนค่ะ ถ้าหากเพื่อนๆ พร้อมแล้วเราไปลุยกันเลยค่ะ
1. วัดท่าแซ อำเภอหาดใหญ่ วัดแห่งนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดท่าแซ” เนื่องจากในสมัยก่อนตำบลแห่งนี้มีคลองอู่ตะเภาที่เป็นศูนย์กลางการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนค้าขายที่เจริญมาก สาเหตุนี้เองจึงเป็นจุดกำเนิดของชื่อหมู่บ้าน “ท่าแซ” และสำหรับวัดท่าแซนั้น เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นราวปี พ.ศ.2329 วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีตำนานเรื่องเล่ากล่าวขานมาช้านาน พ่อท่านแดงวาจาสิทธิ์ ก็เป็นอีกหนึ่งตำนานที่ชาวบ้านเคารพรักศรัทธาและเล่าขานสืบกันมาแม้ว่าท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังคงระลึกถึง ยังคอยแนะนำลูกหลานและแขกที่มาเยือนให้ไปกราบไหว้ขอพรต่อรูปปั้นของท่าน ชาวบ้านเล่ากันว่าพ่อท่านสามารถรู้ถึงเหตุการณ์ล่วงหน้า ผู้คนในชุมชนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงเป็นที่มาของ “พ่อท่านแดง วาจาสิทธิ์” นอกจากนี้พ่อท่านแดงยังมีวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมโดยที่โด่งดังคือพระปิดตาหลวงพ่อท่านแดงวัดท่าแซรุ่นแรกสร้างเมื่อปี พ.ศ.2528 และยังเป็นพระปิดตาที่หาตัวจริงค่อนข้างยากเพราะสร้างมาไม่เกิน 200 องค์ ส่วนรายละเอียดของวัดและวัตถุมงคลเพิ่มเติมเพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ หรือเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์สกร.จังหวัดสงขลา เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ชื่นชอบในวัตถุมงคลเลยนะคะและสำหรับใครที่อยากตามรอยไปสักการะบูชาพ่อท่านแดง ณ วัดท่าแซ เพื่อความเป็นสิริมงคลก็สามารถไปตามพิกัดด้านล่างได้เลยค่ะ
https://maps.app.goo.gl/UVUgU2gewL28Nf439
2.วัดเกาะอภินิหาร อำเภอสะบ้าย้อย วัดเกาะอภินิหาร หรือ วัดกุหร่า ชื่อเดิมที่ชาวพื้นที่คุ้นเคย ภายหลังเพี้ยนมาเป็น “วัดเกาะอภินิหาร” เนื่องจากชาวบ้านเชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์ของสถูปหลวงปู่ลิ้นดำที่ชาวบ้านเคารพนับถือ โดยเรียกสั้นๆ ว่า “ทวดลิ้นดำ” วัดแห่งนี้มีตำนานเล่าขานถึงอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดลิ้นดำชาวบ้านเล่าขานกันว่า มีโต๊ะอิหม่ามท่านหนึ่งอยากทดสอบอาคมกับหลวงปู่เขาท้าว่าหากหลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์จริงตามคำร่ำลือก็จงเอาชนะวิชาอาคมของเขาให้ได้ ซึ่งหากหลวงปู่เก่งจริงและเอาชนะเขาได้เขาจะยอมบวชเป็นพระและเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ตลอดไป (หากใครต้องการทราบรายละเอียดตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ลิ้นดำและกลวิธีการประลองสามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์
http://sk.nfe.go.th/sknfe/ หรือเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์สกร.จังหวัดสงขลา) ท้ายที่สุดบทสรุปของตำนานนี้คือโต๊ะอิหม่ามเป็นผู้แพ้การประลองและยอมเป็นลูกศิษย์ตามที่ได้ประกาศไว้ นอกจากตำนานดังกล่าววัดเกาะอภินิหารยังเป็นวัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งปัจจุบันวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างที่ได้มีการขึ้นทะเบียนตามประกาศราชกิจจานุเบกษา เรียกได้ว่าวัดเกาะอภินิหารเป็นวัดเก่าแก่ที่มีตำนานน่าค้นหามากเลยนะคะ หากใครสนใจเดินทางไปเยี่ยมชมและตามรอยตำนานพิกัดอยู่ด้านล่างนี้ค่ะ
https://maps.app.goo.gl/TgDAyjm2QEmg8nZo8
3.วัดพังยาง อำเภอระโนด วัดพังยางตั้งอยู่ในชุมชนโบราณพังยางเป็นชุมชนโบราณในเขตตำบลพังยางอำเภอระโนด ประกอบด้วยแหล่งโบราณคดีสำคัญ ได้แก่ แหล่งโบราณคดีวัดขุนช้าง-บ้านสามีและคลองบ้านโพธิ์เป็นเส้นทางน้ำที่สำคัญ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่าวัดพังยางตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.1380 ปัจจุบันวัดมีอายุกว่าพันปีจากการสัมภาษณ์ของพระครูซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพังยาง ครั้งหนึ่งเคยมีพระนางท้าวราชกฤษณาพระอัครมเหสีของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้เดินทางมายังเมืองระโนดและได้มาพักที่ตำบลพังยาง จึงเป็นเหตุไว้มีการก่อสร้างวัดพังยางแห่งนี้ขึ้น ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดพังยางในราชกิจจานุเบกษา สำหรับใครที่ชื่นชอบการเที่ยวชมโบราณสถานหรือวัดที่มีความเก่าแก่ วัดพังยางก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้ที่สนใจ หากใครต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในแง่มุมอื่นๆ ก็สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์
http://sk.nfe.go.th/sknfe/ หรือเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์สกร.จังหวัดสงขลา ส่วนพิกัดการเดินทางจะแปะไว้ด้านล่างค่ะ
https://maps.app.goo.gl/kzAQeyEWAebyEJsr5
4.วัดควนเจดีย์ อำเภอเมืองสงขลา เป็นวัดที่มีความน่าสนใจในแง่ของสถาปัตยกรรมคือ เจดีย์ หอระฆัง กุฏิ สร้างอยู่บนก้อนหินทั้งหมด วัดควนเจดีย์ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.2478 โดยที่ดินของวัดมาจากการบริจาคของพี่น้องชาวไทยพุทธและพี่น้องชาวมุสลิม โดยวัดควนเจดีย์มีพระศักดิ์สิทธิ์คู่วัดประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่บริเวณเนินหิน ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล วัดควนเจดีย์เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองจังหวัดสงขลา หากใครเดินทางไปสักการะ ณ วัดควนเจดีย์เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในอำเภอเมืองได้ค่ะ เช่น แหลมสมิหลา ถนนนางงาม หรือจะแวะชิมไข่ครอบสุดโด่งดังจากจังหวัดสงขลาก็ดีเลยค่ะ และนี่คือพิกัดของวัดค่ะ
https://maps.app.goo.gl/1eE9UePRhgigGnVBA
5.วัดเอก อำเภอกระแสสินธุ์ วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัย พ.ศ.2100 ตรงกับสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดแห่งนี้มีหลวงพ่อเดิมเป็นพระพุทธรูปขนาดเล็กปางนั่งสมาธิ ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถเชื่อว่ามีความขลังและมีความศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนแถวนั้นเลื่อมใสศรัทธาตำนานเล่าสืบต่อกันว่าหลวงพ่อเดิมลอยน้ำมากับแพพร้อมด้วยพระพุทธบาท ประชาชนพบเห็นจึงต้องการนิมนต์ท่านไปที่วัดเชิงแสใต้แต่แม้จะใช้กำลังคนมากเพียงใดก็ไม่สามารถชักลากได้ ภายหลังชาวบ้านจึงได้จุดธูปเทียนนิมนต์ให้ท่านไปประดิษฐาน ณ วัดเอก โดยใช้เส้นด้ายเพียงสามเส้น ครั้งนี้เกิดผลสำเร็จ ท่านเป็นที่เคารพบูชารับการบนบานของชาวบ้านตลอดมา โดยชาวบ้านเชื่อว่าท่านมีอภินิหารหรืออำนาจลึกลับดลบันดาลปัดเป่าภัยต่างๆ ให้หายไป สำหรับใครที่ชื่นชอบวัดเก่าแก่ มีตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถเดินทางไปตามพิกัดนี้ได้เลยค่ะ
https://maps.app.goo.gl/uZW2741oifvQKWP47
6.วัดแหลมบ่อท่อ อำเภอกระแสสินธุ์ วัดแห่งนี้เป็นวัดที่เชื่อกันว่ามีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตามตำนานเล่าว่ามีพระรูปหนึ่งชื่อ พระสินนารายณ์ และ ขุนวิชัยพรหมศานส์ ซึ่งเป็นฆราวาสได้เดินทางมาสร้างบ่อน้ำนี้ไว้ จนมีน้ำใสตลอดทั้งปี สมัยก่อนชาวบ้านเรียกว่า “บ่อทอง” เนื่องจากมีตำนาน “ทองแม่ขัน” ที่เล่าสืบมา หากใครสนใจตำนานของทองแม่ขันสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ เพจเฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์ สกร.จังหวัดสงขลา ในเชิงประวัติศาสตร์เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประพาสหัวเมืองใต้ เพื่อทอดพระเนตรเกาะสี่ เกาะห้า ระหว่างทางกลับขึ้นฝั่งท่านได้ประทับใกล้ๆ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่ท่านประทับอยู่นั้นท่านได้เกิดอาการประชวร แต่เมื่อพระองค์ได้ลองสรงสนานพระวรกายจากบ่อทอง ก็ทรงหายจากการประชวรตั้งแต่นั้นชาวบ้านก็ถือว่าบ่อน้ำแห่งนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นสิริมงคลจึงนำน้ำจากบ่อนี้มาใช้ประกอบพิธีมงคลต่างๆเรื่อยมา หากใครสนใจจะเดินทางไปตามรอยบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้สามารถไปตามพิกัดด้านล่างได้เลยคะ
https://maps.app.goo.gl/9fiJNtkiNBsbAzjj8
7.วัดกาหรำ อำเภอกระแสสินธุ์ วัดมีลักษณะเด่นคืออยู่ใจกลางชุมชน มีสายน้ำไหลผ่านถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำการเกษตรของชาวกระแสสินธุ์ วัดกาหรำเป็นวัดที่มีตำนานพ่อจอมวัดกาหรำ โดยพ่อจอมแต่เดิมเป็นชาวปัตตานี เมื่อเกิดสงครามทำให้เมืองมลายูแตกพ่อจอมได้หลบหนีมาทางทะเลสาบสงขลาพร้อมด้วยสมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ พ่อจอมพาผู้คนที่หลบหนีมาทำนา จัดตั้งชุมชนและสร้างวัดกาหรำขึ้น เดิมวัดกาหรำชื่อวัดกรำหลวง มีสภาพเป็นวัดร้าง แต่พ่อจอมกับประชาชนได้บูรณะขึ้น หลังจากนั้นพ่อจอมก็ได้มาปกครองดูแลอาณาบริเวณแถวนั้น อีกทั้งยังช่วยเหลือรักษาชาวบ้านให้หายจากโรคภัยด้วยคาถาอาคม ท่านจึงเป็นที่เคารพรักศรัทธาจากชาวบ้าน หากใครชื่นชอบวัดท่ามกลางชุมชน เงียบสงบ มีเอกลักษณ์ก็สามารถไปตามพิกัดด้านล่างได้เลยค่ะ
https://maps.app.goo.gl/HbYnh9LFQqBEMdzeA
8.วัดชะแล้ อำเภอสิงหนคร เป็นหนึ่งในวัดที่มีความโบราณของลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา โดยเทียบเคียงวัดพะโคะตามประวัติที่มีการก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.1999 เมื่อนับรวมอายุตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จึงมีอายุกว่า 500 ปี นับได้ว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่ รองมาจากวัดพะโคะวัด วัดชะแล้เป็นวัดโบราณที่ปรากฎหลักฐานทางโบราณคดีและสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่าวัดชะแล้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ภายในวัดมีอากาศร่มรื่นและยังมีพิพิธภัณฑ์สำหรับศึกษาเรียนรู้วัตถุโบราณที่ขุดพบได้ภายในวัดและจากการที่คนนำมาบริจาคเพื่อจัดแสดง เรียกได้ว่าเป็นวัดที่มีเรื่องเล่า มีโบราณสถาน-วัตถุ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางศาสนาที่ครบครัน หากใครสนใจสามารถตามพิกัดนี้ไปได้เลยค่ะ
https://maps.app.goo.gl/DNJdCEZ9SnvFguBi8
9.วัดปริก อำเภอเทพา วัดที่เลื่องลือถึงความศักดิ์ศักดิ์สิทธิ์ของ “พ่อทวดหนอ” จากคำบอกเล่าของปราชญ์ชุมชนเล่าว่า พ่อทวดหนอเป็นศิษย์ของหลวงปู่ลิ้นดำ ท่านชอบศิลปะการแสดงและการร่ายรำ โดยเฉพาะมโนราห์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพ่อทวดหนอได้รับความศรัทธาจากชาวบ้านปริก เนื่องจากมีเหตุการณ์ศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นมากมาย เช่น เมื่อชาวบ้านมาบนบานศาลกล่าวในเรื่องที่ต้องการก็ได้ตามสมปารถนา สำหรับเพื่อนๆ คนใดที่สนใจและอยากตามรอยความศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถไปตามพิกัดด้านล่างได้เลยค่ะ
https://maps.app.goo.gl/aFr8c7BuruNnzRpo8
10.วัดปลักหนูเหนือ อำเภอนาทวี วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2160 ลักษณะเด่นของวัดปลักหนูเหนือมีการสร้างกุฏิไม้ เรือนไทย ศาลาเรือนไทย มีสถาปัตยกรรมเรือนไม้ที่สร้างด้วยไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ตะเคียน วัดปลักหนูเหนือยังมีกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาและรักษาประเพณีอันดีงามของชุมชน เช่น ในวันออกพรรษามีประเพณีการลากเรือพระ ซึ่งชาวบ้านจะอันเชิญพระพุทธรูปไม้สลักโบราณมาประดิษฐานบนเรือพระนอกจากนี้วัดปลักหนูเหนือยังมีบรรยากาศภายในวัดที่สงบเรียบง่าย ร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า สำหรับเพื่อนๆคนใดที่ชอบวัดที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม มีบรรยากาศของตวามเป็นธรรมชาติและสงบร่มเย็น สามารถเดินทางไปตามพิกัดนี้ได้เลยค่ะ
https://maps.app.goo.gl/vmB3yAavdNzJo3CJA
สุดท้ายนี้สำหรับใครที่ชื่นชอบสาระและเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับวรรณกรรมก็สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์
http://sk.nfe.go.th/sknfe/ และเพจประชาสัมพันธ์ของทางสกร.ได้เลยค่ะ
ตามรอยวัดพื้นถิ่นจากวรรณกรรมชุมชนเพื่อการเรียนรู้จังหวัดสงขลา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ดิฉันมีสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ มาแนะนำค่ะ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าวันหยุดยาวนี้จะไปไหนหรือใครที่กำลังวางแผนจะออกเดินทางไปยังภาคใต้ในช่วงฤดูร้านที่กำลังจะมาถึงนี้ ดิฉันขอแนะนำเพื่อนๆ ให้ลองปักหมุดมาที่จังหวัดสงขลาเลยค่ะ “สงขลาเมืองดีที่มีมากกว่าทะเล”
หากเราจะพูดถึงจังหวัดสงขลาหลายๆ คนก็จะนึกถึง หาดสมิหลาที่มีนางเงือก เกาะหนูเกาะแมวตำนานนิทานสุดฮิต หรือตลาดกิมหยงศูนย์กลางทางการค้าสุดยิ่งใหญ่ เมื่อมาถึงตรงนี้เพื่อนๆ บางคนคงหยุดคิดแล้วใช่ไหมคะว่า เอ๊ะ! นอกจากสถานที่เที่ยวเหล่านี้ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเหรอใช่ ค่ะ ดิฉันอยากจะบอกว่าวัดในจังหวัดสงขลาก็น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน และวัดที่ดิฉันหยิบยกมาให้ชมในวันนี้ ดิฉันนำมาจากวรรณกรรมชุมชนเพื่อการเรียนรู้จังหวัดสงขลา ของทางสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ หนังสือที่นำเอาตำนาน และเรื่องราวในชุมชนออกมาเผยแพร่ให้ผู้คนเข้าถึง เข้าใจ และสำนึกรักในวัฒนธรรมของตนเอง ดังนั้นเพื่อนๆ จึงมั่นใจได้เลยค่ะว่าวัดทั้ง 10 ที่ดิฉันจะแนะนำในวันนี้จะเป็นวัดพื้นถิ่นที่เพื่อนๆ อาจจะยังไม่รู้จัก วัดเหล่านี้ต่างมีตำนานเล่าขานสืบต่อมาเรียกได้ว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ใครที่ชื่นชอบตำนานเรื่องเล่าหรือใครที่เป็นสายมู รักในการกราบไหว้ขอพร ดิฉันเชื่อว่าต้องชอบแน่นอนค่ะ ถ้าหากเพื่อนๆ พร้อมแล้วเราไปลุยกันเลยค่ะ
1. วัดท่าแซ อำเภอหาดใหญ่ วัดแห่งนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดท่าแซ” เนื่องจากในสมัยก่อนตำบลแห่งนี้มีคลองอู่ตะเภาที่เป็นศูนย์กลางการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนค้าขายที่เจริญมาก สาเหตุนี้เองจึงเป็นจุดกำเนิดของชื่อหมู่บ้าน “ท่าแซ” และสำหรับวัดท่าแซนั้น เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นราวปี พ.ศ.2329 วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีตำนานเรื่องเล่ากล่าวขานมาช้านาน พ่อท่านแดงวาจาสิทธิ์ ก็เป็นอีกหนึ่งตำนานที่ชาวบ้านเคารพรักศรัทธาและเล่าขานสืบกันมาแม้ว่าท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังคงระลึกถึง ยังคอยแนะนำลูกหลานและแขกที่มาเยือนให้ไปกราบไหว้ขอพรต่อรูปปั้นของท่าน ชาวบ้านเล่ากันว่าพ่อท่านสามารถรู้ถึงเหตุการณ์ล่วงหน้า ผู้คนในชุมชนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงเป็นที่มาของ “พ่อท่านแดง วาจาสิทธิ์” นอกจากนี้พ่อท่านแดงยังมีวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมโดยที่โด่งดังคือพระปิดตาหลวงพ่อท่านแดงวัดท่าแซรุ่นแรกสร้างเมื่อปี พ.ศ.2528 และยังเป็นพระปิดตาที่หาตัวจริงค่อนข้างยากเพราะสร้างมาไม่เกิน 200 องค์ ส่วนรายละเอียดของวัดและวัตถุมงคลเพิ่มเติมเพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ หรือเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์สกร.จังหวัดสงขลา เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ชื่นชอบในวัตถุมงคลเลยนะคะและสำหรับใครที่อยากตามรอยไปสักการะบูชาพ่อท่านแดง ณ วัดท่าแซ เพื่อความเป็นสิริมงคลก็สามารถไปตามพิกัดด้านล่างได้เลยค่ะ https://maps.app.goo.gl/UVUgU2gewL28Nf439
2.วัดเกาะอภินิหาร อำเภอสะบ้าย้อย วัดเกาะอภินิหาร หรือ วัดกุหร่า ชื่อเดิมที่ชาวพื้นที่คุ้นเคย ภายหลังเพี้ยนมาเป็น “วัดเกาะอภินิหาร” เนื่องจากชาวบ้านเชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์ของสถูปหลวงปู่ลิ้นดำที่ชาวบ้านเคารพนับถือ โดยเรียกสั้นๆ ว่า “ทวดลิ้นดำ” วัดแห่งนี้มีตำนานเล่าขานถึงอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดลิ้นดำชาวบ้านเล่าขานกันว่า มีโต๊ะอิหม่ามท่านหนึ่งอยากทดสอบอาคมกับหลวงปู่เขาท้าว่าหากหลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์จริงตามคำร่ำลือก็จงเอาชนะวิชาอาคมของเขาให้ได้ ซึ่งหากหลวงปู่เก่งจริงและเอาชนะเขาได้เขาจะยอมบวชเป็นพระและเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ตลอดไป (หากใครต้องการทราบรายละเอียดตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ลิ้นดำและกลวิธีการประลองสามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ http://sk.nfe.go.th/sknfe/ หรือเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์สกร.จังหวัดสงขลา) ท้ายที่สุดบทสรุปของตำนานนี้คือโต๊ะอิหม่ามเป็นผู้แพ้การประลองและยอมเป็นลูกศิษย์ตามที่ได้ประกาศไว้ นอกจากตำนานดังกล่าววัดเกาะอภินิหารยังเป็นวัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งปัจจุบันวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างที่ได้มีการขึ้นทะเบียนตามประกาศราชกิจจานุเบกษา เรียกได้ว่าวัดเกาะอภินิหารเป็นวัดเก่าแก่ที่มีตำนานน่าค้นหามากเลยนะคะ หากใครสนใจเดินทางไปเยี่ยมชมและตามรอยตำนานพิกัดอยู่ด้านล่างนี้ค่ะ https://maps.app.goo.gl/TgDAyjm2QEmg8nZo8
3.วัดพังยาง อำเภอระโนด วัดพังยางตั้งอยู่ในชุมชนโบราณพังยางเป็นชุมชนโบราณในเขตตำบลพังยางอำเภอระโนด ประกอบด้วยแหล่งโบราณคดีสำคัญ ได้แก่ แหล่งโบราณคดีวัดขุนช้าง-บ้านสามีและคลองบ้านโพธิ์เป็นเส้นทางน้ำที่สำคัญ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่าวัดพังยางตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.1380 ปัจจุบันวัดมีอายุกว่าพันปีจากการสัมภาษณ์ของพระครูซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพังยาง ครั้งหนึ่งเคยมีพระนางท้าวราชกฤษณาพระอัครมเหสีของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้เดินทางมายังเมืองระโนดและได้มาพักที่ตำบลพังยาง จึงเป็นเหตุไว้มีการก่อสร้างวัดพังยางแห่งนี้ขึ้น ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดพังยางในราชกิจจานุเบกษา สำหรับใครที่ชื่นชอบการเที่ยวชมโบราณสถานหรือวัดที่มีความเก่าแก่ วัดพังยางก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้ที่สนใจ หากใครต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในแง่มุมอื่นๆ ก็สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://sk.nfe.go.th/sknfe/ หรือเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์สกร.จังหวัดสงขลา ส่วนพิกัดการเดินทางจะแปะไว้ด้านล่างค่ะ https://maps.app.goo.gl/kzAQeyEWAebyEJsr5
4.วัดควนเจดีย์ อำเภอเมืองสงขลา เป็นวัดที่มีความน่าสนใจในแง่ของสถาปัตยกรรมคือ เจดีย์ หอระฆัง กุฏิ สร้างอยู่บนก้อนหินทั้งหมด วัดควนเจดีย์ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.2478 โดยที่ดินของวัดมาจากการบริจาคของพี่น้องชาวไทยพุทธและพี่น้องชาวมุสลิม โดยวัดควนเจดีย์มีพระศักดิ์สิทธิ์คู่วัดประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่บริเวณเนินหิน ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล วัดควนเจดีย์เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองจังหวัดสงขลา หากใครเดินทางไปสักการะ ณ วัดควนเจดีย์เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในอำเภอเมืองได้ค่ะ เช่น แหลมสมิหลา ถนนนางงาม หรือจะแวะชิมไข่ครอบสุดโด่งดังจากจังหวัดสงขลาก็ดีเลยค่ะ และนี่คือพิกัดของวัดค่ะ https://maps.app.goo.gl/1eE9UePRhgigGnVBA
5.วัดเอก อำเภอกระแสสินธุ์ วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัย พ.ศ.2100 ตรงกับสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดแห่งนี้มีหลวงพ่อเดิมเป็นพระพุทธรูปขนาดเล็กปางนั่งสมาธิ ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถเชื่อว่ามีความขลังและมีความศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนแถวนั้นเลื่อมใสศรัทธาตำนานเล่าสืบต่อกันว่าหลวงพ่อเดิมลอยน้ำมากับแพพร้อมด้วยพระพุทธบาท ประชาชนพบเห็นจึงต้องการนิมนต์ท่านไปที่วัดเชิงแสใต้แต่แม้จะใช้กำลังคนมากเพียงใดก็ไม่สามารถชักลากได้ ภายหลังชาวบ้านจึงได้จุดธูปเทียนนิมนต์ให้ท่านไปประดิษฐาน ณ วัดเอก โดยใช้เส้นด้ายเพียงสามเส้น ครั้งนี้เกิดผลสำเร็จ ท่านเป็นที่เคารพบูชารับการบนบานของชาวบ้านตลอดมา โดยชาวบ้านเชื่อว่าท่านมีอภินิหารหรืออำนาจลึกลับดลบันดาลปัดเป่าภัยต่างๆ ให้หายไป สำหรับใครที่ชื่นชอบวัดเก่าแก่ มีตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถเดินทางไปตามพิกัดนี้ได้เลยค่ะ https://maps.app.goo.gl/uZW2741oifvQKWP47
6.วัดแหลมบ่อท่อ อำเภอกระแสสินธุ์ วัดแห่งนี้เป็นวัดที่เชื่อกันว่ามีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตามตำนานเล่าว่ามีพระรูปหนึ่งชื่อ พระสินนารายณ์ และ ขุนวิชัยพรหมศานส์ ซึ่งเป็นฆราวาสได้เดินทางมาสร้างบ่อน้ำนี้ไว้ จนมีน้ำใสตลอดทั้งปี สมัยก่อนชาวบ้านเรียกว่า “บ่อทอง” เนื่องจากมีตำนาน “ทองแม่ขัน” ที่เล่าสืบมา หากใครสนใจตำนานของทองแม่ขันสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ เพจเฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์ สกร.จังหวัดสงขลา ในเชิงประวัติศาสตร์เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประพาสหัวเมืองใต้ เพื่อทอดพระเนตรเกาะสี่ เกาะห้า ระหว่างทางกลับขึ้นฝั่งท่านได้ประทับใกล้ๆ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่ท่านประทับอยู่นั้นท่านได้เกิดอาการประชวร แต่เมื่อพระองค์ได้ลองสรงสนานพระวรกายจากบ่อทอง ก็ทรงหายจากการประชวรตั้งแต่นั้นชาวบ้านก็ถือว่าบ่อน้ำแห่งนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นสิริมงคลจึงนำน้ำจากบ่อนี้มาใช้ประกอบพิธีมงคลต่างๆเรื่อยมา หากใครสนใจจะเดินทางไปตามรอยบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้สามารถไปตามพิกัดด้านล่างได้เลยคะ https://maps.app.goo.gl/9fiJNtkiNBsbAzjj8
7.วัดกาหรำ อำเภอกระแสสินธุ์ วัดมีลักษณะเด่นคืออยู่ใจกลางชุมชน มีสายน้ำไหลผ่านถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำการเกษตรของชาวกระแสสินธุ์ วัดกาหรำเป็นวัดที่มีตำนานพ่อจอมวัดกาหรำ โดยพ่อจอมแต่เดิมเป็นชาวปัตตานี เมื่อเกิดสงครามทำให้เมืองมลายูแตกพ่อจอมได้หลบหนีมาทางทะเลสาบสงขลาพร้อมด้วยสมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ พ่อจอมพาผู้คนที่หลบหนีมาทำนา จัดตั้งชุมชนและสร้างวัดกาหรำขึ้น เดิมวัดกาหรำชื่อวัดกรำหลวง มีสภาพเป็นวัดร้าง แต่พ่อจอมกับประชาชนได้บูรณะขึ้น หลังจากนั้นพ่อจอมก็ได้มาปกครองดูแลอาณาบริเวณแถวนั้น อีกทั้งยังช่วยเหลือรักษาชาวบ้านให้หายจากโรคภัยด้วยคาถาอาคม ท่านจึงเป็นที่เคารพรักศรัทธาจากชาวบ้าน หากใครชื่นชอบวัดท่ามกลางชุมชน เงียบสงบ มีเอกลักษณ์ก็สามารถไปตามพิกัดด้านล่างได้เลยค่ะ https://maps.app.goo.gl/HbYnh9LFQqBEMdzeA
8.วัดชะแล้ อำเภอสิงหนคร เป็นหนึ่งในวัดที่มีความโบราณของลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา โดยเทียบเคียงวัดพะโคะตามประวัติที่มีการก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.1999 เมื่อนับรวมอายุตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จึงมีอายุกว่า 500 ปี นับได้ว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่ รองมาจากวัดพะโคะวัด วัดชะแล้เป็นวัดโบราณที่ปรากฎหลักฐานทางโบราณคดีและสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่าวัดชะแล้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ภายในวัดมีอากาศร่มรื่นและยังมีพิพิธภัณฑ์สำหรับศึกษาเรียนรู้วัตถุโบราณที่ขุดพบได้ภายในวัดและจากการที่คนนำมาบริจาคเพื่อจัดแสดง เรียกได้ว่าเป็นวัดที่มีเรื่องเล่า มีโบราณสถาน-วัตถุ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางศาสนาที่ครบครัน หากใครสนใจสามารถตามพิกัดนี้ไปได้เลยค่ะ https://maps.app.goo.gl/DNJdCEZ9SnvFguBi8
9.วัดปริก อำเภอเทพา วัดที่เลื่องลือถึงความศักดิ์ศักดิ์สิทธิ์ของ “พ่อทวดหนอ” จากคำบอกเล่าของปราชญ์ชุมชนเล่าว่า พ่อทวดหนอเป็นศิษย์ของหลวงปู่ลิ้นดำ ท่านชอบศิลปะการแสดงและการร่ายรำ โดยเฉพาะมโนราห์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพ่อทวดหนอได้รับความศรัทธาจากชาวบ้านปริก เนื่องจากมีเหตุการณ์ศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นมากมาย เช่น เมื่อชาวบ้านมาบนบานศาลกล่าวในเรื่องที่ต้องการก็ได้ตามสมปารถนา สำหรับเพื่อนๆ คนใดที่สนใจและอยากตามรอยความศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถไปตามพิกัดด้านล่างได้เลยค่ะ https://maps.app.goo.gl/aFr8c7BuruNnzRpo8
10.วัดปลักหนูเหนือ อำเภอนาทวี วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2160 ลักษณะเด่นของวัดปลักหนูเหนือมีการสร้างกุฏิไม้ เรือนไทย ศาลาเรือนไทย มีสถาปัตยกรรมเรือนไม้ที่สร้างด้วยไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ตะเคียน วัดปลักหนูเหนือยังมีกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาและรักษาประเพณีอันดีงามของชุมชน เช่น ในวันออกพรรษามีประเพณีการลากเรือพระ ซึ่งชาวบ้านจะอันเชิญพระพุทธรูปไม้สลักโบราณมาประดิษฐานบนเรือพระนอกจากนี้วัดปลักหนูเหนือยังมีบรรยากาศภายในวัดที่สงบเรียบง่าย ร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า สำหรับเพื่อนๆคนใดที่ชอบวัดที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม มีบรรยากาศของตวามเป็นธรรมชาติและสงบร่มเย็น สามารถเดินทางไปตามพิกัดนี้ได้เลยค่ะ https://maps.app.goo.gl/vmB3yAavdNzJo3CJA
สุดท้ายนี้สำหรับใครที่ชื่นชอบสาระและเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับวรรณกรรมก็สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://sk.nfe.go.th/sknfe/ และเพจประชาสัมพันธ์ของทางสกร.ได้เลยค่ะ