ทอง 3,000 ดอลลาร์ กูรูมอง ‘แค่ปากซอย’

ทอง 3,000 ดอลลาร์ กูรูมอง ‘แค่ปากซอย’ ปีนี้ แค่เดือนเศษพุ่งแล้ว 11%
นักวิเคราะห์มองราคาทอง 3,000 ดอลลาร์อยู่ใกล้แค่เอื้อม หลังจากทำราคาทะลุ 2,900 ดอลลาร์ มองโมเมนตัมขาขึ้นยังทรงพลังไม่แผ่ว ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปเพิ่มคาดการณ์ราคาใหม่

ภัยคุกคามจากสงครามภาษีล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จุดชนวนให้เกิดการแห่กันซื้อ “ทองคำ” ขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ทะลุ 2,900 ดอลลาร์เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา และทำให้หลายฝ่ายเริ่มพูดถึงความเป็นไปได้ของราคาทอง 3,000 ดอลลาร์กันอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ราคาทองสปอตพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,911.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 7 แล้วในปี 2568 ซึ่งปีนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นถึงเกือบ 11% แล้ว ต่อเนื่องหลังจากเพิ่มขึ้นถึง 27% ในปี 2567

รอสส์ นอร์แมน นักวิเคราะห์อิสระกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เป็นที่ชัดเจนมากว่า ราคาทองคำจะไปถึงเป้าหมายที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์อย่างแน่นอน และตลาดเองก็แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แทบจะไม่มีการปรับลดลงเลย ตอนนี้คำถามจึงไม่ใช่ว่าราคาทองจะขึ้นไปแตะ 3,000 หรือไม่ แต่จะไปถึงเมื่อใดต่างหาก

“เราควรจะได้เห็นราคาทองปรับราคาลงเพราะแรงเทขายเพื่อทำกำไร แต่เรากลับไม่เจอแบบนั้นเลย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าโมเมนตัมพื้นฐานที่ดันราคาทองนั้นทรงพลังมาก” นอร์แมน กล่าว

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ลงนามคำสั่งบริหารล่าสุดเมื่อเย็นวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้า 25% จากทั่วโลก เริ่มมีผลบังคับใช้ 4 มี.ค. นี้ ซึ่งนับเป็นภาษีตัวล่าสุดหลังจากที่สหรัฐเรียกเก็บภาษี 10% กับสินค้านำเข้าจากจีนไปแล้วมีผลเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ขณะที่ทรัมป์ได้เกริ่นก่อนหน้านี้ด้วยว่าจะเรียกเก็บภาษีแบบต่างตอบแทน โดยจะนำไปใช้กับทุกประเทศที่มีการเก็บภาษีนำเข้ากับสหรัฐ และจะใช้อัตราเดียวกันกับที่แต่ละประเทศเรียกเก็บด้วย
ที่มา :  กรุงเทพธุรกิจ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่